ภาษาไทย
English
💰KS: REIT and IFF 3Q โตได้ต่อจากแรงหนุนดอกเบี้ยลด และ Yield กลุ่มยังน่าสนใจ
📌 สรุปกำไรไตรมาส 3QCY68
กองทรัสต์กลุ่ม REIT และ IFF จำนวน 17 กองที่เราวิเคราะห์อยู่ (ไม่รวม TFFIF) รายงาน core EPU รวมไตรมาส 3/2568 ที่ 0.236 บาท/หน่วย (unit-weighted) เพิ่มขึ้น 6.8% YoY และ 5.9% QoQ ปัจจัยขับเคลื่อนหลักโดยรวมของทั้งกลุ่มคือต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามการลดลงของอัตราดอกเบี้ย โดย Industrial REIT ทำผลงานโดดเด่นในไตรมาสนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราการเช่าพื้นที่ในโรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้น (+4.5% YoY และ +0.9% QoQ) ควบคู่ไปกับผลประโยชน์จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง
ขณะเดียวกัน REIT ที่ลงทุนในโครงการอสังหาฯ แบบมีรายได้คงที่ ได้แก่ BAREIT INETREIT และ DIF ทำผลงานได้แข็งแกร่งเช่นกันจากรายได้ตามสัญญา MLA กับทาง Sponsor ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง ในทางตรงกันข้าม Power Plant IFF และ Retail REIT ทำผลงานได้ไม่ค่อยดี โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอลง กิจกรรมการท่องเที่ยวและกิจกรรมอีเวนต์ที่ซบเซาตามฤดูกาล และปัจจัยเฉพาะของกองทุน เช่น การบำรุงรักษาประจำปีตามกำหนดของ EGATIF อย่างไรก็ตาม กองทรัสต์กลุ่ม Retail REIT ส่วนใหญ่ที่เราวิเคราะห์อยู่ยังคงรักษาเสถียรภาพการดำเนินงาน โดยอัตราการเช่าพื้นที่ทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่อัตราค่าเช่า (ARR) ของทั้งกลุ่ม Industrial และ Retail โดยรวมทรงตัว QoQ
📌 ในด้านของเงินปันผล
เงินปันผลต่อหน่วย (DPU) ไตรมาส 3QCY68 อยู่ที่ 0.19 บาท/หน่วย (-4.9% YoY และ -2.1% QoQ) หากไม่รวมกองทุนที่มีรูปแบบการจ่ายเงินปันผลตามฤดูกาล Industrial REIT และ REIT ที่มีรายได้คงที่อย่าง INETREIT BAREIT และ DIF ยังคงให้ผลตอบแทนคงที่ สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่านั้น ผลตอบแทนที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนจากมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ลงทุน โดยเฉพาะ 3BBIF และ SUPEREIF ทั้งนี้ ตัวเลข DPU ของ LHSC LHHOTEL และ TFFIF สะท้อนถึงประมาณการของเรา เนื่องจากกองทุนเหล่านี้คาดว่าจะประกาศการจ่ายเงินปันผลอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
📌 มองไปข้างหน้าในไตรมาส 4/2568
เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธุรกิจจะปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยได้รับแรงหนุนหลักจาก Retail REIT และ Hotel REIT เนื่องจากไตรมาสนี้ตรงกับช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย ซึ่งน่าจะช่วยหนุนรายได้จากการขายฝาก โดย CPNREIT และ LHSC น่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากรายได้ที่เชื่อมโยงกับยอดขายที่สูงขึ้น สำหรับ CPNREIT เราคาดว่า OCR จะได้แตะจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2568 และคาดว่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากพื้นที่ปรับปรุงบางส่วนเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้ง และเราคาดว่าอัตราเช่าพื้นที่จะฟื้นตัว นอกจากนี้ LHSC ยังคาดว่าจะได้รับแรงหนุนตามฤดูกาลจากสินทรัพย์หลักที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีจำนวนผู้ใช้บริการหนาแน่น เช่น เมืองพัทยาและย่านอโศก สำหรับ Industrial REIT เราคาดว่า OCR ซึ่งเริ่มทรงตัว QoQ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง QoQ ในไตรมาส 4/2568 จากฐานที่ค่อนข้างสูงและการสิ้นสุดสัญญาเช่าที่กำลังจะมาถึงในไตรมาสนี้ ในกลุ่มธุรกิจนี้ เราชอบ FTREIT มากกว่า เนื่องจากมีสัดส่วนสัญญาเช่าที่จะครบกำหนดในไตรมาส 4QCY68 ต่ำที่สุด
มุมมอง KS
✍️ มุมมองบวก
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม REIT & IFF แม้ว่าภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง YoY จะกดดันแนวโน้มการเติบโตของหลายอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ REIT ยังคงโดดเด่นจากมุมมองด้านรายได้ โดยกลุ่มมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 6.8% เทียบกับพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีที่ 1.72% ปัจจุบันส่วนต่างผลตอบแทน (yield spread) ของกลุ่มซื้อขายอยู่ที่ระดับประมาณ +1 SD เหนือค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี และเราคาดว่า REIT จะยังคงได้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และจะเป็น Upside หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีการปรับลดลงต่อในอนาคต
✍️หุ้นเด่น
เรายังคงเลือก FTREIT AXTRART BAREIT และ LHSC เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธุรกิจนี้ หนุนโดยงบดุลที่แข็งแกร่ง แนวโน้ม DPU ที่มั่นคง และอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ยังน่าสนใจ
📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #หุ้น #หุ้นไทย #ข่าวหุ้น #ลงทุน #REIT #IFF #BAREIT #TFFIF #CPNREIT #3BBIF #WAHIR #LHSC #LHHOTEL #WHART #DIF #SETPREIT
