Global Invest

โอกาสการลงทุนหุ้น Mid-Small Cap ในจีนกับ Xtrackers Harvest CSI 500 China A-Shares Small Cap ETF

“Common Prosperity” (ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน) หากนักลงทุนติดตามเรื่องการลงทุนในจีนอย่างใกล้ชิดคงจะคุ้นชินกับคำนี้เป็นอย่างดี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jingping) ได้กล่าวถึงคำว่า “Common Prosperity” บ่อยครั้งในระยะหลังๆ เพราะต้องการให้ประเทศจีนมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างเท่าเทียมกันในทุกๆ ภาคส่วน เพื่อที่จะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน นโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity) จึงเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อเน้นให้ประชากรจีนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว รัฐบาลจีนจึงเข้ามาจัดระเบียบทางสังคมในหลายๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น

กฎต่อต้านการผูกขาด (Antitrust Law): จัดทำเพื่อลดการผูกขาดกิจกรรมทางเศรษฐกิจบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งส่งผลให้บริษัทกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Alibaba (9988 HK) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีนก็โดนจัดระเบียบ รวมถึง Tencent (700 HK) ที่การควบรวมกิจการเข้าข่ายการผูกขาดตลาด และส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ถูกเทขายในช่วงที่ผ่านมา
มาตรการควบคุมสถาบันกวดวิชา: จีนออกออกกฎควบคุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้องไม่แสวงหากำไร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและคลายความกังวลใจของพ่อแม่รุ่นใหม่ ที่ต้องหาเงินส่งลูกเข้าเรียนสถาบันกวดวิชาดังๆ ส่งผลต่อราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจการศึกษาเอกชนของจีน เช่น New Oriental Education & Technology Group (9901 HK) Koolearn Technology Holding LTD (1797 HK) และ TAL Education Group (TAL US) ที่ปรับตัวลดลง
มาตรการคุมตลาดอสังหาฯ: จีนออกฎควบคุมราคาค่าเช่าบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยให้ประชาชนได้ที่อยู่อาศัยในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น และลดการผูกขาดจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ รายใหญ่ เช่น KE Holdings (BEKE US) แพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ที่ถูกสอบสวนกรณีการผูกขาด

จากมาตรการกำกับดูแลที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ส่งผลให้หุ้นจีนเผชิญกับแรงขายอย่างรุนแรง โดยดัชนี CSI300 (ดัชนีหุ้น large-cap stock 300 ตัว ที่จดทะเบียนใน Shanghai and Shenzhen stock markets) ที่ขึ้นไปสูงสุดใน 1 ปีที่ CNY 5,807.9 เมื่อวันที่ 10/02/2021 โดย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ CNY 4,866.38 (ปรับตัวลงมาประมาณ 16%) อย่างไรก็ตามในทุกวิกฤตมีโอกาส แม้ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จะโดนลงดาบจากรัฐบาลจีน แต่ยังมีโอกาสให้บริษัทขนาดกลางและเล็กที่เน้นบริโภคในประเทศอย่างบริษัทใน CSI 500 ที่เป็นดัชนีหุ้น mid-cap stock ที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อีกทั้งที่ผ่านมาผลการดำเนินงานยังโดดเด่นในกลุ่มดัชนีหุ้นจีน จึงเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าสะสมหุ้นจีนพื้นฐานดีที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคในประเทศผ่าน Xtrackers Harvest CSI 500 China A-Shares Small Cap ETF (ASHS) เป็นกองทุนดัชนีที่กระจายการลงทุนใน CSI 500 Index (ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจาก Regulatory Risk มากนัก)

ปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม
การปรับฐานของดัชนี CSI 500 ช่วงที่ผ่านมา (ดัชนี CSI 500 ปิดที่ระดับ 7,648.75 จุด เมื่อวันที่ 13/09/2021 และปิดที่ 7,103.61 จุด เมื่อวันที่ 30/09/2021)
การเพิ่มน้ำหนักในหุ้นจีนในการเข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI จะเป็นปัจจัยบวกในการลงทุนหุ้นจีนในระยะยาว
ประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับสถานการณ์ COVID -19 ได้ดีที่สุดในเอเชีย และคาดการณ์ว่าในปี 2021 เศรษฐกิจจีนจะเติบโตประมาณ 8.3% (Bloomberg)
โอกาสในการลงทุนภายหลังจากวิกฤตต่างๆ เช่น ที่ผ่านมามีปัญหาฐานะทางการเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ (China Evergrande) ที่อาจมีการผิดนัดชำระหนี้และส่งผลระบบธนาคารในวงกว้าง ทำให้นักลงทุนมีความกังวล และเทขายหุ้นในช่วงดังกล่าว
ดัชนีหุ้นจีนไม่มีความสัมพันธ์ (Correlation) กับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา และหุ้นจีนที่เน้นการบริโภคในประเทศจะลดความเสี่ยงจากปัจจัยลบในกรณีพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา และกฏหมายควบคุมการผูกขาดของกลุ่มเทคโนโลยีในจีน

Investor Tip:
Xtrackers Harvest CSI 500 China A-Shares Small Cap ETF (ASHS US) – ออกโดย Xtrackers ภายใต้ Deutsche Bank เป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Arca ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “ASHS US” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1) ASHS มุ่งหวังในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี CSI 500

Source: KS OFFSHORE , CFRA Research ,Bloomberg