Daily View

KS Daily View 29 ส.ค. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,235-1,265 จุด ซึ่งในวันนี้จะมี การอ่านคำวินิจฉัยสำหรับคดีคำร้องถอดถอนนายก และมองว่า fund flow จากต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวลง หลัง SET index ซื้อขายใกล้ระดับ -0.5 SD ของ PER band แนะนำ DOHOME และ BH

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.32%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.53%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.16% โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี แม้ว่ารายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Nvidia ต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ แต่ยืนยันว่าการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,250.09 จุด ลดลง 2.06 จุด (+0.17%) จากการปรับตัวลงของกลุ่มพลังงาน, กลุ่มการเงิน, และกลุ่มขนส่งในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,235-1,265 จุด ซึ่งในวันนี้จะมี การอ่านคำวินิจฉัยสำหรับคดีคำร้องถอดถอนนายกจากกรณีทำผิดจริยธรรม อย่างในก็ตามการร่างงบประมาณปี 2026 ได้ผ่านวาระ 2 และ 3 แล้ว ในขณะเดียวกันมองว่า fund flow จากต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวลง ด้วยจากข้อมูลในอดีตบ่งบอกกว่าแนวโน้มของ fund flow มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวหลัง SET index ซื้อขายสูงกว่า -0.5 SD จากค่าเฉลี่ย PER band ย้อนหลังในอดีต คิดเป็น PER 14.5 เท่า ซึ่งปัจจุบัน SET index ซื้อขายที่ระดับ 14.2 เท่า

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและแนวโน้มของรายได้ฟื้นตัวใน 3Q25 อย่าง DOHOME และ BH

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ใน 2Q25 พบว่าเศรษฐกิจขยายตัว 3.3% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 3.0% และพลิกฟื้นจากการหดตัว 0.5% ใน 1Q25 ที่เกิดจากการนำเข้าพุ่งขึ้นก่อนมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการฟื้นตัวครั้งนี้ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและดุลการค้าที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน USTR ประกาศขยายเวลามาตรการยกเว้นภายใต้การสอบสวนมาตรา 301 เกี่ยวกับนโยบายและการปฏิบัติด้านการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา และนวัตกรรมของจีน จากเดิมที่จะหมดอายุวันที่ 31 สิงหาคม 2025 ออกไปจนถึง 29 พฤศจิกายน 2025

รัสเซียจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันไปอินเดียเดือนกันยายนอีก 150,000–300,000 บาร์เรลต่อวัน แม้สหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์จะขึ้นภาษีนำเข้าอินเดีย 50% เพื่อกดดันหยุดซื้อ อินเดียยังปฏิเสธลดการนำเข้าและหันขยายความร่วมมือทางการทูต โดยได้ประโยชน์จากน้ำมันรัสเซียราคาถูกกว่าตลาดโลก 2–3 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งปัจจุบันครองสัดส่วนถึง 40% ของความต้องการในประเทศ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบกับ PTTEP

บริษัท Phillips 66 เตรียมเริ่มปิดการดำเนินงานโรงกลั่นน้ำมันใกล้ลอสแอนเจลิส ขนาด 139,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ โดยจะทยอยปิดถาวรตามแผนเดิมที่สิ้นสุดภายในไตรมาส 4 ปี 2025 โรงกลั่นดังกล่าวมีพนักงานราว 600 คน และผู้รับเหมาประมาณ 300 คน ซึ่งคาดว่าจะมีการเลิกจ้างส่วนใหญ่ในเดือนธันวาคม การปิดโรงกลั่นจะส่งผลกระทบต่ออุปทานเชื้อเพลิงในแคลิฟอร์เนียซึ่งมีราคาน้ำมันสูงที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ขณะที่ Valero Energy ก็ประกาศแผนปิดโรงกลั่น Benicia ขนาด 145,000 บาร์เรลต่อวันเช่นกัน มองเป็นบวกกับ TOP BSRC BCP SPRC

ที่ประชุมกพอ. 28 ส.ค. 2568 เห็นชอบประกาศเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษใหม่ 5 แห่ง มูลค่าลงทุนรวมกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ครอบคลุมอุตสาหกรรมยานยนต์ ดิจิทัล การแพทย์ และพลังงานสะอาด พร้อมขยายพื้นที่โครงการเดิมเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานเพิ่ม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการเพิ่มจังหวัดปราจีนบุรีเข้าสู่พื้นที่ EEC คาดเสร็จ ก.ย. 2025 ก่อนเสนอ ครม. พิจารณา มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ WHA และ AMATA

จีนวางแผนลดการผลิตเหล็กระหว่างปี 2025–2026 โดยปิดเตาหลอมล้าสมัยและสนับสนุนผู้ผลิตทันสมัย ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมปีละ 4% และดูแลเสถียรภาพวัตถุดิบ แม้ยังไม่ระบุเป้าหมายลดผลผลิตชัดเจน หากมีการควบคุมจริงการส่งออกอาจลดลงอย่างมาก มองเป็นบวกกับ DOHOME และ GLOBAL

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

DOHOME: ราคาพื้นฐาน 3.80 บาท

คาดแนวโน้มของกำไรใน 2H25 มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มีการเร่งเบิกจ่ายงานประมาณปี 2026 ซึ่ง ได้ผ่านวาระ 2 และ 3 แล้ว ประกอบกับข้อจำกัดด้านอุปทานเหล็กภายในประเทศที่เริ่มผ่อนคลายลงหลังจากการตรวจสอบผู้ผลิตเหล็กตามระเบียบข้อบังคับ ที่ส่งผลให้ขาดแคลนเหล็กเส้นภายในประเทศ อีกทั้ง รัฐบาลจีนวางแผนลดการผลิตเหล็กระหว่างปี 2025–2026 โดยปิดเตาหลอมล้าสมัยและสนับสนุนผู้ผลิตทันสมัยที่อาจส่งผลให้ ราคาเหล็กในประเทศฟื้นตัวขึ้น

BH: ราคาพื้นฐาน 186.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BH จากแนวโน้มของการฟื้นตัวของรายได้ คาดว่าจะเติบโต 3–5% ใน 3Q25 ฟื้นตัวจาก -4% ใน 2Q25 จากการเข้าสู่ช่วง high season ของกลุ่มโรงพยาบาลและ ฐานต่ำของรายได้ผู้ป่วยคูเวตในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผู้บริหารแสดงความเชื่อมั่นของการฟื้นตัวของรายได้จากคนไข้ตะวันออกกลางในเดือน ก.ค. ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่ทำได้ดี ที่จะหนุนให้กำไรใน 3Q25 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ติดตามรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index) เดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.8% YoY

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน