Company Analysis

REVIEW 3Q24 : ASK THANI

ASK
-กำไรปกติอ่อนแอที่ 59 ลบ. ลดลง 29% QoQ และ 82% YoY สอดคล้องกับประมาณการกำไรปกติของเรา ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอเกิดจาก
1.คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ การตัดหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น และผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ถูกยึดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) สูงขึ้น
2.พอร์ตสินเชื่อลดลง 3% QoQ
กำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ 315 ลบ. คิดเป็นเพียง 62% ของประมาณการทั้งปีของเรา ดังนั้น เราจึงมองเห็น downside risk ที่อาจเกิดขึ้นต่อประมาณการกำไรของเรา

-เรายังคงเห็นแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง และสินทรัพย์ถูกยึดจำนวนมาก หากอิงตามการคำนวณของเรา การก่อตัวหนี้เสีย (NPL) ใหม่ไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 746 ลบ. ลดลง 32% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 42% YoY สินเชื่อชั้นที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 11% ของสินเชื่อรวมจาก 10.6% ในไตรมาส 2/2567 และอัตราส่วน NPL (NPLratio) เพิ่มขึ้นเป็น 6.5% จาก 6.1% ในไตรมาส 2/2567 มูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ถูกยึด เพิ่มขึ้นเป็น 2.30 พันลบ. เพิ่มขึ้น 16% QoQ และ 75% YoY
-ขณะเดียวกัน อัตราส่วนสำรองต่อหนี้สูญ (coverage ratio) ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 56% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้ง 2 รายที่อยู่ที่ 90-100% และผลงานในอดีตที่ 70-90% ในปี 2560-66
-แนะนำ “ขาย” เราคงคำแนะนำ “ขาย” ASK และราคาเป้าหมายกลางปี 2568 ที่ 10.8 บาท เนื่องจากเรายังคงเห็น downside risk ที่อาจเกิดขึ้นต่อการคาดการณ์ของเรา แม้ว่าราคาตลาดจะลดลง 45% YTD แต่ยังมีความเสี่ยงที่คุณภาพสินทรัพย์จะอ่อนแอลงอีก และ ASK จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับปรุงให้ดีขึ้น

THANI
-ภาวะตลาดที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อกลุ่มสินเชื่อรถบรรทุก ก่อนหน้านี้เราเชื่อว่า THANI จะสามารถต้านทานได้ แต่ผลประกอบการไตรมาส 3/67 บ่งชี้ว่าเริ่มได้รับผลกระทบและอาจดำเนินต่อไปในไตรมาสหน้า
-คาดกำไรของ THANI แตะจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3/67 และจะปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/67 แม้ว่าจะยังคงอ่อนแออยู่ก็ตาม เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 67-69 ลง 33%/28%/17%
-ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” และปรับ TP ลง 35% เป็น 1.7 บาท เราคาดว่าหุ้นจะถูกกดดันจากกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ แต่เรามองว่า THANI อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในเรื่องการเติบโตในปี 68