Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

Daily View

แหล่งรวมบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ทั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
โดยการวิเคราะห์ จากปัจจัยพื้นฐานและบทวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์หุ้นรายตัว

จับตา Biden เพิ่มวงเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวเพิ่มอีก / ยุโรปคว่ำบาตรจีนตามสหรัฐ

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
23 มีนาคม 2564

จับตา Biden เพิ่มวงเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวเพิ่มอีก / ยุโรปคว่ำบาตรจีนตามสหรัฐ   

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา FED ได้ออกมาส่งสัญญาณไม่ต่ออายุเกณฑ์ Supplementary Leverage Ratio (SLR) ซึ่งคำนวณจาก Tier1 capital / Total Leverage Exposure กล่าวคือเป็นเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเพื่อควบคุมความเสี่ยงของระบบการเงินสมัยการประชุม Basel ซึ่งเริ่มนำใช้ตั้งแต่ปี 2014 เป้าหมายเพื่อใช้วัดความสามารถของสถาบันการเงินเรื่องการดำรงเงินกองทุนต้านทานภาวะวิกฤตในระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจ พร้อมทั้งลดการส่งต่อความเสี่ยงจากระบบการเงินไปยังภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงด้วย ซึงเกณฑ์คือสถาบันการเงินที่มีขนาดสินทรัพย์มากกว่า 2.5แสนล้านเหรียญสหรัฐ ต้องคงอัตราส่วนดังกล่าวไม่ให้ต่ำกว่า 3% ในขณะที่สถาบันการเงินที่มีความสำคัญต่อการเงินโลกอย่าง Global Systemically Important Banks (G-SIB) ต้องไม่ให้ต่ำกว่า 5%  

อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในช่วงวิกฤตการระบาด COVID-19 อย่างรุนแรงพบว่า FED ได้ออกหลายมาตรการช่วยเหลือเพื่อประครองเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยหนึ่งในนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การคำนวณสูตร SLR ดังกล่าว โดยอนุญาติให้ธนาคารไม่ต้องนำการถือครองพันธบัตรรัฐบาลและเงินฝากกับธนาคารกลางมาคำนวณใน Total Leverage Exposure เป็นผลให้สัดส่วน SLR(%) เพิ่มขึ้นส่งผลให้ธนาคารสามารถนำเงินไปลงทุนต่อ, ปล่อยสินเชื่อเข้าระบบ รวมถึงซื้อพันธบัตรได้มากขึ้น  

ล่าสุดภายหลังเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวภายหลังจากการเร่งฉีดวัคซีนในระดับ 2-2.5ล้านโดสต่อวัน พร้อมทั้งเม็ดเงินอัดฉีดจากภาครัฐกว่า 1.9ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลให้หลายสำนัดต่างปรับประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ขึ้น (FED ปรับเพิ่ม GDP ปีนี้เป็น 6.5% ) ในขณะที่สภาพคล่องในระบบเริ่มเพียงพอ และฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ที่ดีขึ้น เป็นผลให้ FED ตัดสินใจไม่ต่ออายุโครงการดังกล่าว (สิ้นสุด 31มี.ค.นี้) กล่าวคือต้องนำพันธบัตรและเงินฝากกับธนาคารกลางกลับมาคำนวณ ซึ่งเป็นผลให้อัตราส่วนดังกล่าวลดลง เบื้องต้นเรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ตามในระยะสั้นอาจส่งผลให้แรงซื้อในพันธบัตรรัฐบาลลดลง และอาจส่งผลให้ Bond yield ปรับขึ้นได้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐปรับตัวลงประมาณ 1-1.5% นำโดย JP Morgan, BoA, GS  

สำหรับนักลงทุนที่ถือกลุ่มดังกล่าวอยู่แนะให้ติดตามเกณฑ์ต่างๆที่คาดว่า Powell จะพูดถึงในสัปดาห์นี้ เช่นนโยบายปันผล (ในช่วงที่ผ่านมาได้ผ่อนปรนเรื่องการซื้อหุ้นคืนไปแล้ว) และอีกปัจจัยที่ต้องติดตามนั่นคือปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งล่าสุดยุโรปและอังกฤษได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ประเทศจีนตามสหรัฐ ในประเด็นการระเมิดสิทธิมนุษยชน (Human right) ของอุยกูร์ที่ซินเจียง ล่าสุดจีนเองเตรียมตอบโต้คว่ำบาตรยุโรปเองเช่นกันทั้งในเชิงบุคคลและบริษัท เบื้องต้นถึงแม้เรายังไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อ sentiment การลงทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามแนะดูพัฒนาการคว่ำบาตรครั้งนี้ว่าจะลามถึงการแบนการส่งออกรึเปล่า ? 

มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน วันนี้ คาด SET แกว่งในกรอบ 1,570จุด+/- แนะขายทำกำไร SVI เข้าเก็งกำไร HANA 

หุ้นแนะนำ HANA (พื้นฐาน 60.00 บาท) เราคาดว่ารายได้ของ HANA จะเติบโตขึ้น 18% YoY (ในสกุลเงินดอลลาร์ฯ) ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก 1) อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้น 2) อัตราการเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่รองรับระบบ 5G มากขึ้น 3) อุปสงค์การใช้ PC และแล็ปท็อป, ผู้บริหารมีมุมมองเป็นบวกต่อภาพรวมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโลกในปี 2564 ด้วยคาดการณ์ว่าจะมียอดขายที่เติบโตราวๆ 15% โดย HANA คาดว่าคำสั่งผลิตอุปกรณ์แผ่นรองสัมผัส (touch pad) ในคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชุดหัวชาร์จและชิปจะยังคงมีภาพรวมที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปี 2564, เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2564-65 ขึ้นเป็น 2.06 พันลบ. และ 2.55 พันลบ. เพื่อสะท้อนภาพรวมการเติบโตที่แข็งแกร่งของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2564 

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด -6.5% MoM เป็น 8.76 แสนยูนิต วันพุธ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทย เดือน ก.พ. คาด -2.77% YoY และ +11.50% YoY ตามลำดับ และคาดไทยเกินดุลการค้า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การประชุม กนง.ของไทยคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ถ้อยแถลงของ รมว.คลังสหรัฐฯ และประธานเฟดต่อคณะกรรมธิการวุฒิสภาฯเรื่องภาวะเศรษฐกิจ และมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวสหรัฐฯช่วงโควิด-19 หรือ CARES Act ตัวเลข PMI คาดการณ์ของเยอรมัน และอังกฤษเดือน มี.ค. คาดทรงตัว MoM ที่ 61 จุด และ 58.1 จุดตามลำดับ ขณะที่ตัวเลข PMI คาดการณ์ของยูโรโซน และสหรัฐฯเดือน มี.ค. คาดทรงตัว MOM ที่ 54.9 จุด และ 59.4 จุด ตามลำดับ ตัวเลข Core Durable Goods Orders สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.6% MoM และตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +2.96 ล้านบาร์เรล วันพฤหัสฯ ติดตาม ถ้อยแถลงของประธาน ECB และตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยเดือน ก.พ. คาด +0.6% YoY ตัวเลข German Ifo Business Climate Index เดือน มี.ค. คาด +0.8% MoM เป็น 93.2 จุด ตัวเลข Core PCE Price index ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.1% MoM และ +1.5% YoY 

KS Daily View 17 ก.ค. 2025
17 ก.ค. 2568

KS Daily View 17 ก.ค. 2025

KS Daily View 16 ก.ค. 2025
16 ก.ค. 2568

KS Daily View 16 ก.ค. 2025

KS Daily View 15 ก.ค. 2025
15 ก.ค. 2568

KS Daily View 15 ก.ค. 2025

KS Daily View 14 ก.ค. 2025
14 ก.ค. 2568

KS Daily View 14 ก.ค. 2025

KS Daily View 11 ก.ค. 2025
11 ก.ค. 2568

KS Daily View 11 ก.ค. 2025

KS Daily View 09 ก.ค. 2025
9 ก.ค. 2568

KS Daily View 09 ก.ค. 2025