KS Daily View 03 ธ.ค. 2025

KS Daily View 03 ธ.ค. 2025

Analysis by KS Research Strategy
Dec 3, 2025
Back

KS Daily View 03.12.2025 >>> ปัจจัยบวกไม่ชัด การเมืองไม่แน่นอน กลยุทธ์เน้นหุ้น dividend yield + defensive play SET วันนีั กรอบ 1,265 - 1,285 จุด แนะนำ KTB และ BDMS

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.25%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.59%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.39% จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี ประกอบกับความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,277.58 จุดเพิ่มขึ้น +1.01 จุด (+0.08%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มธนาคาร, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มสื่อ ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideways ในกรอบ 1,265 - 1,285 จุด จากปัจจัยบวกใหม่ยังคงมีไม่ชัด ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น เนื่องจากฝ่ายค้านอาจยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีที่มีการเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองของสภาฯ ในวันที่ 12 ธ.ค. และอาจส่งผลกระทบกับการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งเฟส 2 แม้มีกระแสข่าวว่า ครม. อาจเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเปิดสมัยประชุม แต่ยังคงท้าทายว่ากระบวนการเสนอและพิจารณาต่างๆ จะสามารถทำได้ทันในช่วงเวลาที่เหลืออันสั้นหรือไม่ ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่มี dividend yield ที่สูงประกอบกับ defensive play อย่าง KTB และ BDMS

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน

  1. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2025 เหลือ 1.9% เดิม 2.0% จากผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ ความเสียหายราว 4 หมื่นล้านบาท นักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด และภาคการผลิตหดตัว ส่วนปี 2026 คาดเศรษฐกิจเติบโตเพียง 1.6% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ สงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา ความไม่แน่นอนทางการเมือง และภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ขณะที่ปัจจัยบวกมาจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว การลงทุนภาครัฐเพิ่ม
  2. ครม.เห็นชอบโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายใต้มาตรการ “ควิก บิ๊ก วิน เพื่อเอสเอ็มอีไทย” วงเงินรวม 327,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง พัฒนาประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะส่วนสำคัญคือการเสริมสภาพคล่องวงเงิน 217,000 ล้านบาท พร้อมมาตรการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. วงเงิน 50,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลช่วยออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ 3 ปี เพื่อให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีได้ง่ายขึ้น มองเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มธนาคาร
  3. กกท.เปิดเผยว่าในช่วง 24–30 พ.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 8.12% WoW เหลือ 635,217 คน เฉลี่ยวันละ 90,745 คน จากนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ลดลงถึง 42.63% WoW ส่งผลให้ตลาดระยะใกล้โดยรวมลดลงกว่า 11% หลังมีน้ำท่วมภาคใต้ ขณะที่จีนและอินเดียปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้สำหรับยอดสะสม 1 ม.ค.-30 พ.ย. 2025 มีนักท่องเที่ยวรวม 29.6 ล้านคน ลดลง 7.25% YoY มองเป็นลบเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยว
  4. การควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นของจีนกำลังผลักดันให้บริษัทยุโรปจำนวนมากมองหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ภายนอกประเทศ โดยผลสำรวจของหอการค้ายุโรปในจีนพบว่าหนึ่งในสามของบริษัทเริ่มย้ายการจัดหาวัตถุดิบออกจากจีน ขณะที่ 40% ระบุว่ากระบวนการออกใบอนุญาตส่งออกของกระทรวงพาณิชย์จีนล่าช้ากว่ากำหนด มาตรการของปักกิ่งสร้างความไม่แน่นอนให้ธุรกิจยุโรป เสี่ยงทำให้การผลิตชะลอหรือต้องหยุดเดินเครื่อง โดยเฉพาะหลังจีนขู่จำกัดการส่งออกแร่หายากซึ่งเคยทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปบางรายต้องปิดไลน์ผลิตในเดือนเมษายน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ KCE
  5. ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เดินทางเยือนอินเดียเป็นเวลา 2 วันเพื่อกระชับความร่วมมือด้านพลังงานและกลาโหม โดยหวังผลักดันการขายน้ำมัน อาวุธ และเครื่องบินรบเพิ่มเติม ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐที่ทำให้นำเข้าน้ำมันรัสเซียของอินเดียลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามปี หากอินเดียกลับมานำเข้าน้ำมันรัสเซียอาจส่งผลให้ GRM ของกลุ่มโรงกลั่นถูกกดดัน

Daily pick

KTB: ราคาพื้นฐาน 31.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB จากจากฐานะเงินกองทุนแข็งแรง (CET1 18.9%) พร้อมแผนใช้ทุนส่วนเกินเพิ่ม ROE สองหลัก ผ่านปันผลต่อเนื่องและโอกาสทำ buyback ปลดล็อกมูลค่าเพิ่ม โดยพอร์ตสินเชื่อของ KTB เสี่ยงต่ำสุดในกลุ่มธนาคารไทย กว่า 40–50% เป็นสินเชื่อ MOU และ 30% เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย อีก 18% เป็นภาครัฐ ทำให้ credit cost ต่ำ คาดปี 2026 อยู่ราว 105–125bps รายได้ค่าธรรมเนียมโตแรง โดยเฉพาะ wealth และลูกค้าองค์กร รายได้ fee income เพิ่มจาก Bt1bn → Bt1.8bn/ไตรมาส หนุน ROE ฟื้นต่อเนื่องจากฐานทุนแข็งแกร่งและสินเชื่อคุณภาพดี

BDMS: ราคาพื้นฐาน 20.40 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS จากกำไรใน 3Q25 ที่ดีกว่าคาดราว 8% จาก GPM ที่แข็งแกร่งและมี Tax saving ที่สูงกว่าคาด โดยเรามองใน 4Q25 มีโอกาสที่รายได้จะลดลง QoQ น้อยกว่าคาดและยังคงรักษาการเติบโต YoY จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเคสไข้หวัดใหญ่ ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่ดีจะช่วยรักษาการเติบโตของกำไรไว้ได้ โดยใน 4Q25 บริษัทให้เป้าหมายการเติบโตทั้งปี 2025 ที่ 4%yoy และ EBITDA margin ที่ระดับ มากกว่า 24% เทียบกับเป้าเดิมที่ 3-5% และ 24-25% ตามลำดับ ตัวเลขสะท้อนว่ารายได้ใน 4Q68 น่าจะโตได้ 5% YoY

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (RatingDog China Service PMI) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.9 จุดชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.4 จุด

วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.60% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.76% YoY และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +0.59% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.61% YoY ต่อด้วยการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.16 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.0 จุดต่อด้วยรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US PCE Price Index) เดือน ก.ย. ตลาดคาดที่ 2.8% YoY

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

Search

Recommended searches