Global Invest

ASML ผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคตชิป

ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องจักรที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่เรียกว่า Photolithography โดยบริษัทเป็นผู้ครองตลาดเพียงรายเดียวในเทคโนโลยีลิโทกราฟีขั้นสูงที่เรียกว่า Extreme Ultraviolet Lithography (EUV) ที่จำเป็นสำหรับการผลิตไมโครชิประดับสูง
ASML ช่วยให้บริษัทต่างๆ เช่น TSMC และ Samsung Foundry พัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่นำไปใช้ในฮาร์ดแวร์ AI ของ NVIDIA และ AMD เป็นต้น
ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลง 2.87% สวนทางดัชนี Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้น 33.96% อย่างไรก็ดีหากมองการปรับตัวของราคาหุ้นรอบ 5 ปี จะพบว่าหุ้น ASML ปรับตัว +153.7% ซึ่งเหนือกว่าดัชนี Nasdaq ที่ +121.78%

จุดแข็งของ ASML

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ASML พัฒนาเครื่อง Lithography ที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยเครื่อง EUV รุ่น Low-NA สามารถลดความยาวคลื่นของแสงได้ถึง 13.5 นาโนเมตร และเครื่องรุ่น High-NA ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025 จะสามารถลดความยาวคลื่นได้ถึง 8 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการผลิตชิปที่มีขนาดเล็กและล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
ราคาสูง แต่จำเป็น: เครื่อง EUV ของ ASML มีราคาเฉลี่ย 200 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง(หรือราว 6 พันล้านบาท) ขณะที่เครื่อง High-NA EUV รุ่นใหม่ล่าสุดของ ASML ถูกยกย่องว่าเป็น "Holy Grail" ของตลาดชิป มีราคาสูงถึง 350 ล้านดอลลาร์ ต่อเครื่อง (ราว 1.1 หมื่นล้านบาท) แต่ความต้องการ AI และชิปขั้นสูงทำให้ลูกค้ายังต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ผลิตชิประดับโลกอย่าง TSMC, Samsung, และ Intel ต่างก็ให้ความสนใจอย่างมากในเครื่องรุ่นใหม่นี้ และได้สั่งซื้อไว้แล้ว

Financial Highlight:

การเติบโตยอดขาย: ยอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 20.3% ในช่วงปี 2018-2023
อัตรากำไรขั้นต้น: ระหว่างปี 2018-2023 เพิ่มขึ้นจาก 46.0% เป็น 51.3% จากการปรับเปลี่ยนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจำหน่าย เพื่อเพิ่มมูลค่าและราคาของระบบที่สูงขึ้น
TSMC, Samsung, และ Intel เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท (โดยสัดส่วนรายได้ที่ ASML ได้รับจากบริษัทคู่ค้าต่อรายได้รวม อยู่ที่ 28.17%, 22.19% และ 9.68% ตามลำดับ

มุมมองจาก ASML

ASML เชื่อว่ายอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030 ซึ่งแสดงถึงการเติบโตเฉลี่ยราว 9% ต่อปี ในช่วงปี 2025-2030 โดยคาดว่าความต้องการชิปสำหรับ AI จะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดนี้
ASML คาดว่ามาร์จินรวมจะอยู่ที่ 56% ถึง 60% ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดทางธุรกิจกับจีนจากผลกระทบของการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ผลประกอบการในช่วงนี้อ่อนแอลง แต่บริษัทยังคงมีความมองโลกในแง่ดีในอนาคต

มุมมอง CFRA

การคาดการณ์การเติบโตของรายได้และกำไร

คาดการณ์รายได้เติบโต 2% ในปี 2024, 21% ในปี 2025 และ 13% ในปี 2026
- คาดการณ์ EPS:
  - ปี 2024: 19.12 ยูโร
  - ปี 2025: 27.58 ยูโร
  - ปี 2026: 34.15 ยูโร

ศักยภาพการเติบโตระยะยาว

CFRA คาดยอดขายรายปี 44-60 พันล้านยูโรภายในปี 2030 พร้อมการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ประมาณ 10% ต่อปี
- ในปี 2025 และ 2026 CFRA คาดว่าจะมีความต้องการที่สำคัญจากโรงงานผลิตชิป (fabs) ใหม่ ๆ ท่ามกลางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้าน AI โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดคำสั่งซื้อค้างของ ASML ที่มีมูลค่าสูงถึง 36 พันล้านยูโร

ปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม

ความเสี่ยงจากมาตรการควบคุมการส่งออกไปยังจีน
1. การห้ามขายเครื่อง EUV ขั้นสูงให้กับจีน อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ ASML ซึ่งจีนคิดเป็น 47% ของยอดขายไตรมาส 3 ปี 2024
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
1. ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายใต้การบริหารงานของทรัมป์
1. ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับไต้หวัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปของ TSMC ลูกค้าหลักของ ASML

KS Global Invest Tips:

ASML Holding N.V. –จดทะเบียนซื้อขาย 2 ตลาดหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้

1.ตลาดหลักทรัพย์ Euronext Amsterdam, ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “ASML NA” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล EUR เพื่อทำการซื้อขาย มีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)

2. ASML Holding N.V. ได้จดทะเบียนในตลาด Nasdaq , ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “ASML US” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)

Source: KS Global Invest, CFRA Research, Bloomberg