🏘️ KS: หุ้นสร้างบ้าน Residential Sector การโอนที่ลดลงทำให้กำไร 3Q68 อ่อนตัว
📌 กำไรไตรมาส 3/2568 ลดลง YoY และ QoQ บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำ 10 รายภายใต้การวิเคราะห์ของเรารายงานกำไรสุทธิรวมไตรมาส 3/2568 ที่ 5.4 พันลบ. ลดลง 27% YoY และ 9% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดไว้ราว 10% และสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดราว 6% โดยมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงเป็นปัจจัยฉุดสำคัญ ทั้งนี้กำไร 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปีของเรา
📌 มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อ่อนแอ รายได้จากการขายไตรมาส 3/2568 ลดลง 21% YoY และ 8% QoQ เป็น 3.7 หมื่นลบ. เมื่อหักรายได้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยของ LH QH และ LPN ออกไป ส่วนแบ่งกำไรของอีก 7 บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่เหลือที่เกิดจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยไตรมาส 3/2568 ลดลง 30% YoY และ 19% QoQ แสดงถึงการชะลอตัวของมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการร่วมทุน (JV)
📌 การเปิดตัวโครงการใหม่และการก่อสร้างแล้วเสร็จล่าช้า เนื่องจากอุปสงค์ที่อยู่อาศัยซบเซาต่อเนื่องและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารสูง บริษัทพัฒนาอสังหาฯ หลายรายจึงตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่วางแผนไว้จากไตรมาส 3/2568 ออกไป ทำให้มูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงเหลือ 5.96 หมื่นลบ. จากแผนเดิม 7.66 หมื่นลบ. นอกจากนี้ คอนโดบางโครงการของ ORI ที่มีแผนจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3/2568 ถูกเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 4/2568 ทำให้เกิดแรงกดดันเชิงลบต่อมูลค่าการโอนไตรมาส 3/2568
📌 อัตรากำไรลดลง แม้บริษัทอสังหาฯ หลายรายอย่าง AP LPN PSH QH SIRI และ SPALI สามารถเพิ่ม GPM ของธุรกิจที่อยู่อาศัยได้ QoQ (แม้ว่าค่าเฉลี่ยจะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาส 3/2567) และโดยเฉลี่ยสามารถลดค่าใช้จ่าย SG&A ลงได้ถึง 14% YoY และ 0.5% QoQ แต่รายได้ที่ลดลง ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงเป็นเชิงลบกว่า GPM
📌 งบดุลถูกควบคุมมากขึ้น นอกจากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่น้อยลงแล้ว เรายังเห็นว่าบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทุกรายสามารถควบคุมสต๊อกที่อยู่อาศัยได้ดี มูลค่าที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาไตรมาส 3/2568 จึงลดลง 0.5% YoY และ 0.3% QoQ เป็น 5.51 แสนลบ. สอดคล้องกับ IBD ที่ลดลง 5.2% YoY และ 0.2% QoQ เป็น 3.52 แสนลบ. IBDE สุทธิของกลุ่มธุรกิจลดลงอีกเป็น 1.04 เท่า จาก 1.12 เท่าในไตรมาส 3/2567 และ 1.05 เท่าในไตรมาส 2/2568
มุมมอง KS
🎯เราคงมุมมองที่ “เป็นกลาง” ต่อกลุ่มที่อยู่อาศัย
👉 ความไม่สอดคล้องกันระหว่างอุปสงค์และอุปทานในปัจจุบันจะยังคงกดดันแนวโน้มการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยอย่างน้อยจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 แต่เรามองว่าราคาหุ้นที่จะลงต่ออีกค่อนข้างจำกัด เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่า PBV ปี 2568 ที่ 0.5 เท่าแล้ว โดยบางบริษัทซื้อขายที่ 0.2 เท่า ขณะเดียวกัน DY ปี 2568 ก็น่าสนใจที่ 6.2%
👉 แนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน กำไรไตรมาส 4/2568 ที่จะแข็งแกร่งขึ้นจากการเปิดตัวโครงการจำนวนมากและการโอน backlog จะเป็นปัจจัยหนุนราคาในระยะสั้น กำไรที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2569 หนุนโดยการแข่งขันที่เริ่มผ่อนคลายลงและฐานที่ต่ำในปี 2568 คาดจะช่วยผลักดันราคาให้สูงขึ้นต่อไป
👉 เราเลือก AP และ SIRI เป็นหุ้นเด่น ขณะที่ SC เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแนวโน้มปี 2569
หุ้นเด่น
- AP ซื้อ : TP 9.00 บาท
- SIRI ซื้อ : TP 1.67 บาท

📲เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
⛳Follow us :
📲 LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
📲 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
📲 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
📲 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
📲 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
📲 Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #ResidentialSector #สร้างบ้าน #ANAN #AP #BRI #LH #LPN #ORI #PSH #QH #SC #SENA #SIRI #SPALI
ภาษาไทย
English