กลยุทธ์หารลงทุนเดือนพ.ค. ช่วงแรกแนะ Global play (พลังงาน ปิโตรเคมี และยาง) ช่วงหลังแนะกลับมาซื้อ Domestic play (ธนาคาร การเงิน)
กลยุทธ์หารลงทุนเดือนพ.ค. ช่วงแรกแนะ Global play (พลังงาน ปิโตรเคมี และยาง) ช่วงหลังแนะกลับมาซื้อ Domestic play (ธนาคาร การเงิน)
ภาพรวมการลงทุนเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า SET ผันผวนสูงกรอบ 1,540-1,600จุด เป็นผลจากการระบาดระลอกสาม ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเร่งตัวทำระดับสูงสุดที่ 2,839ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมรายเดือน 34,500ราย สูงกว่ายอดรวมของผู้ติดเชื้อระลอกหนึ่งและสองรวมกัน โดยกลุ่ม Global play โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์, ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ให้ผลตอบแทนสูงสุด ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกนี้อย่าง Domestic play เผชิญแรงขายระดับ 5-10% นำโดยกลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก และอสังหา ในขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติขายรวมกันสูงกว่า 2.0หมื่นล้านบาท สำหรับเศรษฐกิจ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการ GDP(%) ปีนี้ลงเป็น 1.8% จากระดับ 2.6% โดยเฉพาะภาคการบริโภคและจำนวนนักท่องเที่ยว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือนพ.ค. สำหรับช่วงครึ่งเดือนแรก หากอิงจากการคาดการณ์ผลประกอบการ และ การทยอยรายงานผลประกอบการกลุ่ม Global play โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และ สินค้าโภคภัณฑ์ เราประเมินว่าส่วนใหญ่จะออกมาในเกณฑ์ที่ดี ในขณะที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่องใน 2Q21 และหากอิงจากการปรับประมาณการ EPS2021 ขึ้น 8%YTD มาจากการปรับประมาณการกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ ในระดับ 7-34% นอกเหนือจากผลกระทบที่จำกัดจากการระบาดระลอกสองแล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกภายหลังที่มีการทยอยฉีดวัคซีนสร้าง pent up demand ในขณะที่ฝั่ง Supply ส่วนใหญ่ยังฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยเฉพาะจากปัญหาค่าเดินเรือ หรือ Freight rate ที่ปรับขึ้นกว่า 100% และยังยืนในระดับสูง ฉะนั้นในระหว่างที่เรารอดูตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อภายหลังรัฐบาลขยายเวลาการ lockdown เพิ่มอีก 2 สัปดาห์ และหากอิงจาก Spread ในฝั่งปิโตรเคมี นำโดย PE, PP, PET, และอื่นๆ เป็นผลให้เราคาดว่าราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะปรับตัว sideway up ได้ เราแนะนักลงทุนเก็งกำไรกลุ่มดังกล่าวรวมถึงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดย STA, SCC, SCGP, IVL
และสำหรับช่วงครึ่งเดือนหลัง ล่าสุดที่ประชุมศบค. มีมติยกระดับการล็อคดาว์นโดยเฉพาะ 6 จังหวัดอย่าง กทม นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี และ สมุทรปราการ ซึ่งถือเป็นจังหวัดสำคัญที่ส่งผลต่อภาคบริการเมื่อเทียบกับ GDP (%) ทั้งประเทศ เบื้องต้นเราประเมินว่าจะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่ม Domestic play อย่างไรก็ตามมาตราการที่เข้มงวดดังกล่าวดังกล่าวจะช่วยจำกัดการแพร่ระบาด ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนละเปิดโอกาสในการทยอยสะสมกลุ่มธนาคารและการเงินอีกครั้ง (SCB, KKP, JMT)
มุมมองตลาดหุ้น/ กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์หารลงทุนเดือนพ.ค. ช่วงแรกแนะ Global play (พลังงาน ปิโตรเคมี และยาง) ช่วงหลังแนะกลับมาซื้อ Domestic play (ธนาคาร การเงิน) ประเมินกรอบ 1,535-1,620
หุ้นแนะนำ ครึ่งเดือนแรก อิงจากการคาดการณ์ผลประกอบการ และ การทยอยรายงานผลประกอบการกลุ่ม Global play โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และ สินค้าโภคภัณฑ์ เราประเมินว่าส่วนใหญ่จะออกมาในเกณฑ์ที่ดี เราแนะนำ STA (พื้นฐาน 55.00 บาท), SCC(พื้นฐาน 515.00 บาท), SCGP(พื้นฐาน 62.00 บาท), IVL(พื้นฐาน 53.50 บาท) ครึ่งเดือนหลังมาตราการที่เข้มงวดดังกล่าวดังกล่าวจะช่วยจำกัดการแพร่ระบาด ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนละเปิดโอกาสในการทยอยสะสมกลุ่มธนาคารและการเงินอีกครั้ง แนะนำ SCB (พื้นฐาน 117.00 บาท) KKP (พื้นฐาน 72.00 บาท) JMT(พื้นฐาน 48.00 บาท)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค. โดย ธปท. ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน เม.ย. คาดทรงตัว MoM ที่ 51.7 จุด ตัวเลข GDP 1Q21 ของเยอรมันคาด -1.5% QoQ และ -3.4% YoY ตัวเลข CPI ของยูโรโซนเดือน เม.ย. คาด +1.6% YoY ตัวเลข Core PCE price index ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด +1.8% YoY ตัวเลข Personal spending index เดือน มี.ค. คาด +4.2% MoM และดัชนี Michigan Consumer Sentiment เดือน เม.ย. คาด +1.1% MoM เป็น 87.5 จุด.