เปิดบัญชีออนไลน์
ทำด้วยตนเองได้ 2 ช่องทางผ่าน แอปพลิเคชัน Streaming Fund+ หรือผู้แนะนำการลงทุน
ติดตามรายงานความเคลื่อนไหวผลกำไร รายการเทรด สะดวก รวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน
เช็คข้อมูลมูลค่าหน่วยลงทุน, ค่า NAV, ระดับความเสี่ยง หรือข้อมูลอื่นๆ
(One Stop Service) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติ่ม
10-14 November 2025
KS ASSET ALLOCATION
โอกาสเติมของ ตลาดปรับฐานจาก Macro Concern, Reality Check ผลประกอบการหุ้นจีน
ตลาดหุ้นโลก (ACWI) เปิดเดือน พ.ย. ด้วยการปรับฐานจากความไม่แน่นอนของทิศทาง Fed ที่ยังคง Hawkish และความกังวลต่อ Government Shutdown สัปดาห์ที่ 6 ซึ่งลดสภาพคล่องและเลื่อนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาศาลฎีกาตัดสินอำนาจภาษีของทรัมป์ และการเตือนถึงโอกาสตลาดปรับฐาน 10-20% ใน 1-2 ปีข้างหน้าจากผู้บริหาร Goldman Sachs และ Morgan Stanley
📉 แรงขายในกลุ่ม Growth แต่ยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ดัชนีสหรัฐฯ ปรับลงแรง โดยเฉพาะ Nasdaq (-3.04%) จากแรงขายหุ้นเทคฯ และกลุ่ม Growth หลัง Palantir รายงาน Guidance การเติบโตที่ชะลอลง อย่างไรก็ตาม Microsoft (ดีล Cloud-Nvidia), Amazon (OpenAI ใช้ AWS), Google (Apple ใช้ AI, ลงทุน Data center) และ AMD ยังมีพัฒนาการเชิงบวกเฉพาะตัวที่หนุนตลาด
🌏 ตลาดโลกและจีน
ตลาดเอเชีย (ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน) ปรับลงตามแรงขายหุ้นเทคฯ ทั่วโลก
ตลาดหุ้นจีน (+0.82% ถึง +1.08%) ปรับขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่มธนาคารและเซมิคอนดักเตอร์ หลังทางการจีนสั่งห้ามศูนย์ข้อมูลที่ได้รับทุนจากรัฐใช้ชิป AI ต่างประเทศ สนับสนุนผู้ผลิตชิปในประเทศ
🗓️ ติดตามผลประกอบการจีนและมุมมองการลงทุน
สัปดาห์นี้ ปัจจัยมหภาคสหรัฐฯ ยังเบาบาง (Shutdown) ตลาดจะให้น้ำหนักกับความคืบหน้าการเปิดรัฐบาลและถ้อยแถลง Hawkish ของ Fed ส่วนจีนให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจและการรายงานผลประกอบการของ Tencent, Alibaba และ Meituan ซึ่งเป็น “Reality Check” ระหว่างคุณภาพกำไรและ Valuation
กลยุทธ์: เรายังคงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นโลกในระยะยาว หลังกำไร 3Q25 ของสหรัฐฯ โตและกระจายตัวดีขึ้น แนะใช้จังหวะตลาดปรับฐานนี้เข้าสะสม K-GSELECTU-A(A) (Core), หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ (KKP TECH-UH), ญี่ปุ่น (K-JP-A(D)) และ อินเดีย (MNDIA) คาด Outperform ในปีหน้า
รายการลดหย่อนภาษีปี 2568
ปี 2568 นี้ ใครอยาก “ลดหย่อนภาษี” ห้ามพลาด! เพราะนอกจากจะได้ออมเงินเพื่ออนาคตแล้วยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 1,400,000 บาท
1. RMF
2. Thai ESG
3. Thai ESGX (เงินลงทุนใหม่)
4. Thai ESGX (สับเปลี่ยนจาก LTF เดิม)
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง หรือผู้ที่ต้องการพักเงินในช่วงที่ผลตอบแทนไม่ดี
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี เหมือนกลุ่มแรก แต่อาจมีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงทำให้มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมา แต่โดยปกติกองทุนประเภทนี้มักจะมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้
1.ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วย คิดจากมูลค่าซื้อขาย และเก็บเมื่อเกิดรายการซื้อขาย ซึ่งประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน เป็นต้น
2.ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม ซึ่งประกอบด้วย
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management fee) เป็นค่าธรรมเนียมบริหารจัดการที่เรียกเก็บจากมูลค่าของหน่วยลงทุน
- ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee fee) ค่าใช้จ่ายแก่ผู้ดูแลผลประโยชน์ที่มีการจัดตั้งสำหรับทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วย เช่น ดูแลให้ บลจ. บริหารจัดการตามโครงการที่ได้รับอนุมัติ เก็บรักษาทรัพย์สินของกองทุนรวมแยกไว้จากทรัพย์สินอื่น เป็นต้น ซึ่งผู้ปฏิบัติหน้าที่นี้จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด
- ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วย (Registrar fee) หรือค่าใช้จ่ายระบบงานทะเบียนผู้ถือหน่วย
- ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากข้างต้น
คำค้นหาแนะนำ