KS: KS FUND TOP PICK 8 - 12 ธ.ค. 2025
📌ติดตาม FOMC นัดชี้ชะตา... ว่าปลายปีจะได้เห็นซานต้าหรือไม่ พร้อมลุ้นงบ Oracle และ Broadcom หนุน Sentiment กลุ่มเทคฯ
📊สัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นโลก (ACWI) ยังคงเคลื่อนไหวด้วยความผันผวน หลังจาก Kazuo Ueda ผู้ว่า BOJ ส่งสัญญาณชัดขึ้นว่าการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. เป็นทางเลือกที่เปิดอยู่ หลังเห็นความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่มจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากเกินไป ขณะเดียวกันฝั่งอุปสงค์เริ่มฟื้นตัวจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวและโอกาสการขึ้นค่าจ้างรอบใหม่ซึ่งช่วยหนุนรายได้ครัวเรือน
นอกจากนี้ผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้รุนแรงเท่าที่เคยกังวล และกำไรบริษัทญี่ปุ่นยังทรงตัวในระดับที่ดี ซึ่งทำให้ Bond Yield ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นแรง และทำให้ตลาดหุ้นมีแรงขายมาออกเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม Narrative ที่คอยช่วยพยุงตลาดไว้ คือ การที่ตลาดมองความเป็นไปได้ที่สูงขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุม FOMC
ในสัปดาห์นี้ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด โดยเฉพาะการจ้างงานจาก ADP ที่รายงานการเลิกจ้าง 32,000 ตำแหน่ง (คาดจ้างเพิ่ม 10,000 ตำแหน่ง), ISM Manufacturing PMI 48.2 (คาด 48.6) ทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และ Core PCE ที่เพิ่มขึ้น 2.8% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.9% YoY และเพิ่มขึ้น 0.2% MoM ตามที่ตลาดคาด รวมถึงการที่ Kevin Hassett ที่มีจุดยืนในด้านการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เป็นตัวเต็งในการเป็นประธานเฟดคนต่อไป
📊ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย Dow Jones +0.50%, S&P 500 +0.31%, Nasdaq Composite +0.91% และ Russell 2000 +0.84% จากแรงหนุนของกลุ่ม Energy (+1.40%) ที่ปรับตัวขึ้นตามน้ำมัน หลัง OPEC+ ตัดสินใจคงระดับการผลิตน้ำมันใน 1Q26 เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดัน Supply ล้นตลาด และการฟื้นตัวต่อเนื่องของหุ้นกลุ่ม Growth อย่าง Technology (+1.37%), Discretionary และ Communication (+0.80%) ขณะที่ Utilities -4.52% ปรับตัวลงแรงหลัง 10Y UST เด้งขึ้น 12 bps สู่ระดับ 4.14% สูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ภาพรวมทั้งสัปดาห์เป็นลักษณะของการ Rotation สลับไปมาระหว่าง Growth – Defensive – Cyclical รอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้
📊ด้านตลาดหุ้นอื่นๆ ภาพรวมค่อนข้างผสมผสาน โดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (Kospi +4.42%) จากกระแสราคา DRAM ที่ปรับตัวขึ้นหนุนความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของ Samsung และ SK Hynix จะดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ Hyundai Motor (+20.5%) หลังสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ายานยนต์จาก 25% เหลือ 15% มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 พ.ย. 2025 ด้านตลาดเอเชียเหนืออื่นๆ ภาพรวมปรับตัวขึ้นทั้ง ไต้หวัน (TWSE +1.28%), จีน (CSI 300 +1.28% และ HSCEI +0.75%) แม้มีแรงกดดันจากผลประกอบการที่ไม่ดี และความกังวลอสังหาริมทรัพย์ หลัง China Vanke ขอเลื่อนการชำระหนี้ออกไปอีก 12 เดือน ส่วนญี่ปุ่น (Topix -0.47%) ปรับตัวลงรายสัปดาห์ จากความกังวลที่ BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
📊สัปดาห์นี้ เราคาดว่าประเด็นสำคัญที่สุดจะอยู่ที่การประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps จาก 4.00% สู่ 3.75% พร้อมกับการให้ Economic Projections รวมถึง Dot Plot โดยการประชุมครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่กรรมการเฟดเสียงแตกค่อนข้างมากจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจำกัดจากภาวะ Government shutdown นอกจากการประชุม FOMC แล้ว เราแนะนำให้ติดตามตัวเลข ตำแหน่งงานเปิดใหม่ในสหรัฐฯ (JOLTs) ซึ่งจะเป็นข้อมูลสุดท้ายก่อนการประชุม FOMC และการเติบโตของค่าจ้างในญี่ปุ่น และ GDP 3Q25 (รอบสุดท้าย), ตัวเลขส่งออก และเงินเฟ้อจีน, การประชุมธนาคารกลางแคนาดา และอัตราเงินเฟ้ออินเดีย สำหรับภาพของ Micro โดยเฉพาะในกลุ่มเทคฯ เราแนะนำให้ติดตาม การส่งออกของไต้หวัน, รายได้เดือน พ.ย. ของ TSMC และผลประกอบการของ Broadcom, Oracle และ Synopsys
📊เราประเมินตลาดจะ Sideways และผันผวน ก่อนการประชุม FOMC ซึ่งเราคาดว่าน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณเป็น Dovish tone สำหรับปี 2026 มากขึ้น อย่างไรก็ตามหากเฟดยังไม่ปรับมุมมองในการประชุมครั้งนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะปรับมุมมองในช่วงต้นปี 2026 ที่จะมีการหมุนเวียนสิทธิ์การโหวตของกรรมการเฟดในแต่ละสาขา เราแนะนำสะสมหุ้นโลกผ่านกองทุน KKP GNP เป็น Core Equity Portfolio และ K-GDBOND-UH เป็น Core Fixed Income Portfolio เมื่อ 10Y UST ปรับตัวเข้าใกล้ 4.20% ด้าน Satellite Portfolio 12 เดือน แนะนำลงทุนหุ้นเทคสหรัฐฯ (KKP TECH-UH) จากผลประกอบการที่เรามองว่าจะดีต่อเนื่องในปี 2026, หุ้นญี่ปุ่นผ่านกองทุน ASP-NGF จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว, หุ้นอินเดีย (MINDIA) จากผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและ GDP ที่โตถึง 8.2% และหุ้นเกาหลีใต้ (SCBKEQTG) จากภาวะ Memory super cycle หนุนให้ Samsung และ SK Hynix จะมีผลประกอบการที่ดีมากในปี 2026 สำหรับกองทุน ONE-FFI ที่เราวางไว้เป็น Satellite Portfolio ระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อเก็งกำไรจากค่าบาท จากปัจจุบันที่ค่าเงินบาทหลุดกรอบสะสมที่ 32-33 บาท/ดอลลาร์ เราจึงแนะนำให้ Wait & See และให้ตัดขาดทุนเมื่อค่าบาทแข็งค่าต่ำกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์
💡 𝐈𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
1️⃣ 𝐁𝐮𝐲 𝐥𝐢𝐬𝐭𝐬
𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐩𝐨𝐫𝐭 (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)
✅ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇: กองทุนหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ลงทุนผ่าน iShares Expanded Tech (IGM) โดยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น +1.78% จากการ Priced-in โอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว และการฟื้นตัวขึ้นของ Nvidia หลังตลาดเริ่ม Realized ได้ว่า TPU ของ Google ไม่ได้มาแทน GPU และ Meta Platforms หลังประกาศลดงบกลุ่ม metaverse ลง 30% ปีหน้า
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ IGM (ETF) มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า และให้ติดตามการประชุม FOMC, รายได้เดือน พ.ย. ของ TSMC และผลประกอบการของ Oracle, Broadcom และ Synopsys
✅ 𝐀𝐒𝐏-𝐍𝐆𝐅: กองทุนหุ้นญี่ปุ่น ลงทุนผ่าน Eric Sturdza Nippon Growth โดยสัปดาห์ที่แล้วดัชนี Topix -0.47% หลังผู้ว่า BOJ ไม่ปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนนี้ จากค่าเงินเยนที่อ่อนเกินไปซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวขึ้นจาก Import price ที่สูงขึ้น อีกทั้งด้านดีมานด์มีความพร้อมมากขึ้นทั้ง ค่าจ้างที่น่าจะเติบโตต่อเนื่อง, ผลกระทบจาก tariff ต่ำกว่าคาด และผลประกอบการบริษัทดีกว่าคาด
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Topix มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า และการเติบโตของค่าจ้าง และตัวเลข GDP 3Q25 (รอบสุดท้าย)
✅ 𝐌𝐈𝐍𝐃𝐈𝐀: กองทุนหุ้นอินเดีย ลงทุนผ่าน Jupiter India Select Fund โดยสัปดาห์ที่แล้วดัชนี Nifty 50 -0.06% ยังคงทรงตัวใกล้ระดับ all-time high จากแรงขายทำกำไร แม้ตัวเลข GDP 3Q25 จะออกมาดีกว่าคาด อีกทั้ง RBI ยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps สู่ระดับ 5.25%
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Nifty 50 มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า และให้ติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ และความคืบหน้าการเจรจาการค้า หลังผู้แทนสหรัฐฯ เตรียมเดินทางมาคุยกรอบข้อตกลงการค้าในสัปดาห์นี้
✅ 𝐒𝐂𝐁𝐊𝐄𝐐𝐓𝐆: กองทุนหุ้นเกาหลีใต้ ลงทุนผ่าน iShares MSCI South Korea (EWY) โดยสัปดาห์ที่แล้วดัชนี Kospi +4.42% จากแรงซื้อกลับในกลุ่ม Memory และได้แรงหนุนจาก Hyundai Motor ที่ขึ้นแรง +20.5% หลังสหรัฐฯ ปรับลดภาษีนำเข้ากลุ่มยานยนต์ให้เกาหลีใต้
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Kospi มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือน และให้ติดตามการประชุม FOMC, รายได้เดือน พ.ย. ของ TSMC, ผลประกอบการของ Oracle, Broadcom และ Synopsys และตัวเลขส่งออก 10 วันแรก ของเดือน ธ.ค.
𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐩𝐨𝐫𝐭 (สำหรับช่วง 3 - 6 เดือน)
✅ 𝐎𝐍𝐄-𝐅𝐅𝐈: กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นโดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 7 เดือน 20 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 3.65% ต่อปี กองทุนไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) ซึ่งเปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เรามองว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน
✅ แนะนำ Wait & see หลังค่าเงินบาทหลุดกรอบสะสมที่ 32-33 บาท/ดอลลาร์ และให้ตัดขาดทุนเมื่อค่าบาทแข็งค่าต่ำกว่า 31.50 บาท/ดอลลาร์
2️⃣ 𝐇𝐨𝐥𝐝𝐢𝐧𝐠 𝐥𝐢𝐬𝐭𝐬
𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐩𝐨𝐫𝐭 (สำหรับช่วง 6 - 12 เดือน)
✅ 𝐓𝐔𝐒𝐅𝐈𝐍-𝐀: กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ลงทุนผ่าน XLF (ETF) โดยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น +0.66% จากความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
✅ คงคำแนะนำ Let profit run และให้ติดตามการประชุม FOMC

📲เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #KSecurities #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กลยุทธ์การจัดพอร์ต
ภาษาไทย
English