KS: 7 กองทุนแนะนำจาก KS ประจำเดือนธันวาคม
Core Portfolio
🎯1. KKP GNP
✅กองทุนหลัก Capital Group New Perspective Fund
✅นโยบายการลงทุน
กระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยเน้นไปที่การวิเคราะห์แบบ Bottom-up ผ่านผู้จัดการกองทุน 10 คน เพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพาผู้จัดการกองทุนเพียงไม่กี่คน
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ป้องกัน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เรามีมุมมองที่ดีต่อตราสารทุนสำหรับปี 2026 จากเศรษฐกิจโลกที่จะเติบโตต่อได้ จากแรงผลักดัน ต่างๆ ได้แก่
1) การลงทุนใน AI
2) การย้ายฐานการผลิต
3) มีนโยบายการคลัง และการเงิน ที่คอยสนับสนุน
4) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง
โดยแนะนำทยอยลงทุนเมื่อตลาดหุ้นโลกย่อตัวลง (ยิ่งลง ยิ่งได้ discount) ให้ได้ตามสัดส่วน EQ core portfolio ที่วางแผนไว้
🎯2. K-GDBONDUH
✅กองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund
✅นโยบายการลงทุน
กระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับสร้างผลตอบแทนรวมในระยะยาว โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตตามสภาวะตลาด
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ป้องกัน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เราคงมุมมองว่าในปี 2026 จะยังเป็นปีของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ล่าสุดอาจได้ Kevin Hassett ซึ่งมีแนวคิดผ่อนคลายนโยบายการเงิน เข้ามาเป็นประธานเฟดต่อจาก Jerome Powell จึงยังแนะนำกระจายความเสี่ยงไปยังตราสารหนี้ในยามที่ 10Y UST อยู่ในกรอบ 4.00-4.25%
Satellite Portfolio (6-12M)
🎯3. KKP TECH-UH
✅กองทุนหลัก iShares Expanded Tech ETF (IGM)
✅นโยบายการลงทุน
เน้นลงทุนในกลุ่ม Technology, Communication Services และ Consumer Discretionary ประกอบด้วยหุ้น 280 ตัว โดยไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ป้องกัน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เราคงมุมมองบวกต่อหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ โดยมองว่าวัฎจักรของเซมิคอนดักเตอร์รอบนี้จะยาวนานกว่ารอบก่อนๆ จากกำลังซื้อที่เปลี่ยนจากรายย่อย (Consumer) ในรอบก่อนๆ เป็นบริษัทเทคฯ ใหญ่ (Hyperscalers) และรัฐบาล (Sovereign) ขณะที่ Supply ยังติดคอขวดอยู่หลายขั้นตอนทั้งการผลิตชิปในส่วนการประกอบ (packaging) และ memory shortage ซึ่งเป็นการยืดเวลาของวัฎจักรที่มักจบลงด้วยการ oversupply อีกทั้งผลประกอบการหุ้นในกลุ่มทำได้ดีกว่าคาดมาก โดยแนะนำลงทุนเมื่อ IGM (ETF) ย่อตัวลงโดยเฉพาะจากความกังวลด้านมหภาค
🎯4. ASP NGF
✅กองทุนหลัก Eric Sturdza – Nippon Growth Fund
✅นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นแบบ High conviction 34 บริษัท ด้วยวิธีการ Bottom-up โดยเน้นลงทุนในกลุ่ม Conglomerate ด้านการค้า และธนาคารใหญ่
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เราคงมุมมองบวกต่อหุ้นญี่ปุ่น จากธีมระยะยาว “Deflation to Inflation; De-rating to Re-rating” เงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนค่าจ้างเติบโต การบริโภคเร่งตัว จากออมเงินเป็นลงทุน, ระดับ Valuation ที่ยังซื้อขายใกล้เคียงค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบหุ้นโลกไม่รวมสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากการที่ ครม. อนุมัติแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะยาวในอุตสาหกรรมเติบโตสูง และระยะสั้นสำหรับช่วยเหลือค่าครองชีพ แนะนำซื้อเมื่อดัชนี Topix ย่อตัวลง
🎯5. MINDIA
✅กองทุนหลัก Jupiter India Select Fund
✅นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นอินเดีย โดยเน้นลงทุนแบบ Bottom-up ในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงในราคาที่เหมาะสม จำนวน 60-80 บริษัท โดยกระจายการลงทุนในหุ้นทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เราคงมุมมองบวกต่อหุ้นอินเดีย และคาดว่าตลาดหุ้นอินเดียจะ Outperform ในปี 2026 จากเศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง (+8.2% YoY) จากภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำหนุนให้ RBI มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุด และการปฏิรูปกฎหมายแรงงานที่จะเป็นการเร่งรอบการลงทุนจากทั้งต่างชาติ และเอกชน แนะนำซื้อเมื่อดัชนี Nifty 50 ย่อตัวลง
🎯6. SCBKEQTG
✅กองทุนหลัก iShares MSCI South Korea ETF (EWY)
✅นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นเกาหลีใต้ เพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด MSCI Korea 25/50 โดยกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนใน Memory player อย่าง Samsung Electronics และ SK Hynix รวมกันราว 40%
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
เรามีมุมมองบวกต่อธีม Memory super cycle จากการความต้องการ AI ในส่วน Inferencing ที่ขยายตัวเร็วมาก ทำให้ความต้องการ Memory สูงขึ้น ขณะที่ Supply ตามไม่ทันจากการที่ผู้ผลิต Memory ค่อนข้าง Underinvested ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคา Memory ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะลากยาวจนถึงสิ้นปี 2026 เป็นอย่างน้อย จากการขยายกำลังการผลิตที่ไม่ทันต่อความต้องการ
Satellite Portfolio (3-6M)
🎯7. ONE-FFI
✅นโยบายการลงทุน
กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น โดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 7 เดือน 20 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 3.65% ต่อปี
✅นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ป้องกัน
✅ควรลงทุนเมื่อไร
แนะนำลงทุนเมื่อ USD/THB อยู่ในกรอบ 32 – 33 ซึ่งเรามองว่าเป็นกรอบค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 35/USD และจุดตัดขาดทุนที่ 31.5/USD
️*เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสลงทุนในระยะสั้นและสามารถตัดขาดทุนได้
Source: KS Research, KS Mutual Fund data as of 4 December 2025

📲เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #KSecurities #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND
ภาษาไทย
English