🧑🚀KS: ERW จับตาการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในปี 2026 และสร้างสมดุลให้กับพอร์ตโฟลิโอด้วยการขยายธุรกิจโรงแรม Hop Inn
ERW เป็นหุ้นที่สะท้อนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในปี 2026 มากที่สุด โดยได้รับแรงหนุนจากสัดส่วนธุรกิจในประเทศที่สูง และบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) มีแนวโน้มเติบโตเชิงบวกเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นจากการจองที่แข็งแกร่ง ขณะที่ Hop Inn ยังคงเติบโตดีจากดีมานด์ที่ไม่พึ่งนักท่องเที่ยว โครงสร้างหนี้แบบดอกเบี้ยลอยตัว 100% ยังช่วยขยายประโยชน์จากรอบการลดดอกเบี้ยล่าสุดอย่างเต็มที่
📌เราเลือกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและ ERW เป็นหุ้นเด่น Top Pick สำหรับปี 2026 ภายใต้ธีม “Underdog Theme” ซึ่งเน้นหุ้นที่มีความคาดหวังต่ำ สัดส่วนการถือครองที่จำกัด และมีศักยภาพในการฟื้นตัวสูงในปี 2026 ERW โดดเด่นในฐานะกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่แท้จริงในไทย ด้วยพอร์ตการลงทุนที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงโรงแรมราคาประหยัด โดย ณ ปัจจุบัน รายได้ประมาณ 70% ของ ERW มาจากโรงแรมในประเทศ ซึ่งสูงกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง CENTEL (35%) และ MINT (5%) อย่างมาก ซึ่งมีฐานรายได้กระจายตัวในต่างประเทศมากกว่า เราคาดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวในปี 2026 จากฐานที่ต่ำในปี 2025 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 32-33 ล้านคน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เชิงลบหลายประการ เช่น ความกังวลด้านความปลอดภัยหลังจากเหตุลักพาตัวนักแสดงชาวจีน เหตุแผ่นดินไหว และความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ที่น่าสังเกตคือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในช่วงต้นเดือน พ.ย.2025 คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ เราเชื่อว่า ERW อยู่ในสถานะที่ดีที่สุดที่จะทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งในกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจะมีโมเมนตัมมากขึ้นในปี 2026
📌 เราคาดว่า RevPAR น่าจะปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค.2025 หนุนโดยยอดจองล่วงหน้าที่พุ่งแข็งแกร่ง ส่งผลให้มีการเติบโตในอัตราตัวเลขหลักเดียว QoQ ในช่วงไฮซีซั่น นอกจากนี้เดอะ นาคา ไอแลนด์, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต คาดว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน พ.ย.2025 หลังจากการปิดปรับปรุง ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากกลุ่มโรงแรมระดับหรูในช่วงฤดูท่องเที่ยว นอกจากนี้ กลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจแบรนด์ Hop Inn อย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ แผนการเปิดโรงแรม Hop Inn ใหม่ 10 แห่งในปี 2025 และในไทยและฟิลิปปินส์ จะมุ่งเน้นไปที่ความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 พอร์ตโฟลิโอของ Hop Inn มีการเติบโต 20% YoY สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจ Hop Inn ญี่ปุ่นยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้มีการเพิ่มโรงแรมใหม่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
📌 ERW น่าจะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากพอร์ตหนี้ทั้งหมดของบริษัทฯ เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว 100% เราประเมินว่าทุกๆ การลดต้นทุนการกู้ยืม 25bps กำไรสุทธิของ ERW จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3% ประการสุดท้าย เรามองว่าความเสี่ยงใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสัญญาเช่าที่ดินของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ยังสามารถจัดการได้ เราคาดว่าการต่อสัญญาเช่าจะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนหลักอยู่ที่ต้นทุนค่าเช่าที่ดินที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงขั้นสุดท้ายที่เจรจากันไว้
🎯มุมมอง KS
📌 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.28 บาท ภาคการท่องเที่ยวไทยเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องในปี 2025 แต่เราคาดว่าจะฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ และความเชื่อมั่นโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนจะปรับดีขึ้นในปี 2026

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #ERW #HopInn #โรงแรม
ภาษาไทย
English