6 กองทุนแนะนำจาก KS ประจำเดือนมิถุนายน


6 กองทุนแนะนำจาก KS ประจำเดือนมิถุนายน
Core Portfolio
1. K-GSELECT
กองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นทั่วโลก เน้นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทั้งในวัฏจักรที่เป็นหุ้น Growth หรือ Value จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นมามากในช่วงเดือนที่ผ่านมา จากสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลง ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 ดีกว่าคาดมาก แต่นักวิเคราะห์ยังไม่ได้ปรับประมาณการกำไรขึ้นจากความกังวลด้านภาษีนำเข้า ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นโลกมีการปรับฐานลงได้ เราจึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยลงทุนในยามที่ตลาดปรับตัวลง หรือ ทยอย DCA
2. UGISFX-N
กองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund
นโยบายการลงทุน
กระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับสร้างผลตอบแทนรวมในระยะยาว โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตตามสภาวะตลาด
แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมเป็น Core portfolio ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับใกล้เคียง 4.50% เพื่อล็อคอัตราผลตอบแทนในระยะยาว โดยกองทุน UGISFX-N ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged) ซึ่งเปิดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในส่วนของค่าเงินจากที่เรามีมุมมองว่าค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไปสวนทางปัจจัยพื้นฐาน
Satellite Portfolio
3. K-JP-A(D)
กองทุนหลัก Lazard Japanese Strategic Equity Fund
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นที่มีศักยภาพเพียง 20-30 หลักทรัพย์ ในหุ้นทุกขนาด โดยเน้นหนักไปทางหุ้นขนาดใหญ่ และมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มการเงินราว 25%
แนะนำทยอยลงทุนเมื่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น (ดัชนี Topix) มีการปรับฐานลง โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อญี่ปุ่น จากค่าจ้างที่เติบโตขึ้น ช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศ, ผลประกอบการที่ดีของหุ้นในกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่เข้าใกล้การเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ
4. TUSFIN-A
กองทุนหลัก Financial Select Sector SPDR Fund (XLF)
นโยบายการลงทุน
มีวัตถุประสงค์ในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector
แนะนำทยอยลงทุนเมื่อดัชนี XLF ETF มีการย่อตัวลง ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามได้ใน Tradingview โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ที่มีผลประกอบการแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายการลดภาษี และการลดกฎเกณฑ์ภาคธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี
5. KT-CHINA-A
กองทุนหลัก BGF China Fund
นโยบายการลงทุน
ลงทุนในหุ้นจีน All-Shares จำนวน 30-60 หลักทรัพย์ เน้นการลงทุนแบบยืดหยุ่นทั้งในแง่ขนาด และสไตล์ เพื่อจับโอกาสในทุกมิติของตลาดจีนที่เปลี่ยนแปลง
แนะนำทยอยลงทุนเมื่อดัชนี MSCI China ย่อตัวลง โดยเรามีมุมมองที่ดีต่อหุ้นจีนในครั้งนี้ จากผลประกอบการบริษัทเทคใหญ่ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง อีกทั้งการเติบโตของกำไรในช่วงที่ผ่านมา มีความสัมพันธ์กับการส่งออกที่ต่ำลงมาก เราจึงไม่ได้กังวลเรื่องภาษีนำเข้ามากนัก
Satellite Portfolio
6. ONE-FFI
กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นโดยปัจจุบันมี Port Duration ที่ 6 เดือน 25 วัน และมี Yield to Maturity ที่ 3.89% ต่อปี กองทุนไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Unhedged)
แนะนำลงทุนเมื่อ USD/THB อยู่ในกรอบ 32 – 33.50 ซึ่งเรามองว่าเป็นกรอบค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปตรงข้ามกับปัจจัยพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ 35/USD และจุดตัดขาดทุนที่ 31.5/USD
️*เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาโอกาสลงทุนในระยะสั้นและสามารถตัดขาดทุนได้
ที่มา : KS Research, KS Business Development, Data as of 5 Jun 2025

เปิดพอร์ตลงทุนกองทุนรวมกับ KS ลงทุนได้หลากหลาย บลจ. >> https://ksecurities.co/Open-Account_Fund
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #กองทุน #ผลตอบแทน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #FUND #กองทุนหุ้นโลก