Global Invest

XIAOMI หลังกระโดดเข้า สมรภูมิยานยนต์ไฟฟ้า

เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Xiaomi ประกาศเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จัดตั้งบริษัท Xiaomi Automobile Technology เพื่อมาพัฒนา EV โดย Lei Jun นั่งเป็น CEO ของบริษัท ทุ่มงบกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีแผนตั้งโรงงานผลิตที่ Beijing Economic and Technological Development Zone ของจีน โดยได้รับสิทธิประโยชน์การลงทุนจากรัฐบาลจีน และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 300,000 คันต่อปี ซึ่งจะเริ่มผลิตแบบ Mass Production ในไตรมาสแรกของปี 2024

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 Xiaomi ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าตัวแรกรุ่น Xiaomi EV SU7 ที่จะเริ่มทยอยเริ่มออกสู่ตลาดวันที่ 28 มีนาคมนี้ ทำให้ราคาหุ้นพุ่งราว 12% และคาดว่าเริ่มจะขายใน 29 เมืองของจีน ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้มีการรายงานราคาขายที่แน่นอนของราคารถรุ่นนี้ แต่ตลาดคาดว่าน่าจะออกตัวราว CNY200,000-CNY370,000 หรือราว 1-1.8 ล้านบาท โดยในรถทุกรุ่นของ Xiaomi จะมีการนำเทคโนโลยี autonomous driving มาเสริมจุดแกร่ง

ทำไม Xiaomi ถึงน่าสนใจ?

การผลิตสินค้าหลากหลายทั้ง Smartphone AIoT & Lifestyle Products ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ผ่าน Xiaomi Ecosystem กลายเป็น Smart Home หรือเชื่อมต่อ Health Services ทำให้มีฐานข้อมูลจำนวนมากในต่อการต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆในอนาคต
การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก Xiaomi เติบโตจากผู้พัฒนา Software จนประสบความสำเร็จ และสามารถบริหารต้นทุนจากการนำเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุน และเพิ่มอัตรากำไร
Internet Service เป็นอีกธุรกิจหลักที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัท เนื่องจากอัตรากำไรค่อนข้างสูง ซึ่ง Xiaomi ให้บริการทั้งบริการ Music Streaming, Cloud, MIUI, Mi Store Application จนถึงโฆษณา
การควบคุมของรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการผูกขาดภายในประเทศ แต่ Xiaomi กลับก้าวสู่ตลาดต่างประเทศโดยมุ่งเน้นตลาดอินเดียและยุโรป เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตและลดความเสี่ยงจากปัญหาการจัดระเบียบภายในประเทศ
การเข้ามาในธุรกิจ EV บริษัทคาดว่าจะสามารถได้ส่วนแบ่งตลาดภายในปี 2030 ประมาณ 1.5% ของตลาด EV ในจีน โดยเน้นเจาะกลุ่ม mass market ที่บริษัทเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างดี

Global Invest Tip:

Xiaomi Corporation จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “1810 HK” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล HKD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 200 หุ้น (Trade Lot = 200)