SGC มาจาก "Solid Growth" เครือข่ายที่แข็งแกร่งประสานพลังการผนึกกำลังทางธุรกิจจะสร้างผลประกอบการที่โดดเด่น


SGC มาจาก "Solid Growth"
เครือข่ายที่แข็งแกร่งประสานพลังการผนึกกำลังทางธุรกิจจะสร้างผลประกอบการที่โดดเด่น
-เครือข่ายที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนที่ดีจาก SINGER เป็นปัจจัยหนุนหลักต่อผลประกอบการ SGC เป็นบริษัทในเครือของ SINGER จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ด้วยวัตถุประสงค์เริ่มแรกคือเพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของ SINGER แต่หลังจากเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นโดย JMART ก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SINGER ในปี 2558 SGC ได้เริ่มขยายบริการสินเชื่อไปยังกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งสินเชื่อ C4C การปล่อยสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน และบริการผ่อนทองคำ
-เราเชื่อว่า SGC มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันจากการสนับสนุนที่แข็งแกร่งภายในกลุ่ม ได้แก่
1) วิธีเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีประสิทธิภาพเพราะตัวแทนฝ่ายขายกว่า 260 คน มีประสบการณ์ในกลุ่มสินเชื่อ C4C เป็นอย่างมากเช่นเดียวกับมีทักษะการขายตรง
2) แบรนด์ SINGER ที่แข็งแกร่งและ
3) ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าผ่านจำนวนสาขาที่ 4,820 แห่งและตัวแทนจำหน่ายและดีลเลอร์อีกว่า 1,721 ราย ข้อได้เปรียบทั้งหมดดังกล่าวช่วยให้ SGC สามารถเติบโตพอร์ตสินเชื่อได้ถึง 3 เท่า ในเวลาแค่ 3 ปี
-นอกจากการสนับสนุนจากภายในกลุ่มแล้ว การขยายระบบนิเวศน์อย่างต่อเนื่องของกลุ่ม JMART ยังช่วยให้ SGC ขยายความสัมพันธ์กับพันธมิตรใหม่จากภายนอก ยกตัวอย่างเช่น พันธมิตรกับ JMART และ SINGER กับ GUNKUL ทำให้ SGC นำเสนอบริการสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อแผงโซลาร์รูฟท็อปขณะที่พันธมิตรล่าสุดกับ BRR ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ SGC ในจังหวัดบุรีรัมย์ แม้บริการสินเชื่อใหม่ เช่น สินเชื่อสวัสดิการพนักงานและบริการผ่อนทองคำ (Click2Gold) ยังไม่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับพอร์ตสินเชื่อและกำไรสุทธิของ SGC แต่เราเชื่อว่าช่วยขยายการเจาะตลาดใหม่ของ SGC และจะเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต
-แนวโน้มกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งพร้อมควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ เราคาดว่า SGC จะรายงานกำไรสุทธิปี 2565/66/67 ที่ 666 ลบ./953 ลบ./1.2 พันลบ. หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 26.3% ในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยปัจจัยหนุนหลักจาก
1) สินเชื่อที่คาดเติบโตขึ้นแข็งแกร่งที่ 49.7%/39.4%/24.1% ในปี 2565/66/67 เนื่องจาก SGC จะเติบโตพอร์ตสินเชื่อ C4C ในเชิงรุกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.0 หมื่นลบ. ภายในปี 2569 และ
2) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่ลดลงเนื่องจากเราเชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของ SGC ในระยะยาวจะแข็งแกร่งมากขึ้นเนื่องจากสินเชื่อ C4C มีความเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ
-เราเชื่อว่า SGC จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางเลือกอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการเติบโตนอกจากเงินกู้ยืมจาก SINGER ซึ่งเป็นบริษัทแม่ หลังเปิดขาย IPO เราคาดว่าสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะลดลงมาอยู่ที่ 1.39 เท่า ในช่วงสิ้นปี 2565 เราคาดว่าบริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มหนี้สินได้อีกเป็น 1.0 หมื่นลบ. เพื่อสนับสนุนแผนขยายการเติบโตในอนาคต
มุมมอง KS
“ซื้อ” และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 5.50 บาท อิงด้วยวิธี GGM ราคาเป้าหมายของเราสะท้อน PBV ปี 2566 ที่ 2.5 เท่า ซึ่งมากกว่าคู่แข่งหากเทียบในเชิง PBV อยู่เล็กน้อย จากแนวโน้มกำไรสุทธิของ SGC ที่แข็งแกร่งกว่า
เปิดพอร์ตลงทุน >> https://bit.ly/3eC98sz
Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp