Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

KS Daily View 19 ธ.ค. 2024

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
19 ธันวาคม 2567

KS Daily View 19.12.2024 >>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรง S&P 500 หลุด 6,000 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า ด้านหุ้นไทยแกว่งแคบใกล้ 1,400 หลัง กนง. คงดอกเบี้ยตามคาด ทำให้ไม่มีปัจจัยหนุนใหม่จากภายใน อีกทั้งปัจจัยภายนอกยังกดดัน มองกรอบวันนี้ที่ 1,380 – 1,420

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในทุก Sector หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps แต่ส่งสัญญาณว่าจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าจากเดิม 4 ครั้งเป็น 2 ครั้ง โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2.95% หลุด 6,000 จุด, Nasdaq Composite ลดลง 3.56% หลุด 20,000 จุด และ Dow Jones ปรับตัวลง 2.58% ซึ่งนับเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 10 ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 1974 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.5% และดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ขึ้นเหนือ 108

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,398.95 จุด แกว่งตัวบริเวณแนวสำคัญ 1,400 จุด ภายหลัง กนง. มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 2.25% ตามคาด ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นโดดเด่น นำโดย SCB ที่ปิดที่ระดับสูงสุดของปี พร้อมด้วยกลุ่มค้าปลีกและอาหารที่รีบาวด์หลังจากลงแรง ขณะที่กลุ่มพลังงาน การเงิน และ TRUE ปรับตัวลงและกดดันตลาด ทิศทางตลาดยังขาดปัจจัยหนุนจากในประเทศ ขณะที่ต่างประเทศมีปัจจัยกดดันค่อนข้างมากจากการส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยที่ช้ากว่าเดิมในปี 2025 ของเฟด ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 34.5 บาทต่อดอลลาร์ วันนี้เราคาดกรอบการเคลื่อนไหวของ SET ที่ 1,380-1,420 จุด แนะนำ SHR, KTB

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ตามคาด มาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.5% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2025 ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 4 ครั้ง รวมถึงปรับตัวเลขคาดการณ์ปี 2025 ขึ้น โดย GDP ปรับจาก 2% เป็น 2.1%, อัตราการว่างงานจาก 4.4% เป็น 4.3%, Core PCE จาก 2.2% เป็น 2.5% และมีการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (Neutral Rate) ขึ้นจาก 2.9% เป็น 3.0% สะท้อนให้เห็นว่า Fed มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย จึงต้องระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยจะปรับลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติเป็นเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 2.25% ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลให้ลดดอกเบี้ย โดยคงคาดการณ์ GDP ปี 2567 ที่ 2.7% และปี 2568 ที่ 2.9% แต่เตือนถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตจากนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลักโดยเฉพาะหลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง กนง. ระบุว่าดอกเบี้ยปัจจุบันสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% โดยการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แม้การฟื้นตัวจะไม่ทั่วถึงในทุกภาคส่วน
  • ประธานใหญ่โตโยต้าญี่ปุ่น อากิโอะ โตโยดะ เดินทางเยือนไทยและพบนายกรัฐมนตรี แสดงความมุ่งมั่นที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนต่อไป โดยยืนยันว่าคุณภาพการผลิตในไทยได้มาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่น พร้อมประกาศลงทุนเพิ่ม 5.5 หมื่นล้านบาทเพื่ออัพเกรดสายการผลิตรองรับรถไฮบริด ทั้งการผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า เช่น มอเตอร์และเกียร์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาบุคลากร
  • ปลัดกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า การที่รัฐมนตรีพีระพันธุ์สั่งระงับการจ้างเหมาขุดถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลัง ITD ยื่นอุทธรณ์นั้น จะส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากสัญญาเดิมกำลังจะหมด และสัญญาใหม่ล่าช้า หากการตรวจสอบไม่แล้วเสร็จภายในกุมภาพันธ์ 2568 จะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าหายไป 600-800 เมกะวัตต์ ต้องใช้โรงไฟฟ้าก๊าซทดแทนและนำเข้า LNG มูลค่า 1,380 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 8 สตางค์ต่อหน่วย ขณะที่ กฟผ. มีกระแสเงินสด 5-6 หมื่นล้านบาท ยังบริหารจัดการได้ แต่อาจทำให้การส่งเงินเข้ารัฐล่าช้า
  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ออกสัญญากู้เงินเพื่อความยั่งยืนครั้งแรก โดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กู้ยืมเงิน 17,700 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าประเภทรางหนักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับความสนใจจากสถาบันการเงิน 8 แห่ง และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำประมาณ 2% โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาการเงินสีเขียวและการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2571 และปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50%

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • SHR: ราคาพื้นฐาน 3.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SHR จากการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 ถึงปี 2568 หลังโรงแรม SAii Laguna Phuket กลับมาเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม และคาดว่าจะไม่มีแผนปิดปรับปรุงโรงแรมขนาดใหญ่ในปี 2568 บริษัทจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง โดยคาดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 5-10% ในไตรมาส 4/2567 และลดลง 8-10% ในปี 2568 นอกจากนี้คาดรายได้ต่อห้องพักในปี 2568 จะเติบโต 5-10% นำโดยโรงแรมในไทยและมอริเชียส โดยมูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับไม่สูงเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตตั้งแต่ปี 2568

  • KTB: ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB จากโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2568 พร้อมความสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี โดยมีลูกหนี้ 30% อยู่ภายใต้ MOU ที่สามารถหักเงินเดือนชำระหนี้ได้โดยตรง และมี Coverage Ratio ที่สูงราว 180% เป็นการป้องกันความเสี่ยง คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตตามเป้าด้วยความเสี่ยงที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์อื่น มูลค่าหุ้นยังถูกที่อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (PBV) ที่ 0.6 เท่า มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) 9-10% และอัตราเงินปันผลตอบแทน 6%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) โดยตลาดคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% และการรายงานของ GDP ใน 3Q24 ของสหรัฐครั้งสุดท้าย ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan CPI) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.9% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.3% YoY ขณะที่ฝั่งของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index) ตลาดคาดที่ 2.9% YoY ปรับตัวขึ้นจาก 2.8% YoY ในเดือนก่อนหน้า

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

KS Daily View 18 ก.ค. 2025
18 ก.ค. 2568

KS Daily View 18 ก.ค. 2025

KS Daily View 17 ก.ค. 2025
17 ก.ค. 2568

KS Daily View 17 ก.ค. 2025

KS Daily View 16 ก.ค. 2025
16 ก.ค. 2568

KS Daily View 16 ก.ค. 2025

KS Daily View 15 ก.ค. 2025
15 ก.ค. 2568

KS Daily View 15 ก.ค. 2025

KS Daily View 14 ก.ค. 2025
14 ก.ค. 2568

KS Daily View 14 ก.ค. 2025

KS Daily View 11 ก.ค. 2025
11 ก.ค. 2568

KS Daily View 11 ก.ค. 2025