XLV ETF : ETF ที่เน้นลงทุนในธุรกิจ Healthcare ที่จดทะเบียนใน S&P 500


XLV ETF : ETF ที่เน้นลงทุนในธุรกิจ Healthcare ที่จดทะเบียนใน S&P 500
ที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของเรามีการอุบัติของโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งมาจากสิ่งแวดล้อม จากสภาพอากาศ จากอาหารการกิน รวมถึงการปฏิบัติตัวของเราเอง จึงทำให้ผู้บริโภคยุคใหม่เกิดการตระหนักเรื่องปัญหาโรคภัยและหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจกลุ่ม Healthcare กลายเป็นเสือที่ติดปีกไปกับคลื่น Megatrend ที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต นอกจากนี้หุ้นกลุ่ม Healthcare เป็นทั้งหุ้นปลอดภัยที่คอยต่อสู้กับความผันผวนในตลาด และหุ้นเติบโตจากนวัตกรรมการรักษาแบบใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้
นอกจากนี้ในสภาวะที่ตลาดหุ้นกำลังเผชิญกับความเสี่ยงซึ่งทำให้ตลาดผันผวนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และการระบาดของ Covid สายพันธุ์ Delta ที่ยังคงมีอยู่ ทำให้การลงทุนในธีมธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Investment) กลายเป็นหนึ่งทางเลือกของการลงทุนเฉพาะเจาะจงในรายอุตสาหกรรม (Thematic Theme) ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เพราะว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม Healthcare เราสามารถลงทุนแบบตั้งรับ (Value Investment) ผ่านบริษัทขนาดใหญ่มีพื้นฐานแข็งแกร่งอย่างกลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ เช่น Johnson & Johnson (JNJ US) Pfizer (PFE US) รวมถึงธุรกิจประกันสุขภาพยักษ์ใหญ่ในอเมริกาอย่าง UnitedHealth Group (UNH US) ในขณะเดียวก็สามารถลงทุนแบบเชิงรุก (Growth Investment) ได้เช่นกันผ่านบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ (Bio Technology) อาทิ บริษัท AbbVie Laboratories (ABBV US) หรือสร้างการเติบโตในระยะยาวผ่านบริษัทขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Device) เช่น Thermo Fisher Scientific (TMO US)
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรม Healthcare สามารถพิจารณาลงทุนธุรกิจสุขภาพผ่าน Health Care Select Sector SPDR Fund ซึ่งเป็นกองทุน ETF บริหารจัดการโดย State Street Corporation เป็น ETF ที่กระจายการลงทุนไปในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตในธุรกิจ Healthcare ทั้งในบริษัทยา เทคโนโลยีชีวภาพ และอุปกรณ์การแพทย์ มุ่งหวังผลตอบแทนใกล้เคียง Health Care Select Sector Index ที่เน้นลงทุนในธุรกิจ Healthcare ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตาม
การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในอุตสาหกรรม Healthcare จะทำให้อุตสาหกรรมพัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อพันธุกรรม (DNA Sequencing) เพื่อป้องกันโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เบาหวาน
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการใช้ข้อมูล Big Data มาใช้ในการในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงจาก Technology Disruption เช่น การพบแพทย์ผ่านรูปแบบออนไลน์ (Tele-Medicine)
เทคโนโลยีจะช่วยลดระยะเวลาในการค้นคว้า เช่น วัคซีนต้าน Covid ที่สามารถคิดค้นได้ในระยะเวลาไม่ถึงปีจาก นวัตกรรม mRNA ของค่าย Moderna (MRNA US) และ Pfizer (PFE US)
เวชภัณฑ์ยารักษาโรคถือว่าเป็นปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็นไม่ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในวัฏจักรใดก็ตาม
Investor Tip:
Health Care Select Sector SPDR Fund (XLV US) –เป็น ETF ที่เน้นกระจายการลงทุนในธุรกิจกลุ่ม Healthcare ทั้งในบริษัทยา บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ และกลุ่มบริษัทผลิตเทคโนโลยีชีวภาพ โดยมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Health Care Select Sector Index (ดัชนีที่รวบรวมหุ้น Healthcare ที่จดทะเบียนใน S&P 500 ของประเทศสหรัฐอเมริกา) ซึ่ง Health Care Select Sector SPDR Fund ออกโดย State Street เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง SPDR เป็น ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYSE ARCA Stock Exchange ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “XLV” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)
Source: KS OFFSHORE , CFRA Research ,Bloomberg

เปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศ > https://bit.ly/3c3oDs2
KSecurities #KS #OffshoreInvestment #หุ้นต่างประเทศ #XLV #ETF
KS #KSecurities
Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp