BEM : กำลังรอปัจจัยหนุนใหม่

-คาดกำไรไตรมาส 4/65 ที่ 614 ลบ. (+55% YoY, -29% QoQ) จากการไม่มีเงินปันผลจาก TTW เหมือนในไตรมาส 3/65 คาดปันผลที่ 0.1 บาท/หุ้น หรือ DY ที่ 1%
-EBITDA ไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 82% ของระดับก่อนโควิด คาด EBITDA ปี 2566/67 คาดอยู่ที่ 90%/103% ของช่วงก่อนโควิด ขณะที่ราคาหุ้น BEM อยู่ที่ 89%
-“ซื้อ” แต่ลดราคาเป้าหมาย สิ้นปี 2566 ลง 1.4% เป็น 11.17 บาท ปัจจัยหนุน 1) การเดินทางที่เพิ่มขึ้น 2) ค่าโดยสารที่สูงขึ้น และ 3) โครงการทางด่วน 2 ชั้น ในปี 2566

สถิติการดำเนินงาน
เราคาดว่ารายได้ใน 4Q22 จะอยู่ที่ 3.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 24.7% YoY และ 2.1% QoQ จากปริมาณการใช้ทางพิเศษเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 11.9% YoY และ 3.1% QoQ และปริมาณเที่ยวโดยสารของผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT เฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 98.9% YoY และ 11.5% QoQ เราคาดว่ารายได้ 4Q22 จะเท่ากับ 91% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 (4Q19) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะเพิ่มขึ้นเป็น 43.3% เทียบกับที่ 42% ใน 4Q21 แต่ลดลงจาก 44% ใน 3Q22 จาก opex ที่สูงขึ้น

มุมมอง KS
คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BEM แต่ลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ลงเป็น 11.17 บาท จากการปรับประมาณการกำไรของเรา หนุนจากการฟื้นตัวของปริมาณการใช้ทางพิเศษและปริมาณการใช้รถไฟฟ้า MRT เร็วขึ้น และการเริ่มต้นโครงการทางด่วนสองชั้นในปี 2566 เราเชื่อว่า BEM อยู่ภายใต้แรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มและการไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ เราคาดว่า BEM จะลงนามในโครงการได้ภายใน 1Q23 หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนการเลือกตั้งทั่วไป

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://bit.ly/3eC98sz
Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp