ลดต้นทุนหรือเพิ่มผลตอบแทนจากหุ้นที่ถืออยู่
เป็นการลงทุนที่ผู้ลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทน
หรือดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากหุ้นที่ถือครองอยู่
โดยคาดว่าราคาหุ้นที่ถือครองอยู่นั้นจะทรงตัว หรือ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ
การลงทุนใน Covered Call จึงสามารถช่วยลดต้นทุนของหุ้นที่ถือครองอยู่ได้
ผู้ลงทุนนั้นยังสามารถออกแบบลักษณะการลงทุน ได้ตามความต้องการ เช่น หุ้นอ้างอิง,
ระยะเวลา, เงินลงทุน ฯลฯ เป็นต้น
เพื่อปรับให้เหมาะกับความเสี่ยงและผลตอบแทนของผู้ลงทุนแต่ละคนได้
ผู้ลงทุนสามารถเลือกลักษณะการลงทุนได้ตามต้องการดังนี้:
-
หลักทรัพย์อ้างอิงที่ถือครองอยู่: หุ้นตัวใดตัวหนึ่งใน SET 50
ยกเว้นหุ้น KBANK
-
ราคาใช้สิทธิ (%): % ของราคา
(ราคาที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง)
- ระยะเวลา: สามารถเลือกได้ตั้งแต่อายุ 1 – 9 เดือน
-
จำนวนหลักทรัพย์อ้างอิง*: มูลค่ารวมตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป
* ผู้ลงทุนต้องมีหุ้นอ้างอิงที่ถือครองอยู่กับ KS
ตัวอย่างการลงทุน KS CC 1 เดือน
หลักทรัพย์อ้างอิง |
ราคาอ้างอิง**(บาท) |
105% |
จำนวนหุ้น |
มูลค่าที่ตราไว้ |
Offering |
Yield |
AAA |
50.25 |
98.95% |
12.49% |
79,700 |
4,004,925.00 |
ผู้ลงทุนถือครองหุ้น AAA อยู่ ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 50.25 บาท และถือครองอยู่
79,700 หุ้น ผู้ลงทุนคาดว่าราคาจะทรงตัวในระยะเวลาสั้นๆ
จึงอยากได้ผลตอบแทนเพิ่มเติมในการถือครองหุ้น
ผู้ลงทุนซื้อหุ้นกู้อนุพันธ์ Covered Call อ้างอิงหุ้น AAA ราคา
50.25 บาท อายุ 1 เดือน
ราคาใช้สิทธิ 105% (52.76 บาท) อัตราผลตอบแทนต่อปี 12.49%
ลักษณะผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่ผู้ลงทุนจะได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับราคาของหุ้นอ้างอิง
-
กรณีที่ราคาเปิดของหุ้นอ้างอิง AAA = 48.00 บาท < 52.76 บาท
ผลตอบแทน = ได้รับดอกเบี้ย 12.49 % ต่อปี
-
กรณีที่ราคาเปิดของหุ้นอ้างอิง AAA = 54.00 บาท > 52.76 บาท
ผลตอบแทน = ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น พร้อมดอกเบี้ย 12.49 % ต่อปี แต่จะเสียค่า
Upside ของราคาที่มากกว่าราคาใช้สิทธิขึ้นไป
**ผู้ลงทุนจะชำระค่าซื้อหุ้นกู้อนุพันธ์ Covered Call เพิ่มเติม