KS: KS FUND TOP PICK 22 - 26 ธ.ค. 2025
📌 จาก Tech Selloff สู่ Tech Rotation หลัง Micron โชว์งบแข็งแกร่ง Core CPI ต่ำสุดในรอบ 4 ปี หนุนมุมมองเฟดลดดอกเบี้ยเพิ่มในปี 2026
💡 𝐎𝐍𝐄-𝐅𝐅𝐈 (Satellite port 3–6 เดือน) แนะนำ Stop loss หลังค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 31.50 บาท/ดอลลาร์
📊 สัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นโลก (ACWI) ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยมีแรงกดดันต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ก่อนหน้าจากผลประกอบการของ Oracle ที่ยังไม่สามารถทำให้ตลาดมั่นใจได้ว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI จะเริ่มแปลงเป็นรายได้และกำไรอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้ ประกอบกับประเด็นการถอนตัวของ Blue Owl Capital ใน Data center บางโครงการของ Oracle ที่ยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องต้นทุนทางการเงินและความเสี่ยงด้านโครงสร้างดีล และ Broadcom ที่แม้ผลประกอบการจะแข็งแกร่งมาก แต่ผู้บริหารให้ภาพการเติบโตที่ไม่ชัดเจนในสายตาของนักวิเคราะห
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโลกเริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ จากปัจจัยบวกหลายประการ โดยมีจุดเริ่มต้นจาก Micron ที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาดอย่างมาก ทั้งรายได้ อัตรากำไร และแนวโน้มกำไรในไตรมาสถัดไปที่มากกว่าตลาดคาดราว 79% ซึ่งช่วยยืนยันความต้องการในหน่วยความจำของ AI และ Data center ที่แข็งแกร่ง ประกอบกับปัจจัยบวกที่เข้ามาของ Oracle จากการที่ ByteDance ตกลงขาย TikTok U.S. ให้ Oracle, Silver Lake (Private Equity) และ MGX (กลุ่มทุนของ UAE) ที่คาดว่าจะปิดดีลวันที่ 22 ม.ค. 2026 หนุนความต้องการในการใช้งาน Oracle Cloud Infrastructure (OCI) และความผ่อนคลายเรื่องเงินลงทุนของกลุ่ม AI Cloud จากการที่ OpenAI อยู่ระหว่างเจรจาระดมทุนเพิ่ม $100 bn ดันมูลค่าบริษัทแตะ $750 bn นอกจากนี้ยังมีปัจจัยมหภาคที่เป็นอีกแรงหนุนสำคัญ จากการที่สหรัฐฯ รายงานอัตราเงินเฟ้อ Core CPI 2.6% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3% และทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ เม.ย. 2021 รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงาน ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm) และอัตราการว่างงานที่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ตลาดกลับมาเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2026
📊 ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสัปดาห์ผสมผสาน โดย Dow Jones -0.67% และ Russell 2000 -0.86% ขณะที่ S&P 500 +0.10% และ Nasdaq Composite +0.48% สะท้อนภาพของการ Rotation กลับมายังกลุ่มเทคฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ จากที่เผชิญแรงขายต่อเนื่องตั้งแต่ Oracle รายงานผลประกอบการในสัปดาห์ก่อนหน้า ด้านตลาดหุ้นเอเชียเหนืออย่างญี่ปุ่น (Nikkei -2.64% และ Topix -1.17%), ไต้หวัน (TWSE -1.78%) และเกาหลีใต้ (Kospi -3.52%) ปรับตัวลงจากแรงขายในกลุ่มเทคฯ แต่มีแรงรีบาวด์ในช่วงปลายสัปดาห์และลดช่วงลบลงได้เช่นกัน ด้านตลาดหุ้นจีน (CSI 300 -0.28% และ HSCEI -1.96%) ปรับตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ ราคาบ้าน การบริโภค การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ต่างออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ตลาดหุ้นอินเดีย (Nifty 50 -0.31%) ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ จากความกังวลค่าเงินรูปีอ่อนค่า และรอความชัดเจนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรป (Stoxx 600 +1.60%) ปรับตัวขึ้นทำ all-time high นำโดยกลุ่ม Financials หลัง ECB คงอัตราดอกเบี้ย Deposit Rate ไว้ที่ 2.15% แต่ปรับคาดการณ์ GDP ปี 2025 จาก 1.2% เป็น 1.4%
📊 เนื่องจากในสัปดาห์นี้มีวันหยุดทำการของตลาดต่างประเทศเนื่องในวัน Christmas และ Boxing Day เราจึงประเมินว่าตลาดอาจจะไม่ได้คึกคักมากนัก แต่ยังมองเป็นลักษณะของการทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ จากการที่มีปัจจัยเชิงบวกเข้ามาโดยเฉพาะจากผลประกอบการที่ดีของ Micron ที่มาช่วยสร้างความมั่นใจให้หุ้นกลุ่ม AI และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่างเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง หนุนความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2026 มากกว่า 25 bps ตาม Dot Plot ล่าสุด สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ เราแนะนำให้ติดตามการรายงานตัวเลข GDP 3Q25 ของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดว่าจะเติบโตในอัตรา 3.2% QoQ ชะลอตัวลงจาก 2Q25 ที่โต 3.8% และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค CB Consumer Confidence ปัจจัยสำคัญอื่นๆ จะอยู่ที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน (National People’s Congress: NPC) ที่อาจมีนัยต่อทิศทางนโยบายในปีถัดไป, รายงานการประชุม BOJ และอัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียว
📊 เราคงคำแนะนำทยอยลงทุนหุ้นโลก (KKP GNP) เป็น Core Equity Portfolio ในยามที่ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง และตราสารหนี้โลก (K-GDBOND-UH) เป็น Core Fixed Income Portfolio เมื่อ 10Y UST ปรับตัวเข้าใกล้ 4.20% สำหรับ Satellite Portfolio 12 เดือน แนะนำลงทุนหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ (KKP TECH-UH) จากผลประกอบการของ Micron ที่ดีกว่าคาดอย่างมาก สะท้อนภาพของ Memory super cycle รอบใหญ่ ขณะที่ Oracle มีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยหนุนจากดีลของ TikTok และการระดมทุนเพิ่ม $100 bn ของ OpenAI, หุ้นญี่ปุ่น (ASP-NGF) ที่ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากดีมานด์ในประเทศที่มีความพร้อม โดยเฉพาะวงจรการขึ้นค่าจ้างและราคาสินค้าที่มีความต่อเนื่อง พร้อมส่งสัญญาณยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดตีความเป็น “Dovish Hike”, หุ้นอินเดีย (MINDIA) จากราคาที่อ่อนตัวลงมา แต่เรามองว่าหากมีความชัดเจนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะช่วยหนุนให้หุ้นอินเดียกลับมา Outperform และหุ้นเกาหลีใต้ (SCBKEQTG) ที่เรามองว่าผลประกอบการของ Memory player อย่าง Samsung Electronics และ SK Hynix น่าจะออกมาแข็งแกร่งไม่ต่างจาก Micron สำหรับกองทุน ONE-FFI ที่เราวางไว้เป็น Satellite Portfolio ระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อเก็งกำไรจากค่าบาท โดยปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์ ประกอบกับทิศทางผลการประชุมของกนง. ที่แม้จะมีการลดดอกเบี้ย 25 bps ตามที่ตลาดคาดไว้ พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะแทรกแซงการแข็งค่าของเงินบาท แต่ด้วยเครื่องมือทางนโยบายที่จำกัด ทำให้โอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในระยะสั้นน่าจะเกิดขึ้นได้ยาก จึงแนะนำขายตัดขาดทุน ONE-FFI ซึ่งได้เคยมีการแนะนำไปในช่วงเดือน มิ.ย. 2025
💡 𝐈𝐦𝐩𝐥𝐢𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧
1️⃣ 𝐁𝐮𝐲 𝐥𝐢𝐬𝐭𝐬
𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐩𝐨𝐫𝐭 (สำหรับช่วง 6-12 เดือน)
✅ 𝐊𝐊𝐏 𝐓𝐄𝐂𝐇-𝐔𝐇: กองทุนหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ลงทุนผ่าน iShares Expanded Tech (IGM) โดยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น +0.06% หลังเผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลงบของ Oracle และ Broadcom ที่ต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ได้แรงหนุนจากงบ Micron ดีกว่าคาด, การบรรลุดีลขาย TikTok U.S. ของ ByteDance หนุนความต้องการใช้งาน Cloud ของ Oracle ที่เป็นผู้คอยเก็บข้อมูลของ User และการที่ OpenAI เตรียมระดมทุนเพิ่มอีก $100 bn ทำให้รีบาวด์กลับมาปิด flat
✅ คงคำแนะนำซื้อ IGM (ETF) สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า และแนะนำให้ติดตามตัวเลข U.S. GDP 3Q25
✅ 𝐀𝐒𝐏-𝐍𝐆𝐅: กองทุนหุ้นญี่ปุ่น ลงทุนผ่าน Eric Sturdza Nippon Growth โดยสัปดาห์ที่แล้วดัชนี Topix -1.17% จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ แต่ก็ได้การฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคฯ และการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของ BOJ เป็นอีกแรงหนุนให้ Topix ลดช่วงลบลงในปลายสัปดาห์
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Topix มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า และให้ติดตามรายงานการประชุม BOJ และอัตราเงินเฟ้อกรุงโตเกียว
✅ 𝐌𝐈𝐍𝐃𝐈𝐀: กองทุนหุ้นอินเดีย ลงทุนผ่าน Jupiter India Select Fund โดยสัปดาห์ที่แล้วดัชนี Nifty 50 -0.31% ทรงตัวใกล้ระดับ all-time high จากแรงกดดันแรงขายของต่างชาติ หลังค่าเงินรูปียังอยู่ในระดับที่อ่อนค่ามาก แม้ RBI จะเริ่มเข้าแทรกแซง
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Nifty 50 มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือนข้างหน้า
✅ 𝐒𝐂𝐁𝐊𝐄𝐐𝐓𝐆: กองทุนหุ้นเกาหลีใต้ ลงทุนผ่าน iShares MSCI South Korea (EWY) โดยสัปดาห์ที่แล้ว Kospi -3.52% จากแรงขายกลุ่มแบตเตอรี่ ภายหลัง Ford ประกาศหยุดโครงการ EV หลายรุ่น สร้างความกังวลความต้องการใช้แบตเตอรี่
✅ คงคำแนะนำซื้อเมื่อ Kospi มีการย่อตัวลง สำหรับกรอบการลงทุน 12 เดือน
2️⃣ 𝐇𝐨𝐥𝐝𝐢𝐧𝐠 𝐥𝐢𝐬𝐭𝐬
𝐒𝐚𝐭𝐞𝐥𝐥𝐢𝐭𝐞 𝐩𝐨𝐫𝐭 (สำหรับช่วง 6-12 เดือน)
✅ 𝐓𝐔𝐒𝐅𝐈𝐍-𝐀: กองทุนหุ้นกลุ่มการเงินในสหรัฐฯ ลงทุนผ่าน XLF (ETF) โดยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลง -0.20% ซึ่งเป็นการพักตัวจากการที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในสัปดาห์ก่อนหน้า
✅ คงคำแนะนำ Let profit run และให้ติดตามตัวเลข U.S. GDP 3Q25

📲เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #KSecurities #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กลยุทธ์การจัดพอร์ต
ภาษาไทย
English