Global Invest

Xiaomi สมาร์ทโฟนยังคงกดดัน แต่ EV และ IoT ช่วยประคอง

3 KEYS Highlight

1. Xiaomi รายงานผลประกอบการไตรมาสนี้ในลักษณะผสมผสาน

โดยมีรายได้รวม 115.96 พันล้านหยวน (คาด 114.94 พันล้านหยวน, +30.5% YoY) เติบโตจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ส่งมอบ 81,302 คัน (โต 197.7% YoY) ราคาขายเฉลี่ย 253,662 หยวน/คัน (โต 10.9% YoY, 6.4% QoQ) ดัน gross margin กลุ่มนี้สูงถึง 26.4% และรายได้รวม 21.26 พันล้านหยวน (คาด 21.11 พันล้านหยวน)

แม้ยังขาดทุนจากการดำเนินงาน 300 ล้านหยวน แต่แนวโน้มการทำกำไรเริ่มใกล้เข้ามา พร้อมแผนรุกตลาดยุโรปในปี 2027 ด้าน IoT รายได้ 38.71 พันล้านหยวน (คาด 36.1 พันล้านหยวน, +44.7% YoY) เติบโตจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่และอุปกรณ์สวมใส่ แม้ margin ลดลงเหลือ 22.5% (จาก 25.2% ในไตรมาสก่อน) เพราะผลกระทบจากแคมเปญโปรโมชัน 618 ในจีน

2. ธุรกิจสมาร์ทโฟนยังรักษาอันดับ Top 3 ของโลก

(market share 14.7%) โดยยอดขายรวม 42.4 ล้านเครื่องซึ่งทรงตัว YoY แต่รายได้สมาร์ทโฟนอยู่ที่ 45.52 พันล้านหยวน (คาด 47.91 พันล้านหยวน) และ ASP ลดลง -2.7% YoY จากการเติบโตในตลาดต่างประเทศที่เป็นรุ่นราคาถูก

ขณะที่ในจีนต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงด้านราคา และการเปิดตัวรุ่นใหม่มีน้อยกว่าแบรนด์คู่แข่ง ส่งผลให้ margin ถูกกดดัน ผู้บริหารระบุว่า Q4 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเพราะเป็นช่วง peak season ของการเปิดตัวสินค้าใหม่ คาดว่าจะช่วยฟื้นยอดขายและ margin ได้ ส่วน Internet Services รายได้ 9.1 พันล้านหยวน (คาด 9.24 พันล้านหยวน, +10.1% YoY) โดยสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 32.9% หนุน recurring income และ ecosystem ของบริษัท

3. สำหรับแนวโน้มระยะถัดไป Xiaomi ยังคงเน้นลงทุนต่อเนื่องในเทคโนโลยีหลัก

ทั้งชิป 3nm, AI และ ecosystem Human × Car × Home เพื่อขยายโอกาสธุรกิจและเพิ่มความได้เปรียบในตลาดพรีเมียม คาดว่ากลุ่ม EV จะเดินหน้าสร้างความสามารถในการทำกำไร และรุกยุโรปตามแผน กลุ่ม IoT และ Internet Services ยังมีศักยภาพเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค แม้ธุรกิจสมาร์ทโฟนยังมีแรงกดดัน แต่การเปิดตัวรุ่นใหม่ช่วงปลายปีอาจช่วยพลิกภาพรวมกลับมาได้ ส่งผลให้ระยะสั้นบริษัทเผชิญทั้งโอกาสและความท้าทาย ขณะที่ธุรกิจใหม่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตในระยะยาว

Investor Tip:

Xiaomi จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “1810 HK” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล HKD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 200 หุ้น (Trade Lot = 200)

ลงทุนหุ้นนอกกับ KS ครอบคลุม 40 ตลาดชั้นนำทั่วโลก (เทรด Online 28 ตลาด เทรด Offline 12 ตลาด) เปิดพอร์ตลงทุน >> http://ksecurities.co/Open-Account_GlobalTrade