KS : กลุ่มแบงก์ การเติบโตช้าลง แต่มีปันผลต่อเนื่อง
📌สินเชื่อเดือน ต.ค. เติบโตอ่อนแอต่อเนื่อง
✅เราเชื่อว่าสินเชื่อ เดือน ต.ค. ที่ยังคงลดลงต่อเนื่องสะท้อนถึงหนี้ครัวเรือนที่ตึงตัว และมาตรการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ สินเชื่อสุทธิของกลุ่มธนาคารรวมลดลง 1.1% MoM ในเดือน ต.ค.2568 ตามการเติบโตของสินเชื่อที่อ่อนแอทั้งกลุ่ม โดย BAY และ KTB รายงานสินเชื่อลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือน ต.ค. ที่ 2.3% และ 2.6% MoM ตามลำดับ ขณะที่ KBANK SCB TTB และ KKP รายงานสินเชื่อที่ลดลง MoM ในช่วง 0.5-1.0% มีเพียง BBL และ TISCO เท่านั้นที่รายงานสินเชื่อเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.5% และ 1.0% MoM ตามลำดับ
📌การเกิด NPL ใหม่อ่อนตัวลงในไตรมาส 3/2568
✅จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า การเกิดหนี้เสีย (NPL) ใหม่ของกลุ่มธนาคารลดลงมาอยู่ที่ 0.46% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2568 จาก 0.52% ในไตรมาส 2/2568 สาเหตุหลักมาจากการก่อ NPL ใหม่ลดลงเป็น 0.3% จาก 0.39% ในไตรมาส 2/2568 ขณะที่ NPL จากการปรับโครงสร้างหนี้ (Relapse) เพิ่มขึ้นเป็น 0.16% ในไตรมาส 3/2568 จาก 0.14% ในไตรมาส 2/2568 โดยการก่อ NPL ลดลงจากสินเชื่อรายย่อย ขณะที่สินเชื่อบางกลุ่ม เช่น ธุรกิจก่อสร้าง และอุตสาหกรรม มีการก่อ NPL เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2568 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 2.88% ในไตรมาส 3/2568 จาก 2.83% ในไตรมาส 2/2568 เนื่องจากสินเชื่อรวมลดลง 0.7% YoY
📌สินเชื่อชั้นที่ 2 ยังคงเพิ่มขึ้น
✅แม้ว่าการก่อ NPL ใหม่รวมจะลดลง แต่เราเชื่อว่าแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากสินเชื่อชั้นที่ 2 (สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ) จากสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินเชื่อชั้นที่ 2 รวมเพิ่มขึ้นเป็น 7.2% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2568 จาก 6.8% ในไตรมาส 2/2568 ตามสินเชื่อชั้นที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มสาธารณูปโภคและขนส่ง กลุ่มอสังหาฯ กลุ่มพาณิชย์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มการผลิต สำหรับสินเชื่อ SME สินเชื่อ SME ชั้นที่ 2 ไตรมาส 3/2568 ยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 15.5% จาก 15.0% ในไตรมาส 2/2568 ขณะที่ NPL ratio ของสินเชื่อ SME เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 9.3% ในไตรมาส 3/2568 จาก 9.2% ในไตรมาส 2/2568 ดังนั้นเราเชื่อว่าการก่อ NPL ใหม่ที่ลดลงในไตรมาส 3/2568 เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้ที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มจะยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 เมื่อมาตรการช่วยเหลือเริ่มเบาบางลง
📌แนวโน้ม NII อ่อนแอ ประกอบกับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีต่อเนื่อง
✅จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสินเชื่อและการก่อ NPL ใหม่ เราเชื่อว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) จะยังคงอ่อนตัวลงในไตรมาส 4/2568 จากสินเชื่อรวมและอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลง หากมองข้ามไปหลังไตรมาส 4/2568 เราคาดว่าความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะเริ่มปรากฏอีกครั้งในช่วงกลางปี 2569 เนื่องจากการสิ้นสุดโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งลูกค้าภายใต้โครงการนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของยอดผ่อนชำระเดิม การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อชั้นที่ 2 ในขณะที่ NPL ratio ยังคงสูง แสดงถึงความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิด NPL ใหม่ในอนาคต
📌เราคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มธนาคาร โดยเลือก KTB และ KKP เป็นหุ้นเด่น เราเชื่อว่าการเติบโตของกำไรของกลุ่มธุรกิจนี้จะติดลบในปี 2569 ตามรายได้ที่อ่อนแอ ขณะที่อัตราตอบแทนเงินปันผลที่สูง 6-7% ของกลุ่มธุรกิจจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น เราชอบ KTB จากพอร์ตสินเชื่อที่เน้นความปลอดภัย (defensive loan) และอาจมี upside จากเงินปันผล ขณะที่เราชอบ KKP จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ และรายได้จากการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
ภาษาไทย
English