KS: 5 กองทุนแนะนำจาก KS ประจำเดือนตุลาคม

Core Portfolio

1. K-GSELECTU-A(A)

กองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF

นโยบายการลงทุน 

ลงทุนในหุ้นทั่วโลก เน้นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม  และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในวัฏจักรที่เป็นหุ้น Growth หรือ Value โดยไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ควรลงทุนเมื่อไร

ในช่วง Q4 มักจะเป็น High season ของหุ้นโลกที่มีสถิติการปรับตัวขึ้น 9 / 10 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนจาก GDP 2Q25 ของสหรัฐฯ ที่เติบโตสูงถึง 3.8% หนุนโดยการลงทุนใน AI และเงินเฟ้อที่แม้จะเร่งตัวขึ้น แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาดและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการที่เฟดกลับสู่เส้นทางของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย เราจึงคงคำแนะนำลงทุนในหุ้นโลก โดยอาศัยการปรับฐานในช่วง Bull market ในการทยอยลงทุน

2. UGISFX-N

กองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund

นโยบายการลงทุน 

กระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับสร้างผลตอบแทนรวมในระยะยาว โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตตามสภาวะตลาด โดยไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ควรลงทุนเมื่อไร

ภายหลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps แต่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี (10Y UST) ปรับตัวขึ้นตามที่เราประเมินไว้ โดยในเดือนนี้เรายังคงคำแนะนำซื้อตราสารหนี้โลกเมื่อ 10Y UST อยู่ในกรอบ 4.00 – 4.25% จากมุมมองที่ Bond Yield มีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อในระยะยาว โดยเราแนะนำให้ลงทุนแบบไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) จากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่ามากเกินไป

Satellite Portfolio (6-12M)

3. KKP TECH-UH

กองทุนหลัก iShares Expanded Tech ETF (IGM)

นโยบายการลงทุน 

เน้นลงทุนในกลุ่ม Technology, Communication Services และ Consumer Discretionary ประกอบด้วยหุ้น 280 ตัว โดยไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ควรลงทุนเมื่อไร

จากผลประกอบการหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่างหุ้น Broadcom และ Oracle ที่ดีกว่าคาดมาก สะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านจาก AI training มาเป็น AI inferencing ซึ่งมีการเติบโตสูงและมีขนาดของตลาดที่ใหญ่กว่า Training มาก อีกทั้งผลประกอบการของ Micron ที่รายงานยอดจองชิปหน่วยความจำขั้นสูงเต็มแล้วจนถึงปลายปี 2026 ทำให้หุ้นในกลุ่ม AI-related น่าจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งเช่นกันใน 3Q25 เราจึงคงคำแนะนำลงทุนเมื่อ IGM (ETF) มีการย่อตัวลง

4. K-JP-A(D)

กองทุนหลัก Lazard Japanese Strategic Equity Fund

นโยบายการลงทุน

ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่มีศักยภาพเพียง 20-30 หลักทรัพย์ ในหุ้นทุกขนาด โดยเน้นหนักไปทางหุ้นขนาดใหญ่ และมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มการเงินราว 20% โดยป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

ควรลงทุนเมื่อไร

ปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้ง GDP 2Q25 ที่ถูกทบทวนใหม่จาก 1% เป็น 2.2% ผลประกอบการ 3Q25 ที่คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงการที่จะได้หัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ที่มีแนวคิดใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจึงมองว่าจะทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เปลี่ยนจาก Deflation to Inflation จะเกิดการ Derating to Rerating ได้ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีซื้อขายที่ค่าเฉลี่ย Forward PER 5 ปี เมื่อเทียบกับ ACWI ex U.S. แต่กำไรมีความโดดเด่นกว่ามาก คงคำแนะนำลงทุนเมื่อดัชนี Topix ย่อตัวลง

Satellite Portfolio (3-6M)

5. ONE-FFI

นโยบายการลงทุน 

กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น โดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 7 เดือน 27 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 3.83% ต่อปี โดยไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ควรลงทุนเมื่อไร

แนะนำลงทุนเมื่อ USD/THB อยู่ในกรอบ 32 – 33.00 ซึ่งเรามองว่าเป็นกรอบค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 35/USD และจุดตัดขาดทุนที่ 31.5/USD 

️*เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสลงทุนในระยะสั้นและสามารถตัดขาดทุนได้

Source: KS Research, KS Mutual Fund data as of 30 September 2025

เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

#KS #KSecurities #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #ตราสารหนี้