ตราสารทุน หมายถึง ตราสารที่กิจการออกขายให้แก่ผู้ลงทุนเพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ ตราสารทุนแบ่งออกได้หลายประเภท เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาที่ลงทุนในหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หากได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลจะต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 แต่ไม่ต้องเสียภาษีในกรณีของ Capital Gain (ผลตอบแทนในรูปของส่วนต่างในกรณีที่ราคาขายสูงกว่าราคาซื้อ)
สินค้าหุ้นสามัญ (Common Stock) |
คือ ตราสารสิทธิที่แสดงความเป็น “เจ้าของกิจการ” ผู้ถือหุ้นสามัญมีสิทธิในการออกเสียงลงมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นและมีสิทธิได้รับเงินปันผล (ตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่ถือครอง) โดยจำนวนเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปี และนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท |
หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) |
200 บาท ต่อ 1 จุดของดัชนี |
ใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอแรนท์ (Warrant) |
คือ ตราสารสิทธิที่กิจการออกให้แก่ผู้ลงทุน เพื่อให้สิทธิในการซื้อหุ้นออกใหม่ในราคา จำนวน และภายในระยะเวลาที่กำหนด |
หน่วยลงทุน (Unit Trust) |
คือ หลักทรัพย์ที่ออกขายโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพื่อระดมเงินเข้า กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้น แล้วนำเงินทุนไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ ผู้ถือหน่วยลงทุน จะได้รับสิทธิฐานะร่วมเป็นเจ้าของกองทุน เงินปันผล ดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์ ต่างๆ จากผลกำไรที่เกิดขึ้น |
ใบแสดงสิทธิในผล ประโยชน์ที่เกิดจากหลัก ทรัพย์อ้างอิงไทย หรือ
เอ็นวีดีอาร์ (Non - Voting Depository Receipt : NVDR) |
คือ ตราสารที่ออกและเสนอขายโดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด มีลักษณะคล้ายกับ DR แต่ NVDR จะไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นฯ |
ใบแสดงสิทธิในผล ประโยชน์ ที่เกิดจากหลัก ทรัพย์อ้างอิง (Depository Receipt : DR) |
คือ ตราสารที่ออกและเสนอขายโดย บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด (บริษัทในเครือของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิเหมือนลงทุนในหลัก ทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ เช่น หากหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้นสามัญก็จะได้รับเงินปันผล เหมือนหุ้นสามัญ แต่ DR จะมีกำหนดอายุการไถ่ถอน ซึ่งผู้ถือต้องมีสัญชาติไทย และต้องออกเสียงลงคะแนนผ่าน บริษัท สยามดีอาร์ จำกัด เท่านั้น |
ประเภทหลักทรัพย์ |
![]() |
![]() |
---|---|---|
หุ้นสามัญ | ||
หุ้นบุริมสิทธิ | ||
ใบสำคัญแสดงสิทธิ | ||
หน่วยลงทุน | ||
NVDR | ||
DR |
หมายเหตุ :
ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้ ในการเสนอซื้อ (Bid) และเสนอขาย (Offer) หุ้นบนกระดานหลัก (Main Board) จะต้องระบุจำนวนหลักทรัพย์อย่างน้อยเท่ากับ 100 หลักทรัพย์ (หน่วย) และทวีคูณเพิ่มทีละ 100 หลักทรัพย์ เช่น ซื้อหุ้น AAA ณ ราคา 5 บาท จำนวน 100 หุ้น เท่ากับ 500 บาท เป็นต้น แต่กรณีที่หลักทรัพย์มีราคาปิดตั้งแต่ 500 บาทขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน จะซื้อขายเท่ากับ 50 หลักทรัพย์ (หน่วย) โดยทางตลาดหลักทรัพย์จะประกาศให้ทรายก่อนล่วงหน้า
![]() |
Excluding Dividend | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XD จะไม่ได้รับสิทธิรับเงินปันผล |
![]() |
Excluding Rights | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XR จะไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน |
![]() |
Excluding Warrant | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XW จะไม่ได้สิทธิรับใบสำคัญแสดงสิทธิ |
![]() |
Excluding All | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XA จะไม่ได้รับสิทธิทุกประเภทที่ทางบริษัทประกาศในครั้งนั้น |
![]() |
Excluding Benefit | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XB จะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นและหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทในเครือเพิ่มเติม |
![]() |
Excluding Meeting | ผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์ในช่วงเวลาการขึ้น XM จะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น |
![]() |
Trading Halt | ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์นั้นเป็นการชั่วคราว โดยแต่ละครั้งมีระยะเวลาไม่เกินกว่า 1 รอบการซื้อขาย |
![]() |
Suspension | ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์นั้นเป็นการชั่วคราว โดยแต่ละครั้งมีระยะเวลาเกินกว่า 1 รอบการซื้อขาย |
![]() |
Notice Pending | อยู่ระหว่างการรายงานข้อมูลให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ |
![]() |
Notice Received | ได้รับการชี้แจงข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ |
![]() |
Non-Compliance | หลักทรัพย์ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน |
ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้ ในการเสนอซื้อ (Bid) และเสนอขาย (Offer) หุ้นบนกระดานหลัก (Main Board) จะต้องระบุจำนวน ช่วงเวลาก่อนเปิดหรือปิดทำการซื้อขาย (Pre Open หรือ Pre Close) นักลงุทนจะส่งคำสั่งซื้อขายประเภทระบุราคา หรือคำสั่งประเภท ATO หรือ ATC เข้ามายังระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยระบบจะนำคำสั่งซื้อขายทั้งหมดมาเรียงลำดับตามหลักราคาและเวลาที่ดีที่สุด และคำนวณเพื่อหาราคาเปิดหรือราคาปิด โดยมีหลักการคำนวนดังนี้
ทั้งนี้ระบบการซื้อขายจะจัดให้คำสั่ง ATO / ATC เป็นราคาดังนี้
เป็นตราสารชนิดหนึ่งที่ออกโดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด" (Thai NVDR Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การซื้อขายอนุพันธ์มีขั้นตอนหรือกระบวนการซื้อขายที่คล้ายกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์คือ ผู้ลงทุนจะทำการส่งคำสั่งซื้อหรือขาย ผ่านโบรกเกอร์ โดยโบรกเกอร์นี้ต้องเป็น บริษัทสมาชิกของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เมื่อผู้ลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์แล้ว โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งซื้อขายต่อมายังระบบซื้อขายของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อให้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางคอยจับคู่คำสั่งซื้อ-ขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อคําสั่งซื้อขายได้รับการจับคุ่แล้วระบบจะส่งรายละเอียดของรายการซื้อขายนั้นต่อไปยัง สํานักหักบัญชี (TCH) เพื่อทําหน้าที่ในการ ชําระราคา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ สำนักหักบัญชีจะทำหน้าที่คิดกําไรขาดทุนที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและดูแลการรับและจ่ายเงิน ซึ่งการชำระ กำไรขาดทุนนี้ จะเกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ผู้ลงทุนซื้อหรือขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(T+1) ทั้งนี้ ขั้นตอนการซื้อขายในตลาด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สามารถสรุปได้ดังนี้
SET50 Index Futures คือ สัญญาฟิวเจอร์สประเภทหนึ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงที่จะซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี SET50 ซึ่งการตกลง ซื้อขายดังกล่าวเป็นการตกลง ณ วันนี้ โดยใช้ราคา คือ ดัชนี SET50 ในอนาคต และเนื่องจากสินทรัพย์อ้างอิงที่ใช้ในการซื้อขายครั้งนี้คือดัชนี ผู้ขายจึงไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อได้ ดังนั้นวิธีการส่งมอบเราจะใช้วิธีการชำระส่วนต่างราคา หรือ Cash Settlement แทน
สินค้าอ้างอิง | ดัชนี SET50 ที่คำนวณและเผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
ชื่อย่อสัญญา | S50 |
ตัวคูณดัชนี | 200 บาท ต่อ 1 จุดของดัชนี |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนใกล้ 3 เดือนติดต่อกัน และ เดือนสุดท้ายของไตรมาสใน 3 ไตรมาสถัดไป |
ราคาเสนอซื้อขาย | เสนอซื้อขายเป็นระดับดัชนี |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.1 จุด (คิดเป็น 20 บาทต่อสัญญา) |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน | + 30% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด |
เวลาซื้อขาย |
|
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะสุทธิรวมใน SET50 Index Futures และ SET50 Index Options เมื่อคำนวณฐานะเทียบเท่ากับฐานะ ใน SET50 Index Futures ในเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือน รวมกันเกิน 100,000 สัญญา |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยสัญญาที่ครบอายุจะสิ้นสุดการซื้อขายในเวลา 16:30 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | ค่าเฉลี่ยของดัชนี SET50 ในวันซื้อขายวันสุดท้าย โดยคำนวณจากค่าดัชนี SET50 ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายและ ค่าดัชนีราคาปิดของวันนั้น โดยตัดค่าที่มากที่สุด 3 ค่า และค่าที่น้อยที่สุด 3 ค่าออก และ ใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 7.1 บาทต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
Sector Index Futures คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีลักษณะเด่น คือ เป็นสัญญาที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถ ซื้อ หรือ ขาย เพื่อทำกำไรและบริหารความเสี่ยงบนการเคลื่อนไหวของดัชนีหมวดธุรกิจได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เนื่องจากอัตราการเติบโตในอนาคตของธุรกิจแต่ละหมวดอาจมีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวหรือต่างไปจากสภาวะเศรษฐกิจ โดยรวม Sector Index Futures จึงเป็นเครื่องมือการลงทุนที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนจัดกลยุทธ์และปรับพอร์ตลงทุนให้มีผลตอบแทนตามการเคลื่อน- ไหวของดัชนีหมวดธุรกิจตามที่ต้องการ และสามารถปรับพอร์ตลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมได้เช่นกัน ทั้งนี้ Sector Index Futures ประกอบด้วย 5 หมวดธุรกิจ อันได้แก่ ธนาคาร เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พลังงาน พาณิชย์ และ อาหารและเครื่องดื่ม
สินค้าอ้างอิง | ดัชนีหมวดธุรกิจ ซึ่งคำนวณและเผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้ | ||||
ธนาคาร | เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร | พลังงาน | พาณิชย์ | อาหารและ เครื่องดื่ม | |
ชื่อย่อสัญญา | BANK | ICT | ENERG | COMM | FOOD |
ตัวคูณดัชนี | 1,000 บาท ต่อ 1 จุดของดัชนี | 10 บาท ต่อ 1 จุดของดัชนี | |||
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือน มีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดยนับไปไม่เกิน 4 ไตรมาส | ||||
ราคาเสนอซื้อขาย | แสดงราคาเสนอซื้อหรือขายเป็นระดับดัชนี | ||||
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.1 จุดดัชนี (คิดเป็น 100 บาทต่อสัญญา) |
1 จุดดัชนี (คิดเป็น 10 บาทต่อสัญญา) |
|||
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน | ไม่เกิน +30% ของราคาสำหรับการส่งมอบหรือใช้อ้างอิงเพื่อคำนวณส่วนต่างของราคาเพื่อใช้ในการชำระหนี้ ประจำวันล่าสุด | ||||
เวลาซื้อขาย |
|
||||
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะรวมสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Sector Futures ที่อ้างอิงกับดัชนีหมวดธุรกิจใดหมวดธุรกิจหนึ่ง ที่หมดอายุเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือนรวมกันเกินกว่า 20,000 สัญญา | ||||
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ชำระราคาหรือส่งมอบของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยสัญญาที่ครบ อายุจะสิ้นสุดการซื้อขายในเวลา 16:30 น. | ||||
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | ค่าเฉลี่ยของดัชนีหมวดธุรกิจอ้างอิงในวันสุดท้ายของการซื้อขาย โดยคำนวณจากค่าดัชนีหมวดธุรกิจอ้างอิงในช่วง 15 นาทีสุดท้าย และค่าดัชนีราคาปิดของวันนั้น หลังจากตัดค่าที่มากที่สุด 3 ค่า และค่าที่น้อยที่สุด 3 ค่าออกแล้ว และใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง | ||||
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด | ||||
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา (ต่อสัญญา) | 20.1 บาท | 5.1 บาท | 10.1 บาท | 10.1 บาท | 5.1 บาท |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียม สามารถต่อรองได้เสรี |
Single Stock Futures คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคาหุ้น เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทหนึ่งในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) โดยผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันในวันนี้ว่า ในอนาคตจะซื้อขายหุ้นกันที่ราคาเท่าไร จำนวนเท่าใด ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ทำให้ Stock Futures เป็นสินค้าที่มีคุณสมบัติน่าสนใจซื้อขาย สำหรับทั้งผู้ลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว และผู้สนใจทั่วไป กล่าวคือ เป็นช่องทางสร้างผลกำไรใหม่ๆ ใช้สร้างผลกำไรได้สองทาง สามารถ "ซื้อก่อนขาย" หรือ "ขายก่อนซื้อ" ทำให้ผู้ลงทุนสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในทุกสภาพตลาด มีอัตราผลตอบแทนสูง ต้นทุนต่ำ และกำไรที่ได้ไม่ต้องเสียภาษี Stock Futures
สินค้าอ้างอิง | หุ้นสามัญจดทะเบียนตามรายชื่อที่ TFEX ประกาศ |
ชื่อย่อสัญญา | ชื่อย่อหุ้นอ้างอิง |
ตัวคูณดัชนี | 1 สัญญามีขนาดเท่ากับ 1,000 หุ้น |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือน มีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดยนับไปไม่เกิน 4 ไตรมาส |
ราคาเสนอซื้อขาย | เสนอซื้อขายเป็นราคาต่อหุ้น |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.01 บาท |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน | + 30% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด |
เวลาซื้อขาย |
|
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะสุทธิรวมใน Stock Futures ของหุ้นใดหุ้นหนึ่งในเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือนรวมกันไม่เกินกว่า จำนวนที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประกาศกำหนด |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยสัญญาที่ครบอายุจะสิ้นสุดการซื้อขายในเวลา 16:30 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | คำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการซื้อขายของหุ้นอ้างอิงของ Stock Futures ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายและ ณ เวลาปิดทำการซื้อขายของหุ้นอ้างอิงในวันซื้อขายวันสุดท้าย โดยใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ไม่มีการส่งมอบหุ้น แต่จะชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา |
ราคา < 100 บาท : 0.51 บาทต่อสัญญา
โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ราคา > 100 บาท : 5.1 บาทต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
SET50 Index Options คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ผู้ซื้อได้สิทธิในการ “ซื้อ” หรือได้รับสิทธิในการ “ขาย” ดัชนี SET50 จากผู้ขายในเงื่อนไข และราคาที่ตกลงกันไว้ในสัญญาออปชั่น หรือที่เรียกว่า ราคาใช้สิทธิ (Exercise Price) SET50 Index Options มีจุดเด่นที่สามารถใช้สร้างกลยุทธ์ ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด สามารถนำมาผสมผสานกับฟิวเจอร์ส หรือหุ้นเพื่อออกแบบกลยุทธ์ลงทุน รับมือกับตลาดได้ทั้งในภาวะขาขึ้น ขาลง และตลาดคงตัว
สินค้าอ้างอิง | ดัชนี SET50 ที่คำนวณและเผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
ชื่อย่อสัญญา |
S50C: Call Options S50P: Put Options |
ตัวคูณดัชนี | 200 บาท ต่อ 1 จุดของดัชนี |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนใกล้ 3 เดือนติดต่อกัน และ เดือนสุดท้ายของไตรมาสถัดไป |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.1 จุด (คิดเป็น 20 บาทต่อสัญญา) |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน | + 30% ของราคาปิดของดัชนี SET50 ล่าสุด |
ประเภทการใช้สิทธิ | ใช้สิทธิได้เมื่อสัญญาถึงกำหนดเท่านั้น (European) |
ราคาใช้สิทธิ |
In-the-money และ Out-of-the-money จำนวนอย่างละไม่น้อยกว่า 2 series |
เวลาซื้อขาย |
|
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะสุทธิรวมใน SET50 Index Futures และ SET50 Index Options เมื่อคำนวณฐานะเทียบเท่ากับฐานะ ใน SET50 Index Futures ในเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือน รวมกันเกิน 100,000 สัญญา |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยสัญญาที่ครบอายุจะสิ้นสุดการซื้อขายในเวลา 16:30 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | ค่าเฉลี่ยของดัชนี SET50 ในวันซื้อขายวันสุดท้าย โดยคำนวณจากค่าดัชนี SET50 ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย และ ค่าดัชนีราคาปิดของวันนั้น โดยตัดค่าที่มากที่สุด 3 ค่า และค่าที่น้อยที่สุด 3 ค่าออก และ ใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 5 บาทต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
Gold Futures ป็นเครื่องมือที่ผู้ลงทุนสามารถใช้ทำกำไรได้ตามความคาดการณ์ที่มีต่อราคาทองคำได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้นและราคาทอง ขาลง ด้วยคุณลักษณะเด่น ที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และใช้เงินลงทุนน้อย ประกอบกับทั้งราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ สัมพันธ์กับราคาหุ้น โกลด์ฟิวเจอร์ส จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการทำกำไรและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน
ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้ง่าย สะดวก ผ่านระบบซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX) โดยมีบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและบริษัทสมาชิก ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าในทุกๆ การซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโปร่งใส ยุติธรรม และเชื่อถือได้ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเปิดซื้อขาย Gold Futures 2 ประเภท คือ
หัวข้อ | 10 Baht Gold Futures | 50 Baht Gold Futures |
---|---|---|
สินค้าอ้างอิง | ทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 96.5% | |
ชื่อย่อสัญญา | GF10 | GF |
ตัวคูณดัชนี |
1 สัญญามีขนาดเท่ากับ ทองคำน้ำหนัก 10 บาท (152.44 กรัม) (ทองคำหนัก 1 บาท = 15.244 กรัม) |
1 สัญญามีขนาดเท่ากับ ทองคำน้ำหนัก 50 บาท (762.20 กรัม) (ทองคำหนัก 1 บาท = 15.244 กรัม) |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนคู่ (กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน สิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม) ใกล้ที่สุด 3 ลำดับ | |
ราคาเสนอซื้อขาย | เสนอซื้อขายเป็นเงินบาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท | |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 10 บาท (คิดเป็นมูลค่า 100 บาทต่อสัญญา) | 10 บาท (คิดเป็นมูลค่า 500 บาทต่อสัญญา) |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน | + 10% จากราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด โดยหากมีการซื้อขายที่ Ceiling และ Floor ดังกล่าว ตลาดสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าจะหยุดการซื้อขายชั่วคราว ก่อนเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง พร้อมกับขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาเป็น +20% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด | |
เวลาซื้อขาย |
|
|
การจำกัดฐานะ | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอาจประกาศกำหนดจำนวนการถือครองสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสูงสุด ได้ตามที่ เห็นสมควร | |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยในวันนั้น สัญญาที่หมดอายุจะซื้อขายได้ถึงเวลา 16:30 น. | |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย |
ใช้ราคา London Gold AM Fixing เป็นราคาอ้างอิงในการคำนวณราคา Final Settlement Price โดยการคำนวณ จะปรับอัตราแลกเปลี่ยน น้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทองคำตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
ราคาต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท (ใช้ค่าทศนิยม 2 ตำแหน่ง) โดยที่
|
|
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด | |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 8.1 บาท ต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย | 40.1 บาท ต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
TFEX จัดให้มีสัญญาซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า (USD Futures) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ส่งออกและนำเข้าได้มีเครื่องมีอในการจัดการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้ง ยังถือเป็นสินค้าที่เป็นทางเลือกให้กับ ผู้ลงทุนใช่ในการบริหารพอร์ตเงินลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการกระจายการลงทุน หรือเพื่อสร้างผลตอบแทนจากกา รเปลี่ยนแปลงค่าเงิน<>/p>
สินค้าอ้างอิง | อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ |
ชื่อย่อสัญญา | USD |
ตัวคูณดัชนี | 1,000 USD |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนปฏิทินที่ต่อเนื่องเรียงลำดับกัน 3 เดือนที่ใกล้ที่สุด และเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ถัดไป (มีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม) อีก 1 เดือน |
ราคาเสนอซื้อขาย | เป็นเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดยมีจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.01 หรือเทียบเท่ากับ 10 บาทต่อสัญญา |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน |
+ 2% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด โดยหากมีการซื้อขายที่ Ceiling และ
Floor ดังกล่าว ตลาดสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าจะหยุดการซื้อขายชั่วคราว
ก่อนเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง พร้อมขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาเป็น + 4 % ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด |
เวลาซื้อขาย |
|
จำนวนการถือครองสัญญาซื้อ ขายล่วงหน้าสูงสุด | ห้ามมีฐานะสุทธิใน USD Futures ที่หมดอายุเดือนใดเดือนหนึ่ง หรือทั้งหมด เกิน 5,000 สัญญา |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ชำระราคา หรือส่งมอบของสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น โดยในวันนั้น สัญญาที่สิ้นสุดอายุจะซื้อขายได้ถึงเวลา 11:00 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ประกาศ โดย Thomson Reuters ณ เวลา 11:00 น. ในวันสุดท้ายของการซื้อขาย และใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 1 บาทต่อสัญญา |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
Interest Rate Futures หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่ใช้เพื่อป้องกัน หรือบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวขึ้นลง ของอัตราดอกเบี้ยที่สัญญา ซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงไว้ได้ หรือปรับเปลี่ยนสัดส่วนในการลงทุนได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถบริหาร จัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
สินค้าอ้างอิง | อัตราดอกเบี้ย BIBOR ประเภท 3 เดือน (3M BIBOR) |
ชื่อย่อสัญญา | BB3 |
ตัวคูณดัชนี | มูลค่าเท่ากับ 10,000,000 บาท |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดยนับไปไม่เกิน 2 ไตรมาส |
ราคาเสนอซื้อขาย | เสนอซื้อขายต่อหน่วยเป็นค่า 100 - อัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของ 3M BIBOR |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.005 (คิดเป็น 125 บาทต่อสัญญา) |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน |
+ 1.25% จากราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด โดยหากมีการซื้อขายที่ Ceiling และ Floor ดังกล่าว ตลาดสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าจะหยุดการซื้อขายชั่วคราว ก่อนเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง พร้อมกับขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาเป็น + 2.50% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด |
เวลาซื้อขาย |
|
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะสุทธิรวมใน 3M BIBOR Futures ในเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือนรวมกันเกินกว่า 2,000 สัญญา |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันพุธที่สามของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยในวันนั้นสัญญาที่หมดอายุจะซื้อขาย ได้ถึง เวลา 11:00 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | กำหนดให้เท่ากับ 100 - อัตราดอกเบี้ย 3M BIBOR ซึ่งประกาศโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เวลา 11:00 น. ในวันซื้อขายวันสุดท้าย |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 20 บาทต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถต่อรองได้เสรี |
Interest Rate Futures หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่ใช้เพื่อป้องกัน หรือบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวขึ้นลง ของอัตราดอกเบี้ยที่สัญญา ซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงไว้ได้ หรือปรับเปลี่ยนสัดส่วนในการลงทุนได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ
สินค้าอ้างอิง | พันธบัตรรัฐบาล อายุ 5 ปี ที่มีอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว 5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี โดยมีกลุ่มพันธบัตร (Basket of Eligible Bonds) เป็นตัวแทนของสินค้าอ้างอิง |
ชื่อย่อสัญญา | TGB5 |
ตัวคูณดัชนี | มูลค่าเท่ากับ 1,000,000 บาท |
เดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ | เดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม โดยนับไปไม่เกิน 2 ไตรมาส |
ราคาเสนอซื้อขาย | เสนอซื้อขายเป็นราคาต่อพันธบัตรมูลค่า 100 บาท |
ช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ | 0.01 (คิดเป็น 100 บาทต่อสัญญา) |
ช่วงการเปลี่ยนแปลง ของราคาสูงสุดแต่ละวัน |
+ 2.50% จากราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด โดยหากมีการซื้อขายที่ Ceiling
และ Floor ดังกล่าว ตลาดสัญญาซื้อขาย ล่วงหน้าจะหยุดการซื้อขายชั่วคราว
ก่อนเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง พร้อมกับขยายช่วงการเปลี่ยนแปลงราคาเป็น + 5% ของราคาที่ใช้ชำระราคาล่าสุด |
เวลาซื้อขาย |
|
การจำกัดฐานะ | ห้ามมีฐานะสุทธิรวมในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 5Y Gov Bond Futures ในเดือนใดเดือนหนึ่งหรือทุกเดือนรวมกัน เกินกว่า 10,000 สัญญา |
วันซื้อขายวันสุดท้าย | วันพุธที่สามของเดือนที่สัญญาสิ้นสุดอายุ โดยในวันนั้นสัญญาที่หมดอายุจะซื้อขาย ได้ถึง เวลา 16:00 น. |
ราคาที่ใช้ชำระราคา ในวันซื้อขายวันสุดท้าย | กำหนดเป็นราคาต่อพันธบัตรมูลค่า 100 บาท และคำนวณจากอัตราคิดลด (Yield) ของกลุ่มพันธบัตร (Basket of Eligible Bonds) ในวันสุดท้ายของการซื้อขาย ซึ่งอัตราคิดลดของพันธบัตรแต่ละรุ่นในกลุ่มพันธบัตรนั้น จะเป็นข้อมูลที่ได้รับจากสถาบันการเงินที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากำหนด |
วิธีการส่งมอบ/ชำระราคา | ชำระราคาเป็นเงินสด |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และชำระราคา | 10 บาทต่อสัญญา โดยเรียกเก็บจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย |
ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขาย | ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่มีข้อกำหนดเรื่องค่าธรรมเนียมนายหน้าการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียมสามารถ ต่อรองได้เสรี |
BID (ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์) |
ราคาเสนอซื้อหลักทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งที่ส่งเข้ามาในระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ซึ่งราคา เสนอซื้อนี้จะถูกจัดเรียงตามลำดับของราคา โดยที่ราคาเสนอซื้อที่สูงสุด (BEST BID) จะถูกจัดไว้เป็นลำดับแรก |
OFFER (ราคาเสนอขายหลักทรัพย์) |
ราคาเสนอขายหลักทรัพย์ที่มีการเสนอขายเข้ามาในระบบซื้อขาย ณ ขณะใดขณะหนึ่งอาจจะมีราคา ซึ่งราคาเสนอขายที่ต่ำที่สุด (BEST OFFER) จะถูกจัดไว้เป็นลำดับแรก |
ODD LOT (หน่วยย่อย) |
จำนวนหลักทรัพย์ที่ต่ำกว่า 1 หน่วยซื้อขาย (Board Lot) คือจำนวนหลักทรัพย์ตั้งแต่ 1 หุ้นแต่ไม่ถึง 100 หุ้น การซื้อขายหน่วยย่อยนี้จะทำการซื้อขาย บน Odd-Lot Board |
ODD-LOT BOARD (กระดานซื้อขายหน่วยย่อย) |
กระดานหน่วยย่อย เป็นส่วนหนึ่งของระบบซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ฯ ไว้รองรับการซื้อขาย หลักทรัพย์แต่ละ รายการที่ซื้อขายกันในจำนวนหุ้นที่ไม่ครบเต็ม 1 หน่วยซื้อขาย (Board Lot) ซึ่งราคา ซื้อขายบน Odd-Lot Board จะต้องอยู่ภายในกรอบ Ceiling Price กับ Floor Price ของวันนั้นด้วย |
CEILING PRICE (ราคาเพดาน) |
ระดับราคาสูงที่สุดของหลักทรัพย์ในแต่ละวัน โดยกำหนดไว้ที่ + 30 % ของราคาปิดในวันก่อนหน้า |
FLOOR PRICE (ราคาพื้น) |
ระดับราคาต่ำที่สุดของหลักทรัพย์ในแต่ละวัน โดยกำหนดไว้ที่ - 30% ของราคาปิดในวันก่อนหน้า |
SELLING SHORT หรือ SHORT SELL (การขายชอร์ต) |
การขายหุ้นโดยที่ผู้ขายได้ยืมหุ้นนั้นมาจากบริษัทหลักทรัพย์หรือจากสถาบันที่ให้บริการยืมหุ้น ผู้ขายชอร์ต จะต้องวางเงินประกัน (Margin) ไว้กับบริษัทผู้ให้ยืมหุ้นในจำนวนไม่ต่ำกว่าอัตราที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด และเงินจากการขายหุ้นดังกล่าวก็ต้องเก็บรักษาไว้ที่บริษัทนายหน้าเพื่อเป็นหลักประกันด้วย ทั้งนี้จนกว่า ผู้ขายชอร์ตจะส่งคืนหุ้น จำนวนที่ยืมไปนั้น ซึ่งจะส่งคืนหุ้น ณ วันที่ถึงกำหนดส่งคืนหุ้นหรือส่งคืนก่อนวันครบ กำหนดก็ได้ ในระหว่างที่ยังไม่ส่งคืนหุ้น หากหุ้นนั้นได้รับสิทธิประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทผู้ออกหุ้น ผู้ขายชอร์ต จะต้องส่งมอบสิทธิต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นแก่บริษัทนายหน้าของตน เพื่อส่งมอบต่อให้แก่เจ้าของหุ้นที่ให้ ยืมอีกทอดหนึ่ง สิทธิต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การจ่ายเงินปันผล การให้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน เป็นต้น |