• สำหรับซื้อขายหลักทรัพย์ มีทั้งหมด 3 ประเภท
  1. Cash Balance บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต้องฝากเงินสด 100% ของจำนวนเงินที่ต้องการจะซื้อหุ้นเพื่อวางเป็นหลักประกัน
  2. Cash Account บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ต้องฝากเงินหรือฝากหุ้นเข้ามาเพื่อวางเป็นหลักประกันก่อนทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นจำนวน 20% ของวงเงินที่ท่านต้องการจะซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ในวงเงินที่บริษัทฯ อนุมัติ โดยบริษัทฯจะทำการหัก (ฝาก) ค่าซื้อหุ้น (ค่าขายหุ้น) ทั้งจำนวนจากบัญชีของท่านผ่านบริการตัดบัญชีอัตโนมัติของธนาคารพาณิชย์ (ATS) ในวันทำการที่ 2 (T+2) นับจากวันที่มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์ และท่านจะได้รับวงเงินในการซื้อขายหลักทรัพย์จากบริษัทฯ โดยพิจารณาจากหลักฐานทางการเงินของท่าน
  3. Credit Balance บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เหมาะสมกับท่านที่ต้องการเพิ่มอำนาจการซื้อหลักทรัพย์โดยการกู้เงินเพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์สูงสุด 1 เท่าของมูลค่าหลักประกันที่นำมาวาง แต่ไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ กรณีที่เงินประกันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ท่านต้องทำการโอนเงินหลักประกันเพิ่มเติมมายังบริษัทฯ เพื่อรักษาระดับเงินประกันอีกด้วย
  
  
• สำหรับซื้อขายตราสารอนุพันธ์
  - Derivatives Account การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าท่านจะต้องโอนเงินหลักประกันตามเกณฑ์ที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯกำหนดไว้ มายังบริษัทฯ โดยในทุกสิ้นวันทำการ พอร์ตการลงทุนของท่านจะได้รับการปรับมูลค่า (Mark-to-Market) เพื่อให้สะท้อนมูลค่าพอร์ตการลงทุนที่แท้จริง และกรณีที่เงินประกันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ท่านต้องทำการโอนเงินหลักประกันเพิ่มเติมมายังบริษัทฯ เพื่อรักษาระดับเงินประกันอีกด้วย

• กรุณานำส่งเอกสารหลักฐานทางการเงินให้กับผู้จัดการเงินทุนส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ กรุณารับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ
• เอกสารหลักฐานทางการเงิน ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารประเภทบัญชีออมทรัพย์ หรือ ประจำ ย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด ,บัญชีพอร์ตการลงทุนอื่นๆ เช่น กองทุนหรือหุ้นที่ฝากไว้กับหลักทรัพย์อื่นๆ ในเดือนล่าสุด / หลักฐานทางการเงินอื่นๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ สลากออมสิน เป็นต้น
• การพิจารณาอนุมัติการขอเพิ่มวงเงิน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางบริษัทฯ
  

1. เมนู My Service ผ่านแอปพลิเคชั่น K-Cyber Trade/Streaming
   - เมนู My Service ผ่านแอปพลิเคชั่น K-Cyber Trade/Streaming จากนั้น เลือกประเภทบัญชีที่ต้องการจะเปิดบัญชีเพิ่มในหัวข้อ “เปิดบัญชีลงทุนเพิ่ม” (กรณีเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ กรุณาเลือก เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ในหัวข้อ “ลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ”)
2. เมนู KS Service บริการออนไลน์ หน้าเว็บไซต์ KS Trade
   - เมนู KS Service บริการออนไลน์ หน้าเว็บไซต์ KS Trade จากนั้น เลือกประเภทบัญชีที่ต้องการจะเปิดบัญชีเพิ่มในหัวข้อ “เปิดบัญชีลงทุนเพิ่ม” (กรณีเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ กรุณาเลือก เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ในหัวข้อ “ลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ”)

• eFin Stock Pick Up (PC) 
  บริการข้อมูลกราฟทางเทคนิค ข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐานในรูปแบบที่หลากหลาย ข่าวสารจากสำนักข่าวคุณภาพ และระบบสแกนหุ้นพร้อมทั้งเครื่องมือที่นำเสนอข้อมูลเชิงสถิติกับ Indicator ที่หลากหลาย ช่วยให้ค้นหาจังหวะการซื้อขายหุ้นได้อย่างง่ายดาย
  ดาวน์โหลด คลิกที่นี่! อ่านคู่มือ คลิกที่นี่!
• eFin Mobile Application
  ช่วยวิเคราะห์หุ้น อนุพันธ์ และ กองทุน ที่สามารถใช้งานพกพาได้ทุกที่ทุกเวลา
  ดาวน์โหลด คลิกที่นี่! อ่านคู่มือ คลิกที่นี่!
  
• Settrade Technical Chart (PC)
  ฟังก์ชันกราฟเทคนิคช่วยให้คุณวิเคราะห์หุ้นและอนุพันธ์ได้ง่ายๆ ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก พร้อม Indicators และ Drawing Tools กว่า 50 แบบ อีกทั้งยังสามารถ Save / Load กราฟ และ Indicator ที่ใช้งานเก็บไว้เรียกดูภายหลังได้อีกด้วย
  ดาวน์โหลด คลิกที่นี่! อ่านคู่มือ คลิกที่นี่!
  
• ASPEN for Browser
  บริการข้อมูลและข่าวสารออนไลน์เกี่ยวกับหุ้นและกราฟเพื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยใช้เป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุน ทั้งในตลาดหุ้น ตลาดทุน และอื่นๆ
  ดาวน์โหลด คลิกที่นี่! อ่านคู่มือ คลิกที่นี่!
  
• KS Super Stock Application
  เครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเมนู Scan ที่รวบรวมสูตรลับเฉพาะของ KS ไว้หลากหลายสูตรที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของนักลงทุน ทั้งข้อมูลทางด้านพื้นฐานและข้อมูลด้านเทคนิคคอล
  ดาวน์โหลด คลิกที่นี่! อ่านคู่มือ คลิกที่นี่!

• ปัญหาเรื่อง OTP
  - สาเหตุส่วนใหญ่ที่ลูกค้าไม่รับ OTP เนื่องจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่านไม่อยู่ในประเทศที่ให้บริการ ท่านสามารถตรวจสอบประเทศที่ให้บริการยืนยันตัวตน 2FA ได้ที่ https://www.kasikornsecurities.com/th/startinvesting/2fa หรืออยู่ในประเทศที่ให้บริการ แต่เครือข่ายที่ลูกค้าใช้บริการไม่รองรับให้บริการยืนยันตัวตน 2FA สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ 02 796 0009 กด 2
  
  
• ปัญหาเรื่อง รหัสผ่าน
  - รหัสผ่าน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับลูกค้าลืมรหัสผ่านในกลุ่มไหน ท่านสามารถ Reset รหัสผ่านในแต่ละกลุ่ม โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  กลุ่ม KS User	กลุ่ม Settrade User
  KS TRADE KS ONE KS Super Stock E-FIN Trade+	K-Cyber Trade Streaming Streaming Funds+ Options Starter

  กรณี ลืมรหัสผ่านในกลุ่ม KS User
  • กด “ลืมรหัสผ่าน (Forgot Password)” คลิกที่นี่ หรือ บน Application ที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ
  กรณี ลืมรหัสผ่านในกลุ่ม Settrade User
  • กด “ลืมรหัสผ่าน (Forgot Password)” บน Application ที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ
  • ลูกค้ามักพบปัญหาว่า สร้างรหัสผ่านใหม่ใน K Cyber Trade / Streaming (กลุ่ม Settrade User) แต่ไม่สามารถเข้าใช้งาน KS Trade (กลุ่ม KS User)ได้ เนื่องจากรหัสผ่านแยกกันคนละชุด ลูกค้าต้องทำการ ลืมรหัสผ่านอีกครั้งที่หน้าเว็บไซต์ หรือ โปรแกรมในกลุ่ม KS User
  
  
• ปัญหาเรื่อง รหัส PIN (รหัสส่งคำสั่งซื้อขาย)
  รหัส PIN แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับลูกค้าลืม PIN ในกลุ่มไหน ท่านสามารถ Reset PIN ในแต่ละกลุ่ม โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

  กลุ่ม KS User	กลุ่ม Settrade User
  KS TRADE KS ONE E-FIN Trade+	K-Cyber Trade Streaming Streaming Funds+ Options Starter

  
  กรณี ลืม PIN  ในกลุ่ม KS User
  • กดที่เมนู "KS Service" ใน KS Trade บน Hyperlink "http://www.kasikornsecurities.com" หรือ บน Application ที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ จากนั้น กด “ลืม KS PIN”
  กรณี ลืม PIN ในกลุ่ม Settrade User
  • กดที่ “My Menu” และ กด “Forgot PIN” ในเมนู KS Menu บน Application ที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ ลูกค้ามักพบปัญหาว่า สร้าง PIN ใน KS Trade (กลุ่ม KS User) แต่ไม่สามารถนำ PIN ไปยืนยันส่งคำสั่งซื้อขายใน K-Cyber Trade / Streaming (กลุ่ม Settrade User)ได้ เนื่องจาก PIN แยกกันคนละชุด ลูกค้าต้องทำการ Reset PIN อีกครั้งในโปรแกรมในกลุ่ม Settrade User
  

• เนื่องจากหุ้นที่ลูกค้าซื้อขายนั้น เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ระดับ 2 (T2) และ ระดับ 3 (T3) ซึ่งห้าม Net Settlement โดยหากลูกค้าซื้อหุ้นและขายหุ้นในวันเดียวกัน วงเงินจะไม่กลับมาในพอร์ตทันที โดยวงเงินจะกลับมาในพอร์ตลูกค้าเช้าวันทำการรุ่งขึ้นที่ T+1 ตามมาตรการของ SET
     

แหล่งที่มา: https://www.set.or.th/th/about/setsource/news-release/article/47-step-up-market-surveillance-measures

• First-in, First-Out (FIFO) คือ การคำนวนต้นทุนหุ้นแบบเข้าก่อน-ออกก่อน ดังนั้น หุ้นตัวไหนที่ลูกค้าซื้อเข้าพอร์ตมาก่อน จะถูกขายออกไปก่อน และ หากมีหุ้นคงเหลือในพอร์ต จะถูกคำนวนต้นทุนเฉลี่ยใหม่ในวันทำการรุ่งขึ้น ทั้งนี้ ระบบ FIFO คือ วิธีบริหารจัดการ และวัดมูลค่าสินทรัพย์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในทางบัญชี ภาษี และการบริหารสินค้าคงเหลือในคลังสินค้า การบันทึกระบบบัญชีแบบ FIFO สินทรัพย์ที่ถูกซื้อมาก่อนจะถูกตัดออกก่อน เมื่อมีการขายสินทรัพย์ออกไป และระบบซื้อขายหุ้นใช้วิธีการคำนวณแบบเข้าก่อน-ออกก่อน (First in, First out) เช่นกัน กรณีลูกค้ามีการขายหุ้นเพียงบางส่วนออกจากพอร์ต มักมีข้อสงสัยเรื่องของต้นทุน และ กำไร/ขาดทุน ของหุ้นที่ขายแล้ว รวมทั้ง ต้นทุน หรือ กำไร/ขาดทุน ของหุ้นที่ยังคงเหลือในพอร์ต หากลูกค้าทำการขายหุ้นบางส่วน ในวันที่ T กำไร/ขาดทุนเบื้องต้น ยังไม่ใช่กำไร/ขาดทุนที่แท้จริง โดย ณ สิ้นวัน ระบบจะคำนวณกำไร/ขาดทุนอีกครั้ง ด้วยวิธี First-in, First Out (FIFO) โดยนำราคาหุ้นที่ซื้อเข้ามาก่อน มาคำนวณเป็นต้นทุนในการขายออกไปก่อน ดังนั้น ขอแนะนำนักลงทุนตรวจสอบกำไร/ขาดทุนที่แท้จริง ในวันทำการรุ่งขึ้น (T+1) โดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
  - แอปพลิเคชัน KS Super Stock เมนู “My Account” และ เลือก “My Performance”
   -เว็บไซต์ KS Trade เมนู “K-Cyber Trade” และ เลือก “KS Portfolio Analysis
  ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ลูกค้าบันทึกรายการซื้อขายของตนเองไว้ เพื่อลูกค้าจะได้ทราบต้นทุนที่แท้จริงของการซื้อในแต่ละครั้ง ก่อนทำการขายหุ้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการลงทุน
  
  
• 

• เศษหุ้น คือ จำนวนหุ้นที่ต่ำกว่า 100 หุ้น
• เศษหุ้นจะซื้อขายในกระดานเศษหุ้น โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบ Bid/Offer ในกระดานเศษหุ้นที่ My Menu ใน K-Cyber Trade / Streaming จากนั้น ไปที่เมนู Odd Lot ใน Standard Menu
• ส่วนการส่งคำสั่งซื้อขายเศษหุ้น ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งวิธีเดียวกับหุ้นเหมือนปกติ แต่จะส่งคำสั่งได้เฉพาะช่วงตลาดเปิด (Open) เท่านั้น
• สำคัญ! กรุณาแยกคำสั่งระหว่าง หน่วยการซื้อขาย (Board Lot) และ เศษหุ้น (Odd Lot) ตัวอย่างเช่น ลูกค้าต้องการส่งคำสั่งขายหุ้น จำนวน 179 หุ้น ลูกค้าต้องแยก 100 หุ้น และ 79 หุ้น เนื่องจาก 79 หุ้น เป็นเศษหุ้นต้องขายได้กระดานเศษหุ้น

• Conditional Order คือการส่งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไข ซึ่งจะส่งคำสั่งซื้อขายก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่ กำหนดไว้เป็นจริง โดยจะมีฟังก์ชั่นที่รองรับ 3 แบบ ดังนี้
  1. Stop Order คือ เป็นคำสั่งที่ให้ระบบส่งคำสั่งซื้อขายเมื่อราคาล่าสุดตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยกำหนดเงื่อนไขเป็นราคาล่าสุด และคำสั่งซื้อขายเป็น Limit หรือ MP-MTL
  2. Trailing Stop คือ เป็นคำสั่งซื้อขายแบบยกระดับราคาอัตโนมัติ ส่งได้ทั้งคำสั่งซื้อและขายใน กรณีที่หุ้นนั้นๆทำ New High หรือ New Low ระบบจะยังไม่ส่งคำสั่ง แต่จะส่งเมื่อราคากลับตัวมาตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขแบบร้อยละ (Percentage) หรือส่วน ต่างราคา (Price) จากราคาสูงสุด/ต่ำสุด
  3. Bracket Order คือ เป็นคำสั่งที่ให้ระบบส่งคำสั่งซื้อขายเมื่อราคาล่าสุดตรงกับเงื่อนไขที่กำหนด ไว้ในส่วน Upper Price หรือ Lower Price โดยกำหนดเงื่อนไขเป็นราคาล่าสุด และคำสั่งซื้อขายเป็น MP-MTL
• ข้อควรทราบเบื้องต้นสำหรับตั้งคำสั่ง Conditional Order
  1. สามารถตั้ง Conditional Order ได้เฉพาะหุ้นบนกระดานหลัก (Main Board) เท่านั้น
  2. ไม่สามารถตั้ง Conditional Order สำหรับ เศษหุ้น (Odd Lot) หรือ หุ้นที่มีจำนวนหุ้นต่ำกว่า 100 หุ้น
  3. กรณี Symbol มีการเปลี่ยนแปลงชื่อย่อ ระบบจะยกเลิก Conditional Order ที่มี Symbol นั้นตอนสิ้นวันก่อนวันที่มีผลจริง
  4. กรณี Symbol ที่ตั้งไว้มี Corporate Action โดยระบบจะยกเลิก Conditional Order นั้นตอนสิ้นวัน ก่อนหุ้นขึ้นเครื่องหมาย หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงราคาพาร์ จะยกเลิกตอนสิ้นวันก่อนวันที่มีผล จริง เพื่อลดผลกระทบจากราคาที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถตั้ง Conditional Order ได้ใหม่ หลังจากที่ Order นั้น ถูกยกเลิกไปแล้ว
  5. หุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 บาท ลูกค้าต้องส่งคำสั่งแบบ MP-MTL เท่านั้น ไม่สามารถส่งคำสั่งแบบ Limit
• คู่มือการส่งคำสั่ง Conditional Order คลิก

การสมัคร E-Payment (ODD) สามารถทำได้ 2 ช่องทาง

1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “My Service” และ เลือก “ฝากเงิน (หักบัญชีอัตโนมัติ ODD)” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
2. ตู้ ATM : คู่มือการสมัคร คลิกที่นี่

การถอนเงินผ่านระบบออนไลน์ มี 2 ช่องทาง

1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “My Service” และ เลือก “ถอนเงิน” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
2. KS Trade ที่ www.kasikornsecurities.com โดยไปที่ เมนู “KS Service” และ เลือก “ถอนเงิน” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
   หมายเหตุ : ส่วนเงื่อนไขการได้รับเงินหลังจากที่ลูกค้าทำการแจ้งถอนเงิน ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.kasikornsecurities.com/th/investorguide/news/OUjOq4

• กรณี สมัคร E-Dividend ลูกค้าสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 2 ช่องทาง
  1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “My Service” และ เลือก “สมัครโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
  2. KS Trade ที่ www.kasikornsecurities.com โดยไปที่ เมนู “KS Service” และ เลือก “สมัครโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
• กรณี เปลี่ยนแปลงบัญชีธนาคาร สำหรับ E-Dividend ทำตามขั้นตอน ดังนี้ 
  1. กรุณาเข้าที่เมนู “My Service” ใน K-Cyber Trade / Streaming Application หรือ “KS Service” ใน KS Trade
  2. เลือก “สมัครโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร” ในหัวข้อ บริการออนไลน์ และ เลือก “เปลี่ยนแปลงบัญชีธนาคาร”
  หมายเหตุ : กรุณาเตรียมสมุดบัญชีธนาคารตัวจริง หรือ สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (รับรองสำเนาถูกต้อง) เพื่อถ่ายรูป/แนบรูปในระบบ โดยชื่อ-นามสกุล ต้องตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบออนไลน์ มี 2 ช่องทาง

1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “My Service” และ เลือก “เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
2. KS Trade ที่ www.kasikornsecurities.com โดยไปที่ เมนู “My Service” และ เลือก “เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล” ในหัวข้อ บริการออนไลน์

การเพิ่มหรือเปลี่ยนลายมือชื่อสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ ดังนี้

1. กรุณาเข้าที่เมนู “My Service” ใน K-Cyber Trade / Streaming Application
2. เลือก “ส่งตัวอย่างลายมือชื่อ” ในหัวข้อ บริการออนไลน์

• กรณี ถือเป็นใบหุ้น เอกสารที่ต้องจัดส่งมายังบริษัทฯ ดังนี้
  
  • ใบหุ้น (ลงนามสลักหลังตรงช่องผู้โอน เพียงช่องเดียว)
  • ใบแจ้งความประสงค์ขอฝากหลักทรัพย์ คลิกที่นี่
  • สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ (รับรองสำเนาถูกต้อง ใช้เพื่อฝากใบหุ้นเท่านั้น)
  • หากสำเนาบัตรประชาชนเป็นตลอดชีพ กรุณาแนบสำเนาทะเบียนบ้าน (รับรองสำเนาถูกต้อง ใช้เพื่อฝากใบหุ้นเท่านั้น)
• กรณี หุ้นฝากไว้ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เอกสารที่ต้องจัดส่งมายังบริษัทฯ ดังนี้ 
  
  • ใบ ศรท. 403 คลิกที่นี่
  • สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ (รับรองสำเนาถูกต้อง ใช้เพื่อโอนหุ้นเท่านั้น)
  • หากสำเนาบัตรประชาชนเป็นตลอดชีพ กรุณาแนบสำเนาทะเบียนบ้าน (รับรองสำเนาถูกต้อง ใช้เพื่อโอนหุ้นเท่านั้น)
    หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อย กรุณาจัดส่งเอกสารมายังบริษัทฯ โดยท่านสามารถติดต่อผู้จัดการเงินทุนบุคคลลของท่าน หรือ จัดส่งเอกสารมาตามที่อยู่ด้านล่าง
    บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KS11) ชั้น 11 อาคารธนาคารกสิกรไทย 400/22 ถนน พหลโยธิน แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กรุงเทพฯ 10400

ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลพอร์ตย้อนหลังได้ 3 ช่องทาง

1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “KS Portfolio Analysis” ในหัวข้อ บริการอื่นๆ
2. K-Cyber Trade Website โดยไปที่ เมนู พอร์ตการลงทุน หรือ เมนู “KS Portfolio Analysis”
3. KS Super Stock Application โดยไปที่ เมนู “My Performance”

ลูกค้าสามารถขอเอกสารย้อนหลังได้ 2 ช่องทาง

1. K-Cyber Trade / Streaming Application โดยไปที่ เมนู “ขอเอกสารย้อนหลัง” ในหัวข้อ บริการออนไลน์
2. KS Super Stock Application โดยไปที่ เมนู “Confirmation”