KS : WHART คาดผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง ผลตอบแทนยังน่าลงทุน

วิเคราะห์โดย KS Research Strategy

25 ต.ค. 2568

พรีวิวไตรมาส 3/2568

เราคาดว่า WHART จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ในวันที่ 11 พ.ย. โดยมีกำไรปกติประมาณ 667 ลบ. (+2.3% YoY, +3.7% QoQ) การเติบโต YoY คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากอัตราการเช่าพื้นที่ (OCR) ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงรายได้เพิ่มเติมจากคลังสินค้าที่ได้มาใหม่ในช่วงกลางไตรมาส 2/2568

ขณะที่การปรับตัวดีขึ้น QoQ คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากคลังสินค้าที่ได้มาใหม่ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม (NLA) 32,524 ตร.ม. และคาดว่า OCR จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเริ่มเข้ามาของผู้เช่ารายใหม่บางรายที่ได้เซ็นสัญญาเช่าไปแล้วรวมประมาณ 57,000 ตร.ม. (ประมาณ 3% ของ NLA ทั้งหมด) ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ประกอบกับการไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการขายโรงงานที่รับรู้ในไตรมาส 2/2568 ขณะที่ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR ล่าสุดจะช่วยสนับสนุนกำไรเพิ่มเติม กำไรปกติต่อหน่วย (Core EPU) คาดอยู่ที่ 0.192 บาท ทำให้ core EPU ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 74.6% ของประมาณการทั้งปีของเรา

การจ่ายเงินปันผล

เราคาดว่า WHART จะประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหน่วย (DPU) ไตรมาส 3/2568 ที่ 0.1915 บาท (-0.8% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยคาดว่าการจ่ายจะอยู่ในรูปของเงินปันผล เนื่องจากไม่มีการรับรู้ผลขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมในไตรมาสนี้ ซึ่งสะท้อนอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 99% และให้ผลตอบแทนรายปีราว 7.9% จากราคาปัจจุบัน ทำให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีการจ่าย DPU คิดเป็น 74.7% ของประมาณการทั้งปีของเรา

มุมมอง KS : แนะนำ “ซื้อ” เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ WHART ด้วยราคาเป้าหมายอิงวิธีคิดลดเงินสด (DCF) ที่ 11.20 บาท (กลางปี 2569) เราประเมินอัตราผลตอบแทนรวมที่ 8.0%, 7.9% และ 7.8% สำหรับปี 2568–70 และมี market IRR 30 ปีที่ 6.52% ทั้งนี้ ทรัสต์มีอายุสัญญาเช่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่เหลืออยู่ (WALE) 57.3 ปี