KS Daily View 30 เม.ย. 2025


KS Daily View 30.04.2025 >>> ติดตาม กนง. คาดลดดอกเบี้ย 25 bps SET วันนี้ กรอบ 1,160-1,180 หุ้นแนะนำ SCGP และ OR
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.58%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.55% และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.75% แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะอ่อนแอกว่าคาด โดยตำแหน่งงานที่เปิดรับลดลง 288,000 ตำแหน่ง ทำระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่ตลาดได้แรงหนุนจากสงครามการค้าที่ผ่อนคลายมากขึ้น จากการที่จีนยกเว้นภาษีนำเข้า 125% สำหรับก๊าซอีเทนจากสหรัฐฯ, ทรัมป์ลงนามยกเว้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ที่สหรัฐฯ นำเข้า และรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick เผยใกล้ปิดดีลการค้ากับหนึ่งประเทศคู่ค้าแล้ว
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,171.12 จุด เพิ่มขึ้นราว 12 จุด (+1%) Outperform ตลาดในภูมิภาค แรงหนุนมาจากหุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นราว 6% ต่อเนื่องหลังจากผลประกอบการดีกว่าคาด และจากการเก็งกำไรเม็ดเงินจากกองทุน Thai ESGX ที่จะช่วยชะลอแรงขาย LTF รวมถึงอาจมีเงินลงทุนใหม่เข้ามาในตลาด สำหรับประเด็น Moody’s ที่คงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ Baa1 แต่ปรับลด Outlook เป็น Negative สืบเนื่องจากผลของสงครามการค้า ไม่ใช่จากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่พื้นฐานทางการเงินยังค่อนข้างแข็งแกร่งสะท้อนผ่านเงินสำรองระหว่างประเทศที่สูงและหนี้ต่างประเทศที่ต่ำ การปรับ Outlook ไม่รุนแรงเท่าการปรับอันดับความน่าเชื่อถือ เราจึงคาดผลกระทบต่อ SET ค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มธนาคารอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ วันนี้คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,160 – 1,180 หุ้นแนะนำ SCGP, OR และติดตามการประชุม กนง. ที่ตลาดคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- มูดี้ส์ได้ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็น Negative จากเดิม Stable แต่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ Baa1 โดยมูดี้ส์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2568 เหลือประมาณ 2% จากเดิม 2.9% จากผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้แล้วและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเพิ่มภาษีเพิ่มเติมหลังจากระยะเวลาระงับ 90 วัน รวมถึงเหตุแผ่นดินไหวในพม่าที่ส่งผลกระทบต่อไทย อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงมีจุดแข็งด้านสถาบันและธรรมาภิบาล ความสามารถในการชำระหนี้ และฐานะการเงินต่างประเทศที่แข็งแกร่ง
- กกพ. ประกาศลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2568 ลดลงจากอัตราเดิม 4.15 บาทต่อหน่วย ตามนโยบายของรัฐบาล โดย กฟผ. ยอมแบกรับภาระต้นทุนแทนประชาชนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมถึงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้า อีกทั้งยังมีภาระส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติอีก 15,084 ล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2568 กฟผ. จะมีภาระต้นทุนคงค้างประมาณ 60,474 ล้านบาท
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดตัวโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบท่าอากาศยาน 6 แห่ง รวม 46 แปลง พื้นที่กว่า 2,512 ไร่ มูลค่าการพัฒนากว่า 28,800 ล้านบาท โดยเปิดให้เอกชนเช่าระยะยาวสูงสุด 30 ปี ทั้งบนที่ราชพัสดุและที่ดินกรรมสิทธิ์ของ ทอท. เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์โลจิสติกส์ คลังสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และโครงการที่อยู่อาศัย โดยกำหนดอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 4 บาทต่อตารางวาต่อเดือน เพื่อผลักดันการเป็น Aviation Hub แห่งภูมิภาคเอเชียและสร้างศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในหลายภูมิภาคของประเทศ
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงในเดือนเมษายนมาอยู่ที่ 86 จุด ซึ่งต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ตลาดแรงงานก็อ่อนแอลง โดยตำแหน่งงานว่างลดลงมาอยู่ที่ 7.19 ล้านตำแหน่ง ต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์มองว่านโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าจะชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ได้แสดงความกังวลต่อการเจรจากับสหภาพยุโรปเรื่องภาษีบริการดิจิทัล แต่มองว่าการเจรจากับประเทศในเอเชียมีความคืบหน้าที่ดี ในขณะที่จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯ 125% เพื่อช่วยผู้ผลิตปิโตรเคมีในประเทศ และล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ลงนาม Executive order เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีรถยนต์ โดยจะไม่เก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมซ้ำซ้อน และอนุญาตให้ผู้ผลิตขอคืนภาษีชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้าได้สูงสุด 3.75% ในปีแรกและ 2.5% ในปีที่สอง และยกเลิกในปีถัดไป หลังจากการล็อบบี้จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กังวลเรื่องต้นทุนการผลิตและราคารถยนต์ที่อาจเพิ่มขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
SCGP : ราคาพื้นฐาน 15.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SCGP คาดว่าจะรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/2568 จากการฟื้นตัวเกินคาดในไตรมาส 1/2568 ที่ดีกว่าประมาณการนักวิเคราะห์ ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาดและปริมาณขายบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากคำสั่งซื้อเติมสต็อกจากลูกค้าในสหรัฐฯ และกลุ่มลูกค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ (รวม 8% ของยอดขาย) โดยฝ่ายบริหารมั่นใจว่าราคาวัตถุดิบจะทรงตัวหรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากส่วนต่างราคากระดาษที่ราว 200 ดอลลาร์/ตัน และต้นทุนพลังงานที่ลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2568
OR : ราคาพื้นฐาน 14.80 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ OR จากการคาดการณ์กำไรในไตรมาส 1/2568 ที่จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY โดยเราคาดกำไรออกมาที่ระดับ 4,200 ล้านบาท เติบโต 12% YoY และ 39% QoQ กำไรที่เติบโตได้ดีมาจากการควบคุมต้นทุนและคาดการณ์กำไรธุรกิจปั๊มน้ำมันมีอัตรากำไรดีขึ้นจากปริมาณการขายน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจกาแฟ Café Amazon ยังทำยอดขายเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดมียอดขาย 104 ล้านแก้วในไตรมาส 1/2568 เติบโตประมาณ 5% YoY นอกจากนี้ OR ยังลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อเนื่องในปีนี้ โดยเราคาด SG&A จะลดลงราว 15% ขณะที่คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 1.02 บาทต่อลิตร
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (China NBS Manufacturing PMI) เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.5 จุด ต่อด้วยการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะลดดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 1.75% และตัวเลขส่งออก (TH Exports) ของ ธปท. เดือน มี.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 13.9% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH Imports) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% YoY ปิดท้ายด้วยการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา GDP 1Q25 ตลาดคาดที่ +0.4% QoQ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ +2.4%
วันพฤหัสฯ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% และปิดท้ายด้วย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐอเมริกา (US ISM Manufacturing PMI) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 47.9 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด
วันศุกร์ ติดตามการรายงานเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.23 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.28 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา
เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube