สามารถจัดตั้งโดยบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล
มีความยืดหยุ่นมากกว่ากองทุนรวม ลูกค้ามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายการลงทุนและข้อจำกัดการลงทุน
บริหารเงินลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ มีการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน มี Investment Committee ในการอนุมัติ Investment Universe
5 ล้านบาท
เน้นการบริหารเชิงรุก (Active) จับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ผลตอบแทนมากกว่า SET TRI Index
เน้นการบริหารเชิงรุก (Active) ลงทุนในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนเชิงบวก ในทุกสภาวะตลาด
เน้นการบริหารเชิงรุก (Active) ลงทุนในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนเชิงบวก ในทุกสภาวะตลาด
แผนการลงทุน | KS Quality Return | KS High Conviction | KS Quality Dividend |
ทรัพย์สินที่ลงทุน | หุ้นไทย | หุ้นไทย | หุ้นไทย และ REITs & Infra Fund |
สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ | ลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV | ลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 30% ของ NAV | ลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV |
จำนวนหุ้นที่ลงทุน | 20-30 หุ้น | 10-15 หุ้น | 15-20 หุ้น |
จุดประสงค์ในการลงทุน | เพื่อให้ผลตอบแทนในการลงทุนที่ดีกว่าดัชนีอ้างอิงในระยะยาว | เน้นลงทุนในระยะยาวเพื่อสร้างผลตอบแทนเชิงบวก ในทุกสภาวะตลาด | มีโอกาสได้รับกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ โดยคาดหวัง Dividend yield ที่ 4% ขึ้นไป |
กระบวนการลงทุน | ใช้กระบวนการคัดเลือกหุ้นแบบ Top down & Bottom up โดยวิเคราะห์จากแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจ | ใช้กระบวนการคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom up โดยอ้างอิงจากพื้นฐานของบริษัทด้วยข้อมูลเชิงลึก | เลือกบริษัทที่มีแนวโน้มหรือศักยภาพในการจ่ายปันผลในอนาคตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีกระแสเงินสดที่มั่นคง |
ระดับความเสี่ยงของกองทุน | 6 | 6 | 6 |
ความเสี่ยงตามนโยบายการลงทุน | กองทุนกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงจากหุ้นเด่นบางตัวอาจถูกลดทอนลงไป | KSHC มีการลงทุนหุ้นรายตัวแบบกระจุกตัว ทำให้ผลตอบแทนมีความผันผวนมากกว่าดัชนี | KSQD มีการลงทุนรายธุรกิจแบบกระจุกตัว อาจจะเพิ่มความเสี่ยงรายธุรกิจมากกว่าการลงทุนแบบกระจายตัว |
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย | ผู้ลงทุนรายย่อยทั่วไป ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยแบบกระจายในหลายๆกลุ่มธุรกิจ เพื่อกระจายความเสี่ยง และมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ระดับ 4 ขึ้นไป | ผู้ลงทุนรายย่อยทั่วไป ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยแบบกระจุกตัว เพื่อผลตอบแทนที่โดเด่นในระยะยาว โดยสามารถทนรับความผันผวนในระยะสั้นได้ และมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ระดับ 4 ขึ้นไป | ผู้ลงทุนรายย่อยทั่วไป ผู้ที่ต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน ต้องการกระแสรายได้สม่ำเสมอจากการลงทุน และมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ระดับ 4 ขึ้นไป |
ผู้จัดการกองทุน | นายสุนทร ทองทิพย์(ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) นางสาวปรียากร สุทธศิริ, CFA(ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) |
นางสาวปรียากร สุทธศิริ, CFA(ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) นายอนพัทย์ วนัสชัยพฤกษ์(ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) |
นายอนพัทย์ วนัสชัยพฤกษ์ (ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) นางสาวปรียากร สุทธศิริ, CFA (ตั้งแต่ 27 มิถุนายน 2568) |
ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาตราสาร (Market Risk)
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาตราสารในตลาดนั้นๆ
โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง - ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง และสถานการณ์ของตลาดเงินตลาดทุน
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น - การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาตราสารที่กองทุนลงทุนปรับลดลง และทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนลดลงด้วย
แนวทางการบริหารความเสี่ยง - บริษัทมีการกระจายสัดส่วนตราสารต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมระดับความเสี่ยงโดยรวมของกองทุนให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมตามนโยบาย และมีดุลยภาพกับด้านผลตอบแทนตามที่คาดหวัง รวมทั้งบริษัทมีการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และภาวะตลาดเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนของกองทุนอย่างสม่ำเสมอ
ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk)
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำกำไรของผู้ออกตราสาร
โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง - ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทธุรกิจ โครงสร้างรายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการ ปัจจัยที่กระทบเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม หรือการดำเนินงานภายในของผู้ออกตราสารเอง
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น - การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาตราสารที่กองทุนลงทุนปรับลดลง และทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนลดลงด้วย
แนวทางการบริหารความเสี่ยง - กองทุนจะคัดเลือกตราสาร และวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์การลงทุนที่อาจส่งผลกระทบต่อผลต่อการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทผู้ออกตราสาร
ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร (Liquidity Risk)
เกิดจากหลักทรัพย์ที่ลงทุนไม่มีสภาพคล่อง ไม่สามารถขายหลักทรัพย์ได้ในราคาและระยะเวลาที่ต้องการ
โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง – ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน ภาวะตลาดที่ซื้อขายหลักทรัพย์ หรือเกิดเหตุการณ์ใดที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ที่ซื้อขายหลักทรัพย์อาจหยุดรับคำสั่งซื้อขาย
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น – อาจทำให้กองทุนไม่สามารถจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ลงทุนได้ในราคาที่เหมาะสม และภายในระยะเวลาที่ต้องการ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กาหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน
แนวทางการบริหารความเสี่ยง - บริษัทจัดการจะพิจารณาเลือกลงทุนในบริษัทที่ได้วิเคราะห์แล้วว่ามีปัจจัยพื้นฐานดี รวมทั้งทำการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนโดยไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ใด หรืออุตสาหกรรมใด ในสัดส่วนที่สูงเกินไปจะช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของตราสารที่กองทุนลงทุน
ปัจจัยความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร (credit risk)
เกิดจากหลักทรัพย์ที่ลงทุนไม่สามารถชำระคืนหนี้ (เงินต้น หรือดอกเบี้ย) ได้ ทำให้ผู้ถือตราสารขาดทุน ทั้งนี้นโยบายการลงทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในตราสารทุนซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงหากเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ทั้งกรณี Default หรือ Cross default
โอกาสเกิดความเสี่ยง – ปัจจัยการผิดนัดชำระหนี้ประกอบด้วยปัจจัยภายนอก ได้แก่ วิกฤตเศรษฐกิจ นโยบายรัฐ โรคระบาด ภัยธรรมชาติ การถูก disrupt จากเทคโนโลยี หรือค่านิยมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง เป็นต้น และปัจจัยภายใน ได้แก่ บริษัทมีการก่อหนี้เกินตัว, การบริหารธุรกิจผิดพลาด, การตบแต่งบัญชี, หรือแพ้คดีความ เป็นต้น
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น - เหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ทั้งกรณี Default หรือ Cross default จะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลให้ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลง หรืออาจเกิดเหตุการณ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อให้บริษัทแก้ไขเหตุแห่งการผิดนัดชำระหนี้
แนวทางการบริหารความเสี่ยง – กำหนดอัตราส่วนทางการเงินด้าน credit ในกระบวนการคัดเลือกหลักทรัพย์เข้า Universe และกระบวนการตัดสินใจลงทุน พร้อมติดตามผลประกอบการรายไตรมาสอย่างใกล้ชิด
Tel : 02-7960566
วันจันทร์–ศุกร์ เวลา 8.30 น. - 17.00 น.
ยกเว้นวันหยุดตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
คำค้นหาแนะนำ