Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

KS Daily View 28 มี.ค. 2025

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
28 มีนาคม 2568

KS Daily View 28.03.2025>>> S&P 500 ปรับตัวลง แม้ GDP 4Q24 ดีกว่าคาด เงินเฟ้อลดลง แต่ความกังวลการขึ้นภาษียานยนต์เป็นปัจจัยกดดันหลัก ด้านตลาดหุ้นไทยยัง Flat ที่บริเวณ 1,180 – 1,200 ประเมินแกว่งตัวแคบในกรอบเดิมรอผล Reciprocal tariffs สัปดาห์หน้า หุ้นแนะนำ OR, CPALL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง โดย S&P 500 ลดลง 0.33%, Nasdaq Composite ลดลง 0.53% และ Dow Jones ลดลง 0.37% แม้ตลาดจะตอบสนองเชิงบวกหลังรายงาน GDP 4Q24 รอบสุดท้ายมีการปรับขึ้นจาก 2.3% QoQ เป็น 2.4% รวมถึง Core PCE ที่ปรับลงจาก 2.7% QoQ เป็น 2.6% แต่ตลาดยังคงกดดันจากการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถกระบะ 25% มีผลเริ่มต้นวันที่ 3 เม.ย. และจะขยายไปถึงอะไหล่รถยนต์ในวันที่ 3 พ.ค. โดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมขู่จะเพิ่มภาษีต่อสหภาพยุโรปและแคนาดาหากร่วมมือกันตอบโต้ สำหรับหุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นมีเพียง Consumer Staples ที่ได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดและมีความเป็น Defensive

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,187.90 จุด ปรับตัวลงราว 2.4 จุด มูลค่าการซื้อขายยังเบาบางที่ 2.76 หมื่นล้านบาท ตลาดแกว่งตัวกรอบแคบรอดูท่าทีเรื่อง Reciprocal tariffs จากสหรัฐฯ ซึ่งไทยถูกมองว่าอาจเข้าข่ายถูกเรียกเก็บ กระทบกลุ่มยานยนต์ ขณะที่กลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงานปรับตัวขึ้นหนุนดัชนี เราประเมินดัชนียังแกว่งตัวในกรอบ 1,180 – 1,200 จากการรอดูความรุนแรงของ Reciprocal tariffs และอัตราเงินเฟ้อ Core PCE รายเดือนของสหรัฐฯ

หุ้นแนะนำวันนี้ OR, CPALL

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. สหรัฐฯ รายงาน GDP 4Q24 รอบสุดท้าย ขยายตัว 2.4% QoQ มากกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้าที่ 2.3% การเติบโตได้รับแรงหนุนจากการปรับเพิ่มการส่งออกสุทธิ การใช้จ่ายของรัฐบาล และการลงทุนภาคธุรกิจ แต่การใช้จ่ายผู้บริโภคถูกปรับลดลงเหลือ 4% จาก 4.2% ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลไม่รวมอาหารและพลังงาน (Core PCE) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ได้รับการปรับลดลงเหลือ 2.6% จาก 2.7%
  2. ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าโดยขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นกว่าเดิมหากสหภาพยุโรปและแคนาดาร่วมมือกันต่อต้านมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้เขาได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจากต่างประเทศ 25% ซึ่งจะมีผลในเดือนเมษายน 2025 ทำให้ทั้งสหภาพยุโรปและแคนาดาแสดงท่าทีไม่พอใจ โดยนายกรัฐมนตรี Mark Carney ของแคนาดาเรียกว่าเป็น "การโจมตีโดยตรง" และนักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการนี้จะทำให้ราคารถยนต์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5,000-10,000 ดอลลาร์ต่อคัน ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน
  3. กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมฟื้นโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" โดยจะเปิดให้ 1 ล้านสิทธิ สนับสนุน 3,000 บาทต่อคืน แบ่งเป็นเมืองหลักรัฐช่วย 40% ประชาชนจ่าย 60% ส่วนเมืองรองรัฐช่วย 50% คาดเริ่มหลังสงกรานต์เพื่อกระตุ้นช่วงโลว์ซีซัน พร้อมมีมาตรการเสริมพิเศษเช่นการส่งเสริมท่องเที่ยววันธรรมดาและให้ข้าราชการทำงานต่างจังหวัดได้ ขณะเดียวกันยังเร่งกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนผ่านความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์และภาคเอกชน รวมถึงพิจารณาต่อมาตรการฟรีวีซ่าแต่อาจลดระยะเวลาพำนักเหลือ 30 วัน โดยใช้งบประมาณราว 3,000 ล้านบาท
  4. คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มอำนาจให้ก.ล.ต.ในการกำกับดูแลตลาดทุน โดยครอบคลุม 7 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การตรวจสอบการขายชอร์ต การยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพ การกำหนดสิทธิผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ การรายงานภาระผูกพันหลักทรัพย์ การเพิ่มมาตรการตรวจสอบและยับยั้งความเสียหาย การสอบสวนคดีที่มีผลกระทบรุนแรง และมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืน ซึ่งการออกเป็นพ.ร.ก.จะช่วยให้การดำเนินการรวดเร็วขึ้น เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน และสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
  5. ครม.อนุมัติร่างพ.ร.ฎ.ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยให้หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าสำหรับรถที่ผลิตหรือประกอบในไทย และ 1.5 เท่าสำหรับรถนำเข้าสำเร็จรูป ทั้งนี้ต้องเป็นการลงทุนตั้งแต่วันที่ครม.มีมติจนถึง 31 ธ.ค. 68 โดยรถต้องเป็นรถใหม่ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนและไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ ทั้งนี้บริษัทที่จะใช้สิทธิต้องจัดทำโครงการลงทุนและแจ้งต่อกรมสรรพากรตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • OR: ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ OR ซึ่งมี trigger point จากการที่บริษัทตั้งเป้าเชิงรุกเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 34-35% มาอยู่ที่ 39% ภายในสิ้นปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากแคมเปญการตลาดเชิงรุกที่จะปรับตามความเหมาะสมตลอดทั้งปี คาดว่าค่าใช้จ่ายการตลาดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 200-300 ล้านบาท แต่จะถูกชดเชยจากมาตรการลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกประมาณ 2-3 พันล้านบาทในปี 2568 จากค่าใช้จ่ายส่วนเกินต่างๆ โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงได้ประมาณ 2.5 พันล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2568 คาดว่าจะมีการตั้งสำรองของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักน้อยลงกว่าปีก่อน รวมถึงธุรกิจ mobility ในส่วน commercial ยังคงได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ยอดขายของน้ำมันเครื่องบิน (Jet fuel) ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2568 นี้

  • CPALL: ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPALL จากแนวทาง SSSG ปี 2568 ที่สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจบวกอัตราเงินเฟ้อ หรือประมาณ 3-5% โดยใน 2 เดือนแรกของปี 2568 CPALL สามารถแสดงการเติบโตของ SSSG ที่ระดับ 3.5% และตั้งเป้าการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นที่ 10-20 basis points จากการสอบถามผู้บริหารล่าสุดคาดว่าในไตรมาส 1 ปี 2568 จะสามารถปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จากการลดการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ เช่น บุหรี่ และคาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก synergy ของ CPAXT มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นหลัก จากทั้งการใช้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลงและการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของทั้ง Makro และ Lotus ในปี 2568

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขของสหรัฐที่รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วย ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal income) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.9% MoM และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal spending) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.6% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% MoM

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

KS Daily View 29 พ.ค. 2025
29 พ.ค. 2568

KS Daily View 29 พ.ค. 2025

KS Daily View 28 เม.ย. 2025
28 พ.ค. 2568

KS Daily View 28 เม.ย. 2025

KS Daily View 27 พ.ค. 2025
27 พ.ค. 2568

KS Daily View 27 พ.ค. 2025

KS Daily View 26 พ.ค. 2025
26 พ.ค. 2568

KS Daily View 26 พ.ค. 2025

KS Daily View 23 พ.ค. 2025>
23 พ.ค. 2568

KS Daily View 23 พ.ค. 2025>

KS Daily View 22 พ.ค. 2025
22 พ.ค. 2568

KS Daily View 22 พ.ค. 2025