หุ้นไทย

ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์

ท่านต้องฝากเงินสด 100% ของจำนวนเงินที่ต้องการจะซื้อหุ้นเพื่อวางเป็นหลักประกันเข้ามายังบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยจึงจะสามารถทำการซื้อหลักทรัพย์ได้ โดยอำนาจในการซื้อหลักทรัพย์จะเท่ากับเงินสดที่ฝากเข้ามาเป็นหลักประกันแต่สูงสุดไม่เกิน Credit Limit ที่ได้รับการอนุมัติ เมื่อมีรายการซื้อขายหุ้น ค่าซื้อหุ้น (ค่าขายหุ้น) จะถูกหัก (ฝาก) จากอำนาจซื้อทันที ทั้งนี้ เงินค่าขายจะยังคงอยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ จนกว่าท่านจะทำรายการขอถอนเงินออกจากบัญชีหลักทรัพย์ ส่วนการชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์จะดำเนินการในวันทำการที่ 2 นับจากวันที่มีการซื้อขาย (T+2)


เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี ผ่านสาขาหลักทรัพย์กสิกรไทย

(กรุณาเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง "สำหรับเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ บล.กสิกรไทยฯ" ทุกฉบับ)

  1. *เอกสารคำขอเปิดบัญชี (ประกอบด้วย ข้อมูลลูกค้า แบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และแบบแจ้งสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน/ไม่เป็นบุคคลอเมริกัน)
  2. *สัญญาแต่งตั้งนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
  3. *W-9 หรือ W-8BEN
  4. *หลักฐานประกอบการเปิดบัญชี (พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)
    • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (เพื่อใช้แสดงตนที่สาขาของบริษัทฯ)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(ด้านหน้าและด้านหลัง) ที่ยังไม่หมดอายุจำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล จำนวน 1 ฉบับ (กรณีที่ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎในเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน)
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการรับเงินปันผล และรับเงินที่ถอนจากบัญชี จำนวน 1 ฉบับ
    • บริษัทอาจพิจารณาขอเอกสารหลักฐานประกอบการเปิดบัญชีเพิ่มเติม (ถ้ามี)

หมายเหตุ : *กรณีท่านเปิดบัญชีหลายประเภท ท่านสามารถยื่นเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเพียง 1 ชุด

ท่านที่ต้องการเปิดบัญชีเงินสดจะต้องฝากเงินหรือฝากหุ้นเข้ามาเพื่อวางเป็นหลักประกันก่อนทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นจำนวน 20% ของวงเงินที่ท่านต้องการจะซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ในวงเงินที่บริษัทฯอนุมัติ โดยบริษัทฯจะทำการหัก (ฝาก) ค่าซื้อหุ้น (ค่าขายหุ้น) ทั้งจำนวนจากบัญชีของท่านผ่านบริการตัดบัญชีอัตโนมัติของธนาคารพาณิชย์ (ATS) ในวันทำการที่ 2 (T+2) นับจากวันที่มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยธนาคารที่สามารถใช้ ATS ได้ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย และท่านจะได้รับวงเงินในการซื้อขายหลักทรัพย์จากบริษัทฯ โดยพิจารณาจากหลักฐานทางการเงินของท่าน

นอกจากนี้ ท่านสามารถเลือกใช้บริการ K-Stock 2 Fund** (บริการซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติผ่านกองทุนกสิกรไทย) ควบคู่กับการเปิดบัญชีเงินสด เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ระหว่างการรอจังหวะในการลงทุน


เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี ผ่านสาขาหลักทรัพย์กสิกรไทย

(กรุณาเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง "สำหรับเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ บล.กสิกรไทยฯ" ทุกฉบับ)


  1. *เอกสารคำขอเปิดบัญชี (ประกอบด้วย ข้อมูลลูกค้า แบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และแบบแจ้งสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน/ไม่เป็นบุคคลอเมริกัน)
  2. *สัญญาแต่งตั้งนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
  3. *W-9 หรือ W-8BEN
  4. *หลักฐานประกอบการเปิดบัญชี
    • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (เพื่อใช้แสดงตนที่สาขาของบริษัทฯ)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(ด้านหน้าและด้านหลัง) ที่ยังไม่หมดอายุจำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล จำนวน 1 ฉบับ (กรณีที่ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎในเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน)
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการรับเงินปันผล และรับเงินที่ถอนจากบัญชี จำนวน 1 ฉบั
    • สำเนาหลักฐานทางการเงิน ยอดรวมกันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท (อาทิเช่น สำเนาบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีฝากประจำย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด หรือใบแสดงยอดหลักทรัพย์/กองทุนในบัญชีเดือนล่าสุด หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือ หลักฐานทางการเงินอื่นๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดอายุ เช่น ตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน เป็นต้น)
    • บริษัทอาจพิจารณาขอเอกสารหลักฐานประกอบการเปิดบัญชีเพิ่มเติม (ถ้ามี)
  5. เอกสารประกอบการสมัครบริการหักบัญชีเงินฝาก
    • หนังสือขอให้ธนาคารหักบัญชีเงินฝาก (ATS)
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากเพื่อสมัครบริการ ATS จำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เฉพาะด้านหน้า) จำนวน 1 ฉบับ

หมายเหตุ :
*การเปิดบัญชีสำหรับตราสารอนุพันธ์สามารถดำเนินการได้เฉพาะผู้ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น
*กรณีท่านเปิดบัญชีหลายประเภท ท่านสามารถยื่นเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเพียง 1 ชุด

บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เหมาะสมกับท่านที่ต้องการเพิ่มอำนาจการซื้อหลักทรัพย์โดยการกู้เงินเพื่อใช้ในการซื้อหลักทรัพย์สูงสุด 1 เท่าของมูลค่าหลักประกันที่นำมาวาง แต่ไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทฯ ทั้งนี้ ทุกสิ้นวันทำการ พอร์ตการลงทุนของท่านจะได้รับการปรับมูลค่า (Mark-to-Market) เพื่อให้สะท้อนมูลค่าพอร์ตการลงทุนที่แท้จริง และกรณีที่เงินประกันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ท่านต้องทำการโอนเงินหลักประกันเพิ่มเติมมายังบริษัทฯ เพื่อรักษาระดับเงินประกันอีกด้วย


เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี ผ่านสาขาหลักทรัพย์กสิกรไทย

(กรุณาเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง "สำหรับเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ บล.กสิกรไทยฯ" ทุกฉบับ)


  1. *เอกสารคำขอเปิดบัญชี (ประกอบด้วย ข้อมูลลูกค้า แบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และแบบแจ้งสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน/ไม่เป็นบุคคลอเมริกัน)
  2. *สัญญาแต่งตั้งนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
  3. *สัญญากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์และข้อชี้แจงสำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
  4. *W-9 หรือ W-8BEN
  5. *หลักฐานประกอบการเปิดบัญชี
    • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (เพื่อใช้แสดงตนที่สาขาของบริษัทฯ)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ด้านหน้าและด้านหลัง) จำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล จำนวน 1 ฉบับ (กรณีที่ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎในเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน)
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการรับเงินปันผล และรับเงินที่ถอนจากบัญชี จำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาหลักฐานทางการเงิน ยอดรวมกันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท (อาทิเช่น สำเนาบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีฝากประจำย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด หรือใบแสดงยอดหลักทรัพย์/กองทุนในบัญชีเดือนล่าสุด หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหลัก ฐานทางการเงินอื่นๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดอายุ เช่น ตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน เป็นต้น)
    • บริษัทอาจพิจารณาขอเอกสารหลักฐานประกอบการเปิดบัญชีเพิ่มเติม (ถ้ามี)
  6. ชำระค่าอากรแสตมป์สำหรับวงเงินบัญชีมาร์จิ้น 500 ต่อวงเงิน 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10,000 บาท (หลังจากบัญชีได้รับการอนุมัติวงเงินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งยอดรวมค่าอากรแสตมป์ ที่ลูกค้าจะต้องโอนเข้ามาชำระกับทางบริษัทฯ)

หมายเหตุ : *กรณีท่านเปิดบัญชีหลายประเภท ท่านสามารถยื่นเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเพียง 1 ชุด

การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าท่านจะต้องโอนเงินหลักประกันตามเกณฑ์ที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฯกำหนดไว้ มายังบริษัทฯ โดยในทุกสิ้นวันทำการ พอร์ตการลงทุนของท่านจะได้รับการปรับมูลค่า (Mark-to-Market) เพื่อให้สะท้อนมูลค่าพอร์ตการลงทุนที่แท้จริง และกรณีที่เงินประกันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ท่านต้องทำการโอนเงินหลักประกันเพิ่มเติมมายังบริษัทฯ เพื่อรักษาระดับเงินประกันอีกด้วย


เอกสารที่ใช้ประกอบการขอเปิดบัญชี ผ่านสาขาหลักทรัพย์กสิกรไทย

(กรุณาเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง "สำหรับเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ บล.กสิกรไทยฯ" ทุกฉบับ)

  1. *เอกสารคำขอเปิดบัญชี (ประกอบด้วย ข้อมูลลูกค้า แบบประเมินความเหมาะสมในการลงทุน การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และแบบแจ้งสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน/ไม่เป็นบุคคลอเมริกัน)
  2. *สัญญาแต่งตั้งตัวแทนเพื่อซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และเอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฟิวเจอร์สสัญญาซื้อขายล่วงหน้าออปชั่นในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Risk Disclosure Statement for Futures and Options Trading in Derivatives Exchange)
  3. *W-9 หรือ W-8BEN
  4. *หลักฐานประกอบการเปิดบัญชี 
    • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (เพื่อใช้แสดงตนที่สาขาของบริษัทฯ)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(ด้านหน้าและด้านหลัง) ที่ยังไม่หมดอายุจำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาเอกสารการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล จำนวน 1 ฉบับ (กรณีที่ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎในเอกสารหลักฐานไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน)
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการรับเงินปันผล และรับเงินที่ถอนจากบัญชี จำนวน 1 ฉบับ
    • สำเนาหลักฐานทางการเงิน ยอดรวมกันไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท (อาทิเช่น สำเนาบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีฝากประจำย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด หรือใบแสดงยอดหลักทรัพย์/กองทุนในบัญชีเดือนล่าสุด หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหลักฐานทางการเงินอื่นๆ ที่ยังไม่ครบกำหนดอายุ เช่น ตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน เป็นต้น)
    • บริษัทอาจพิจารณาขอเอกสารหลักฐานประกอบการเปิดบัญชีเพิ่มเติม (ถ้ามี)

หมายเหตุ : *กรณีท่านเปิดบัญชีหลายประเภท ท่านสามารถยื่นเอกสารประกอบการเปิดบัญชีเพียง 1 ชุด

ค้นหา