Global Invest

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง กลยุทธ์การลงทุนโดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

Global Invest

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง กลยุทธ์การลงทุนโดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

BATX - หุ้นเทคฯ แดนมังกร

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
30 ธันวาคม 2564

BATX - หุ้นเทคฯ แดนมังกร

หากย้อนกลับไปถึงวิฤตเศรษฐกิจเมื่อ 24 ปีที่แล้ว หลายต่อหลายคนต่างอาจเคยผ่านการต่อสู้ในช่วงวิกฤตฟองสบู่ Dotcom (Dot-com bubble Crisis) แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส เพราะท่ามกลางปัญหาฟองสบู่แตกของหลายบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ กลับมีคลื่นลูกใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังจากวิกฤต กลุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่จากประเทศที่ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งการลอกเลียนแบบอย่างประเทศจีน แจ้งเกิดขึ้นหลังจากวิกฤตครั้งนั้นจนเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีจากฝั่งเอเชียในปัจจุบัน

ปัจจุบันประเทศจีนได้ก้าวข้ามการเป็นเมืองแห่งการลอกเลียนแบบสู่เมืองแห่งนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีของโลกฝั่งตะวันออก จนอาจกล่าวได้ว่าสงครามในยุคถัดไปอาจไม่ได้รบกันด้วยอาวุธ แต่อาจลงเอยด้วยการต่อสู้ด้วยเทคโนโลยี (Tech War) ฝั่งสหรัฐอเมริกาอาจมีหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง “กลุ่ม FANGMAN” ได้แก่ Facebook (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Platforms), Amazon, Netflix, Google, Microsoft, Apple และ Nvidia ในขณะที่ฝั่งมหาอำนาจฝั่งโลกตะวันออกอย่างประเทศจีนก็ภูมิใจเสนอหุ้นเทคโนโลยีแดนมังกร “กลุ่ม BATX” ได้แก่ Baidu (9888 HK), Alibaba (9988 HK), Tencent (700 HK) และสมาชิกใหม่ Xiaomi (1810 HK)

Baidu (9888 HK): เปิดตัวในปี 2000 ในเมืองปักกิ่ง เริ่มต้นจาก Robin Li ผู้จบการศึกษาด้าน Computer science ซึ่งเคยทำงานใน Dow Jones และ Infoseek (Search company ของ Disney) โดยภายหลังจากเขากลับมายังบ้านเกิด เขาได้สร้าง Baidu ซึ่งเป็นเว็บไซต์ Search Engine ที่เข้ามาครองตลาดจีนได้สำเร็จ (ภายหลังรัฐบาลจีนประกาศแบน Google และขณะที่ Baidu มีศักยภาพที่โดดเด่นทิ้งห่างคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด) และทำให้รายได้ให้ Robin Li ทะลุ USD 10 Billion ในปี 2013 แต่ท่ามกลางความสำเร็จอาจตามซึ่งความเสี่ยงจากการกลับมาของ Google หากสามารถปลดล็อกการโดนแบนจากทางการจีนได้ อย่างไรก็ตาม Baidu กลับมีแผนกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจโดยการผันตัวมามุ่งเน้นพัฒนา AI Technologies เช่น Self-driving technologies รวมถึงการสร้าง Baidu DuerOS หรือที่เรียกกันว่า Alexa of China และยังร่วมมือกับ Geely บริษัทเอกชนผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ

ณ ปัจจุบัน Baidu มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ HKD 385.37Billion โดยระยะเวลา 52 สัปดาห์ ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงสุดที่ราคา HKD 256.60 และมีราคาต่ำสุดที่ราคา HKD 133 และหุ้นมีราคาปิดอยู่ที่ HKD 139.00 (อ้างอิงข้อมูลจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564)

Alibaba (9988 HK): ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 เริ่มต้นโดย Jack Ma ที่ผันตัวจากครูสอนภาษาอังกฤษมาสร้างบริษัททำการค้าส่งออนไลน์ สู่ผู้นำด้านธุรกิจ e-Commerce และ Cloud Computing อันดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็น TMALL (เน้นรูปแบบ Business to Consumer) TAOBAO (เน้นรูปแบบ Consumer to Consumer) AliExpress (เน้นรูปแบบ Business to Business ให้บริการผู้ซื้อทั่วโลก) โดยจุดเด่นของ Platform ในเครือ Alibaba จะเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้ามาซื้อขายผ่าน Platform นอกจากนี้ Alibaba ยังเป็นเจ้าของ Platform ‘Ali Pay” หรือชื่อที่คนจีนรู้จักดีคือ “Zhi Fu Bao” ซึ่งเป็น Platform ที่ชาวจีนนิยมซื้อสินค้าและชำระรายการผ่านช่องทางนี้ และในปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าที่ยอมรับการชำระสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณไปทั่วโลก

ณ ปัจจุบัน Alibaba มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ HKD 2,468Billion โดยระยะเวลา 52 สัปดาห์ ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงสุดที่ราคา HKD 270.00 และมีราคาต่ำสุดที่ราคา HKD109.50 และหุ้นมีราคาปิดอยู่ที่ HKD 114.90 (อ้างอิงข้อมูลจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564)

Tencent (700 HK): ก่อตั้งเมื่อปี 1998 โดย Ma Huateng หรือ Pony Ma เริ่มต้นจากธุรกิจ Instant Messenger (IM) หรือการสนทนาด้วยการ Chat ผ่านทางออนไลน์แพลตฟอร์มอย่าง QQ ก่อนจะปรับเป็น WeChat ที่โด่งดังอย่างมากในประเทศจีน และก้าวเข้ามาสู่การเป็นเจ้าแห่ง Video Gaming ยักษ์ใหญ่ของโลก ทำกำไรอย่างมหาศาลจากการขายผลิตภัณฑ์เกมส์ออนไลน์ ปัจจัยเสริมการเติบโตของบริษัทมาจากการเลือกเข้าซื้อกิจการอย่างชาญฉลาด และยังกระจายการลงทุนไปหลายธุรกิจทั้ง mobile payment, social networks, และกลุ่ม digital content ซึ่งสำหรับ Flagship Application อย่าง WeChat ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริการ IM แต่กลับมี WeChat Pay ระบบชำระเงินออนไลน์ที่รองรับทั้งบริการ Shopping, Gaming และ Life style ต่างๆ เช่น การเรียกรถแท็กซี่ การสั่งอาหาร เป็นต้น

ณ ปัจจุบัน Tencent มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ HKD 4,433.1Billion โดยระยะเวลา 52 สัปดาห์ ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงสุดที่ราคา HKD 775.50 และมีราคาต่ำสุดที่ราคา HKD 412.20 และหุ้นมีราคาปิดอยู่ที่ HKD 443.00 (อ้างอิงข้อมูลจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564)

Xiaomi (1810 HK): ก่อตั้งเมื่อปี 2010 โดย Lei Jun อดีตซีอีโอของ Kingsoft (บริษัทซอฟต์แวร์รายหนึ่งของจีน ทำพวกแอพออฟฟิศ, แอนตี้ไวรัส ฯลฯ) เป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนซึ่งถูกขนานนามว่า “Apple of Asia” ซึ่ง Brand “MI” นำมาด้วย Smartphone ที่มาพร้อมกับ Function ที่อัดแน่น แต่ว่าราคาจับต้องได้ ซึ่งปัจจุบันมี Market Share มือถือเป็นอันดับหนึ่งในตลาดอินเดีย นอกจากมือถือแล้ว Xiaomi ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้านเป็นอีกหนึ่งในสินค้าที่โด่งดัง โดยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนมากสามารถต่อเชื่อมกับ Internet ได้ (ซึ่งพัฒนาผ่านอุปกรณ์ Xiaomi) ทำให้ Xiaomi สามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ Xiaomi สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้

ณ ปัจจุบัน Xiaomi มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ HKD 468.28Billion โดยระยะเวลา 52 สัปดาห์ ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงสุดที่ราคา HKD35.90 และมีราคาต่ำสุดที่ราคา HKD17.50 และหุ้นมีราคาปิดอยู่ที่ HKD 18.50 (อ้างอิงข้อมูลจากเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564)

ปัจจัยที่ต้องจับตามอง
-กฏหมาย Anti-Trust Law ซึ่งป้องกันการผูกขาดในประเทศจีน ได้กดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน ซึ่งแม้ประเทศจีนยังคงมีประเด็นเรื่อง Regulatory Risk แต่ว่าหากรัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณที่จะผ่อนปรนนโยบายเมื่อไหร่ แสดงว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนอาจจะผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว
-เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยที่จะนำพาประเทศจีนให้กลายเป็นมหาอำนาจของโลก ซึ่งการจัดระเบียบประเทศในช่วงที่ผ่านมา แม้อาจจะดูค่อนข้างเข้มงวดจนหลายต่อหลายคนต่างให้ความกังวลกับตลาดหุ้นจีน แต่อาจเป็นการปูพื้นฐานเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งเพื่อรองรับการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
-ปัจจัยเรื่องคู่แข่งที่อาจเข้ามาในอุตสาหกรรม เช่น Baidu ที่อาจมีความเสี่ยงจากการเข้ามาของ Google ในอนาคต แต่หากบริษัทมีการปรับตัว เช่น Baidu ที่กระจายความเสี่ยงมาลงทุนในธุรกิจ AI มากขึ้น หรือลงทุนในธุรกิจที่ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง อาจยังสามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว
-ปัจจุบันดัชนี Hang Seng TECH Index ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมหุ้นเทคโนโลยี 30 ตัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (รวมกลุ่ม BATX) ปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ P/E 13.68 เท่า

Investor Tip:

-Baidu (9888 HK) Alibaba (9988 HK) Tencent (700 HK) และ Xiaomi (1810 HK) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล HKD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขาย (Trade Lot) แตกต่างกัน เช่น Alibaba (9988 HK) และ Tencent (700 HK) มี Trade lot = 100 หุ้น, Baidu (9888 HK) มี Trade lot = 50 หุ้น และ Xiaomi (1810 HK) มี Trade lot = 200 หุ้น
-หุ้น Baidu (BIDU US) และ Alibaba (BABA US) ยังเป็นหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ (ในรูปแบบ ADR – American Depository Receipt) โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1) ซึ่งสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนใน US ADR จะมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในการถือครองหุ้นเป็นรายปี นอกเหนือจากค่าคอมมิชชั่นด้วย ทั้งนี้ สำหรับหุ้น Baidu (BIDU US) และ Alibaba (BABA US) เท่ากับ 8 หุ้น 9888 HK และ 9988 HK ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ตามลำดับ
-Home Bias: อคติประเภทหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าสินทรัพย์หรือการลงทุนในประเทศมีความน่าสนใจกว่าการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ ซึ่งทำให้นักลงทุนพลาดโอกาสที่ดีในการลงทุน เพราะแต่ละประเทศจะมีวงจรเศรษฐกิจขาขึ้น-ขาลงที่ไม่เหมือนกัน เช่น ถ้าในขณะที่ประเทศไทยกำลังประสบกับสภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายในประเทศ ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆจะปรับลดไปในทิศทางเดียวกับไทย การลงทุนต่างประเทศจึงเป็นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อีกทางหนึ่ง

Source: KS OFFSHORE , CFRA Research ,Bloomberg

เปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศ > https://bit.ly/3c3oDs2

KSecurities #KS #OffshoreInvestment #หุ้นต่างประเทศ #ChinaTech #BATX

Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp

Meta งบ 1Q25 รายได้โฆษณาโตแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า
18 พ.ค. 2568

Meta งบ 1Q25 รายได้โฆษณาโตแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า

ServiceNow ผู้นำระดับโลกในการให้บริการโซลูชันด้าน IT สำหรับองค์กร
17 พ.ค. 2568

ServiceNow ผู้นำระดับโลกในการให้บริการโซลูชันด้าน IT สำหรับองค์กร

งบ 1Q2025 Netflix แกร่งเกินคาด แม้ยุค Streaming แข่งเดือด
1 พ.ค. 2568

งบ 1Q2025 Netflix แกร่งเกินคาด แม้ยุค Streaming แข่งเดือด

ส่องกลยุทธ์ 3 บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ แก้เกมภาษีนำเข้าทรัมป์
27 เม.ย. 2568

ส่องกลยุทธ์ 3 บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ แก้เกมภาษีนำเข้าทรัมป์

หุ้นทศเทพจีน ผลตอบแทนแซงหุ้นเทคสหรัฐฯ
15 เม.ย. 2568

หุ้นทศเทพจีน ผลตอบแทนแซงหุ้นเทคสหรัฐฯ

15 บริษัทมูลค่ามากที่สุด ในตลาดสหรัฐ NASDAQ
14 เม.ย. 2568

15 บริษัทมูลค่ามากที่สุด ในตลาดสหรัฐ NASDAQ