Taiwan Semiconductor ผู้ผลิตชิปทางเทคโนโลยี รายใหญ่ที่สุดในโลก

หากพูดถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก หลายคนคงรู้จักบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Qualcomm และ NVDIA ที่ผลิตสินค้าออกมาครองใจผู้บริโภคทั่วโลกและกลายเป็นเทรนด์แห่งโลกอนาคต แต่หากมองลึกเข้าไปถึงเบื้องหลังธุรกิจเหล่านี้ต่างต้องพึ่งพาอุปกรณ์ชิปทางเทคโนโลยีเกือบทั้งสิ้น ซึ่งล้วนมากจากการผลิตของบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing – ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน และยังขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตชิปทางเทคโนโลยี (Technology Chipmaker) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Taiwan Semiconductor Manufacturing – ก่อตั้งเมื่อปี 1987 ที่ Hsinchu Science Park แห่งเกาะไต้หวัน ณ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดทั่วโลกมากกว่า 10,000 แบบ ซึ่งใช้ในเทคโนโลยีที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Computer, Tablet, VDO Game, อุปกรณ์ไฟฟ้าเชื่อมต่ออินเตอร์เนต (Internet of Things) ซึ่งหากว่าคุณเป็นหนึ่งในสาวกของผลิตภัณฑ์ Apple ไม่ว่าจะเป็น Iphone, Ipad หรือว่า Mac Book คงทราบดีว่าอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ล้วนต้องใช้ชิปที่ผลิตจาก Taiwan Semiconductor เกือบทั้งสิ้น (ซึ่ง Taiwan Semiconductor เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ Apple) ยิ่งไปกว่านั้นชิปยังถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอที่แรงของบริษัท NVDIA (ซึ่งทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเกมส์คงทราบกันเป็นอย่างดี), อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสื่อสารสั่งการโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI), รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle), VDO Game (เช่นเครื่องเกมส์ PlayStation 5) และอื่นๆ โดยในปี 2020 Taiwan Semiconductor มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 54% ของการผลิตชิปทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นการผลิตให้กับบริษัทชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน Taiwan Semiconductor มีมูลค่าตลาด (Market Cap) อยู่ประมาณ 626,011.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นบริษัทที่มีการเติบโตของรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของรายได้และกำไรสุทธิในช่วง 2017-2021 อยู่ที่ 13% และ 11% ตามลำดับ

ปัจจัยที่ต้องจับตามอง
-การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ US Bond Yield ที่ส่งผลทางลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจส่งผลต่อการผลิตชิปในไต้หวัน และอาจส่งผลให้เกิดแรงขายจากมุมทางลบของนักลงทุน (ที่ผ่านมาการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยและการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ Taiwan Semiconductor เผชิญกับแรงขายอย่างหนักในช่วงมีนาคม-เมษายน เดิมราคาหุ้น Taiwan Semiconductor (TSM US) ปรับตัวขึ้นสูงสุดในช่วงปี 2021 ที่ USD 142.20 ขณะที่ ณ 24/11/2021 ราคาหุ้นซื้อขายที่ USD120.70 ปรับตัวลงมาประมาณ 15%)
-การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตของคู่แข่ง เช่น Samsung ที่ปัจจุบันเป็นคู่แข่งคนสำคัญในการผลิต 5-nanometer chips อย่างไรก็ตาม Taiwan Semiconductor มีแผนพัฒนาชิปให้มีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีแผนพัฒนา next-generation 3-nanometer chips ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการผลิตในปี 2022
-ที่ผ่านมาทั่วโลกต่างเผชิญปัญหาการขาดแคลนปัจจัยการผลิต (Supply Shortage) ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น การขนส่งปัจจัยการผลิต รวมถึงปัจจัยแรงงานกลับมาสู่ภาวะปกติ อาจส่งผลทางบวกต่ออุตสาหกรรมภาคการผลิต รวมถึงการผลิต Semiconductor เช่นกัน
-การเติบโตของอุตสาหกรรม 5G ซึ่งอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องการชิปที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพื่อสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) จะทำให้ความต้องการในการใช้ชิปเพิ่มขึ้น เนื่องจากชิปถือว่าเป็นชิ้นส่วนประกอบที่สำคัญในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

Investor Tip:
Taiwan Semiconductor (TSM) – ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเซมิคอนดักเตอร์จากไต้หวัน และเป็นผู้ผลิตชิปทางเทคโนโลยี (Technology Chipmaker) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 54% ของการผลิตชิปทั่วโลก) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ (ในรูปแบบของ ADR – American Depository Receipt) ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า TSM US โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)

โดย 1 TSM (ADR) = 5 หุ้นของ Taiwan Semiconductor (Ticker Code คือ 2330 TT) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Taiwan Stock Exchange, ไต้หวัน (สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนใน US ADR จะมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในการถือครองหุ้นเป็นรายปี นอกเหนือจากค่าคอมมิชชั่นด้วย)

Source: KS OFFSHORE , CFRA Research ,Bloomberg

KSecurities #KS #OffshoreInvestment #หุ้นต่างประเทศ #TSM

เปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศ > https://bit.ly/3c3oDs2

Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp