KS: Insurance Sector สรุปกลุ่มประกันภัยปี 2568

Analysis by KS Research Fundamental

Dec 23, 2025

🛡️ KS: Insurance Sector สรุปกลุ่มประกันภัยปี 2568

📌 สรุปเหตุการณ์ปี 2568

👉1) โครงการร่วมจ่ายซึ่งเริ่มในเดือนมี.ค. ส่งผลให้ยอดขายกรมธรรม์ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาส 1/2568 ก่อนการบังคับใช้โครงการ โดยหลังจากนั้นอุปสงค์ชะลอลง แต่ยังคงหนุนการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568

👉2) การทยอยนำมาตรฐานบัญชี TFRS 17 มาใช้ช่วยสะท้อนกำไรที่แท้จริงของธุรกิจประกันภัย จากการรับรู้กำไรอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านกรอบ CSM

👉3) การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สะท้อนท่าทีทางการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ท่ามกลางการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ผลตอบแทนจากการลงทุนของ TLI และ BLA จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างจำกัด จากการบริหาร duration และการทำ hedging อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ราคาหุ้นยังคงมีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว

📌 ผลการดำเนินงานทางการเงิน

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทประกันชีวิตอย่าง TLI และ BLA รายงานการเติบโตของกำไรปกติในระดับแข็งแกร่งหนุนจากกำไรจากการรับประกันที่สูงขึ้นและกำไรจากการลงทุนในระดับสูง ขณะที่การนำมาตรฐานบัญชี TFRS 17 และ TFRS 9 มาใช้ช่วยหนุนกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมจากการรับรู้กำไรที่ดีขึ้น TLI ยังคงขยายยอดคงเหลือ CSM อย่างต่อเนื่อง แต่อัตรากำไร CSM อ่อนตัวลง จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่ BLA เผชิญกับโมเมนตัมของ CSM ที่อ่อนแอลง เนื่องจากการเติบโตที่ขับเคลื่อนผ่านช่องทางธนาคารส่งผลให้อัตรากำไรลดลง ด้าน TQM รายงานกำไรที่อ่อนแอลง จากแรงกดดันด้านการแข่งขันและการที่ลูกค้าปรับลดความคุ้มครองประกันรถยนต์ ในขณะที่การเริ่มใช้งานระบบขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในเดือน พ.ย. จะเปิดโอกาสให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในอนาคต

📌 แนวโน้มปี 2569

เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทประกันชีวิตจะลดลง จากกำไร FVTPL ที่ปรับตัวลง แต่คาด TLI จะยังรายงานการเติบโตของกำไรปกติจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของช่องทางตัวแทน และฐาน CSM ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คาดกำไรปกติของ BLA ยังถูกกดดัน จนกว่าการขยายช่องทางตัวแทนจะเริ่มเข้ามาช่วยสนับสนุนอัตรากำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย การแข่งขันที่รุนแรงและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวจะยังคงกดดันผลการดำเนินงานของ TQM ในปี 2568 โดยคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงปี 2569-70

📌 ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

ราคาหุ้นของกลุ่มประกันชีวิตปรับตัวลดลงในปี 2568 โดย TLI ลดลง 15% YTD และ BLA ลดลง 11% หลังปัจจัยบวกในช่วงต้นปีเริ่มหายไป และอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มทรงตัวในเดือนก.ค. ราคาหุ้น TQM ลดลง 54% YTD จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นและอุปสงค์ประกันรถยนต์ที่อ่อนแอลง ซึ่งกดดันขนาดเบี้ยประกันและกำไร อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าการเทขายหุ้นรุนแรงเกินไป เนื่องจากปัจจุบัน TQM ซื้อขายที่ระดับมูลค่าที่น่าสนใจ พร้อม ROE ที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในระดับสูงที่ 9%

มุมมอง KS

🎯 มีมุมมองเป็นกลาง ต่อกลุ่มประกันโดยรวม

👉 แนะนำ “ซื้อ” TLI และ TQM และ “ถือ” BLA สำหรับ TLI ราคาเป้าหมายของเราที่ 13.8บาท (P/EV ที่ 0.8 เท่า) สะท้อนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง สถานะ CSM ที่อยู่ในระดับสูง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องหนุนจากช่องทางตัวแทนที่มีประสิทธิภาพ แม้เราคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มประกันชีวิตโดยรวม จากการเติบโตของเบี้ยประกันที่อยู่ในระดับต่ำและการขาดปัจจัยบวกระยะสั้น

👉 สำหรับ BLA เราคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 17.4 บาท ( P/EV ที่ 0.5 เท่า) จากแนวโน้มยอดคงเหลือ CSM ที่ลดลง

👉 ด้าน TQM เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 16.4 บาท หนุนจากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูงที่ 9% สมมติฐานกำไรที่ค่อนข้างระมัดระวัง และ upside ที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาด้าน AI ของบริษัทจากเครือข่ายตัวแทนชั้นนำและความเชี่ยวชาญด้านการขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถรักษาการเติบโตของ APE และอัตรากำไร VONB ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง