ยักษ์ใหญ่ธุรกิจประกันฝั่งเอเชีย AIA vs PING AN ใครน่าสนใจกว่ากัน?

Ping An Insurance Group (2318 HK) ก่อตั้งเมื่อปี 1988 โดย Ma Mingzhe ซึ่งชื่อ Ping An มีความหมายว่า “ความปลอดภัยและเป็นสุข (Safe and Well)” โดยบริษัทเริ่มธุรกิจจากประกันภัยทรัพย์สิน จนกลายเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์กลุ่มประกันชีวิต (Life Insurance) การประกันภัยทรัพย์สิน ธนาคาร และการลงทุน Ping An Insurance เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เมื่อปี 2004 และต่อมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เชี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2007 ซึ่งสำหรับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “2318 HK” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล HKD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 500 หุ้น (Trade Lot = 500) โดย Ping An Insurance Group ถือเป็นหนึ่งในหุ้นจีน H-Share

AIA Group Limited (1299 HK) - ก่อตั้งเมื่อปี 1919 โดยบริษัทได้แยกออกจาก American International Group (AIG US) มีธุรกิจหลักเป็นธุรกิจประกันสุขชีวิตและประกันสุขภาพ กลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่กระจายอยู่ในภูมิภาคเอเชียทั้งฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ จีน เป็นต้น AIA ถือเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีการดำเนินการมาอย่างยาวนานร่วม 103 ปี และเข้ามาจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2010 บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เกาะฮ่องกง โดยจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “1299 HK” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล HKD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 200 หุ้น (Trade Lot = 200)

ปัจจัยที่นักลงทุนควรทราบ
-อัตราการเติบโตของการทำประกันของประเทศจีน: จากจำนวนประชากรและการเติบโตของรายได้ประชากรของจีน รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และการบริหารความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น ส่งผลบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตที่มีลูกค้าหลักในประเทศจีน โดยทั้ง AIA และ Ping An ต่างมีลูกค้าในประเทศจีนเป็นสัดส่วนค่อนข้างมาก
-Digital Transformation: การนำเทคโนโลยีมาช่วยในธุรกิจประกันและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน สามารถช่วยทั้งการบริหารต้นทุน การคำนวณค่าเบี้ย ความเสี่ยงของผู้ทำประกัน รวมถึงการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคมาประมวลผล จนได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการและความเสี่ยง และส่งผลบวกต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
-ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ธุรกิจประกันถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เพราะว่าบริษัทจะนำเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตส่วนหนึ่งไปทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งตราสารหนี้ระยะสั้นจะได้ประโยชน์ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะว่าผลตอบแทนจะอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น
-การสร้างเครือข่าย Ecosystem ในกลุ่มบริษัท: การสร้างเครือข่ายสังคมโดยเฉพาะกลุ่ม Health Tech ที่เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของชาวจีน ส่งผลให้บริษัทมีข้อมูลผู้บริโภคอย่างมหาศาล จนสามารถนำเสนอสินค้าและบริการข้ามกันภายในกลุ่มบริษัท (Cross Selling) และดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการผ่าน Network Effect
-การเข้ามาของคู่แข่งในตลาด อย่าง Alibaba และ Tencent ที่เริ่มเข้ามาลุยตลาดธุรกิจประกัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรพิจารณาถึงความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของบริษัท

Source: Bloomberg, CFRA, and Offshore Investment

เปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศ > https://bit.ly/3c3oDs2

KSecurities #KS #OffshoreInvestment #หุ้นต่างประเทศ #AIA #PINGAN

Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp