KS Asset Allocation : ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Earning yield gap)


KS Asset Allocation : ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Earning yield gap)
อัปเดตเศรษฐกิจทั่วโลก
- คาดการเติบโตของ GDP ทั่วโลกในปี 2566 จะลดลงเหลือ 2.5% ทรงตัวในสหรัฐฯ (+2.1%) ลดต่ำลงในสหภาพยุโรป (+0.7%) และในสหราชอาณาจักร (+0.5%) ขณะที่จีนและญี่ปุ่นคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าปี 2565 ที่ 5% และ 2% ตามลำดับ คาดการณ์ GDP ประเทศไทยปรับลดลงเหลือ 2.7%
- ตลาดคาดว่า Fed, ECB, BOE, BOJ และ PBOC จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อย
- จากประมาณการของเรา GDP ปี 2566 น่าจะเติบโต 3% YoY ขณะที่ ธปท. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% และ USD-THB สิ้นปีจะอยู่ที่ประมาณ 33.5-34.0 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
อัปเดตตลาดทั่วโลก
- ดัชนี TOPIX มีผลการดำเนินงานดีที่สุด (+26.39% YTD) ตามมาด้วย S&P 500 และ MSCI ACWI ในขณะที่ SET Index เคลื่อนไหวช้าที่สุด (-16.25%)
- การประเมินมูลค่าตลาด เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าดึงดูดที่สุดด้วยการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 2567 ที่แข็งแกร่ง เทียบกับ PER (Z-Score) ล่วงหน้า
ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Earning yield gap)
- ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน คือส่วนต่างของผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นสามัญ
- Earning Yield Gap เป็นหนึ่งในส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นสามัญ (Equity Risk Premium) ซึ่งส่วนชดเชยความเสี่ยงของหุ้นสหรัฐขณะนี้อยู่ใกล้ 0% ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ตีความได้ว่าการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่มีความเสี่ยงต่ำเท่ากับการลงทุนในผลตอบแทนที่มีความเสี่ยงสูง ดัชนี S&P500 จึงมีความน่าสนใจน้อยกว่า
- อัตราผลตอบแทนของเงินลงทุน (Capitalization rate) ใช้ในโลกของอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เพื่อระบุอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการลงทุนในอสังหาฯ นักลงทุนที่มีเหตุผลจะเลือกลงทุนในพันธบัตร ระยะเวลา 10 ปี และหยุดซื้ออสังหาฯ เนื่องจากมีผลตอบแทนสูงกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่า
มุมมองของเรา
- ลดน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยในเงินสด เน้นลงทุนในเงินฝากประจำของสหรัฐฯ หรือ US MMF ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดประมาณ 5%
- เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยในตราสารหนี้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ น่าสนใจซึ่งอาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเริ่มลดลง ในขณะที่เราดคาดหวังกำไรจากการลงทุนหาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
- เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยในหุ้นจากสงครามที่จำกัดระหว่างอิสราเอล-ฮามาส, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง, ภาวะถดถอยเล็กน้อยหรือไม่มีภาวะถดถอยในสหรัฐฯ
- ลดน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยในสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน และทองคำสำหรับความเสี่ยงจากภาวะถดถอย ตลาดหุ้นตกต่ำ หรือสงคราม REIT ฟื้นตัวจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงพร้อมอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าดึงดูด
Monthly mutual fund recommendations
- ตราสารหนี้ เราแนะนำ K-FIXED และ TMBGINCOME อัตราผลตอบแทนพอร์ตน่าสนใจ K-FIXED YTM อยู่ที่ประมาณ 3.09% และ TMBGINCOME ที่ 8.23% ขณะที่อัตราผลตอบแทนปัจจุบันอยู่ที่ 5.03%
- หุ้นทั่วโลก เราชอบ K-USA สำหรับหุ้นที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมความได้เปรียบทางการแข่งขัน และ K-US500X-A ลงทุนในดัชนี S&P 500 ที่ดีดตัวขึ้น ภาวะ Soft Landing และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed
- หุ้นเชิงกลยุทธ์ เราชอบ K-CHINA จากเงินทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ นโยบายกระตุ้นด้านที่อยู่อาศัย และการประเมินราคาที่ค่อนข้างถูก K-VIETNAM จากการบริโภคของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น และการย้ายฐานออกจากจีน และการประเมินมูลค่าที่ถูก
- SSF RMF แนะนำกองทุนตราสารหนี้ (FIXEDPLUS-SSF, KFIRMF) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (K-USA-SSF, KUSARMF) หุ้นจีน (K-CHINA-SSF, KCHINARMF) และหุ้นเวียดนาม (K-VIETNAM-SSF, KVIETNAMRMF)

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #Earning #Yield #AssetAllocation