KS: PTG ถึงเวลารับรู้ประโยชน์จากโปรแกรมสมาชิก
- ธุรกิจ non-oil มีสัดส่วนกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) มีบทบาทมากขึ้นในการทำกำไรของ PTG ซึ่งสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจ non-oil เพิ่มขึ้นเป็น 34% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 จาก 25% ในปี 2567 โดยส่วนใหญ่มาจากการเร่งขยายสาขาของร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยเปิดสาขาใหม่ 539 สาขาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เทียบกับ 244 สาขาในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งเราคาดว่าสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ non-oil จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้ประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่ของ PT Max Card Plus สำหรับสมาชิกที่ลงทะเบียนหลังวันที่ 1 พ.ย. 2568 โดยเปลี่ยนสิทธิประโยชน์จากส่วนลด 50% สำหรับ 10 แก้วต่อเดือน เป็นส่วนลดแก้วละ 15 บาท สำหรับ 20 หรือ 50 แก้วต่อเดือน ขึ้นอยู่กับการเลือกรับส่วนลดน้ำมัน 0.5 บาท/ลิตร ที่ 200 หรือ 100 ลิตรต่อเดือน ทั้งนี้ เราเชื่อว่าสิทธิประโยชน์ใหม่นี้จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรและปริมาณการขายของธุรกิจ non-oil ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อส่วนแบ่งกำไรสุทธิ
- คาดว่ากำไรไตรมาส 3/2568 จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ PTG มีกำหนดรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ในวันที่ 13 พ.ย. โดยเราคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 205 ลบ. เพิ่มขึ้น 193% YoY แต่ลดลง 34% QoQ ซึ่งการเติบโต YoY คาดได้แรงหนุนจาก 1) อัตรากำไรน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 3% เป็น 1.7 บาท/ลิตร และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ non-oil ที่เพิ่มขึ้น 7 ppt ซึ่งได้แรงหนุนจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีปริมาณการขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตราว 45% ในไตรมาส 3/2568 เทียบกับราว 35% ในไตรมาส 3/2567 อย่างไรก็ตาม การลดลง QoQ มาจากปริมาณการขายน้ำมันที่ลดลง 6% QoQ ตามอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงตามฤดูกาล
- คาดว่ากำไรไตรมาส 4/2568 จะเป็นจุดสูงสุดของปี ซึ่งจะช่วยลด downside ต่อประมาณการทั้งปี เราคาดว่ากำไรของ PTG ในไตรมาส 4/2568 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ และจะเป็นกำไรสูงสุดของปี โดยการเติบโต YoY มาจากสัดส่วนกำไรของธุรกิจ non-oil ที่เพิ่มขึ้น โดยมีร้านกาแฟพันธุ์ไทยเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ขณะที่การเติบโต QoQ มาจากช่วงวันหยุดยาว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นปริมาการขายของทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ non-oil ให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กำไรในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็นประมาณ 68% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ของเรา ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นไปได้ เราจึงคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ระดับ 1 พันลบ.
มุมมอง KS
- แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 9.20 บาท เนื่องจากเราได้ปรับปีฐานการประเมินมูลค่าจากกลางปี 2569 เป็นสิ้นปี 2569 และปรับเป้าหมาย PER ขึ้นจาก 9 เท่า เป็น 11 เท่า เพื่อสะท้อนสัดส่วนกำไรและศักยภาพการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ non-oil ของ PTG (คำนวณจาก PER 9 เท่าสำหรับธุรกิจน้ำมัน และ 17 เท่าสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ non-oil ที่ 70:30) จากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นรวม (TSR) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 18% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PTG โดยมีปัจจัยหนุนจากบัตร PT Max Card Plus รูปแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรรวมของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #PTG
ภาษาไทย
English