Company Analysis

KS : SPA S-curve ใหม่จากธุรกิจ Wellness

มุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์

เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2568 จาก 2 พันลบ. เหลือ 1.7 พันลบ. เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในครึ่งแรกของปี 2568 ที่ต่ำกว่าที่คาด บริษัทฯ คงเป้าหมายการขยายสาขาในปี 2568 ที่ 10 สาขา

โดยเปิดแล้ว 5 สาขาในครึ่งปีแรก และคาดว่าจะเปิดอีก 5 สาขาที่เหลือ ได้แก่ เอ็มควอเทียร์, ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค, คิงสแควร์, เอเชีย โฮเทล แบงคอก และ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ ในครึ่งหลังปี 2568 แม้ว่าบริษัทฯ จะรายงานการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ลดลงเลขสองหลักในครึ่งแรกของปี 2568 แต่ผู้บริหารคาดว่าการลดลงจะน้อยลงในครึ่งหลังของปี 2568 (ประมาณตัวเลขหลักเดียวต่ำ) ส่งผลให้ SSSG ทั้งปี 2568 ลดลงประมาณตัวเลขหลักเดียวสูง

S-curve ใหม่จากธุรกิจ Wellness

บริษัทฯ ประกาศการลงทุนใหม่ในธุรกิจ Wellness มูลค่ารวม 821.87 ลบ. แบ่งเป็นค่าเช่า 471.87 ลบ. และค่าปรับปรุงอาคาร 350 ลบ. โครงการอยู่ภายใต้สัญญาเช่าระยะเวลา 30 ปี ตั้งอยู่ที่พัทยา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 38 ไร่

ผู้บริหารคาดว่าจะมีรายได้จากโครงการนี้ 3 ส่วน ได้แก่ (1) รายได้จากธุรกิจ Wellness (60%) (2) รายได้จากธุรกิจโรงแรม (35%) และ (3) รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (5%) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 1/2570

มุมมอง KS : เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SPA โดยปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 5.36 บาท จาก 8.07 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรปี 2568–69 เราคาดว่ากำไรปี 2568 จะลดลง 39% YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงและการเปิดสาขาใหม่ 10 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18–24 เดือนจึงจะถึงจุดคุ้มทุน ขณะเดียวกันเราคาดว่าจะมี upside ราว 1.1–1.5 บาท/หุ้น จากโครงการ Wellness ใหม่ของ SPA ที่พัทยา