ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โตแรง …รู้จักกับ 2 ETF น่าลงทุน

ในโลกปัจจุบันได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว หากลองสังเกตจากสิ่งรอบๆ ตัวจะพบว่ามีการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์, การเชื่อมต่ออินเตอร์เนตกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ (เช่น Smart Phone, Smart TV, Smart Watch) หรือแม้กระทั้งในรถยนต์ไฟฟ้า (ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ) และอื่นๆ อีกมากมาย คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Semiconductor คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จต่างๆ เหล่านี้ เพราะว่า Semiconductor คือวัสดุที่มีความสำคัญอย่างมากในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะเป็น แผงวงจรรวม (Integrated Circuit), แผนวงจรที่ซับซ้อน (Print Circuit Board) เพื่อใช้ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ Hi-Tech ต่างๆ (ณ ปัจจุบันในยุค 5G ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะมีขนาดเล็กลงแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพอย่างมาก เพื่อรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น)

ปัจจัยที่ต้องจับตามอง

• ประธานธิบดีสหรัฐฯ คนล่าสุดคุณโจ ไบเดน ตั้งใจว่าจะเพิ่มงบประมาณในการทำวิจัย Semiconductor (Research & Development) เพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าภายในปี 2025
• กลุ่มอุตสาหกรรม Semiconductor จะมีการเติบโตอย่างสูงในช่วง Q2-Q3 ในปี 2021 เนื่องจากปัญหาทางด้านอุปทานของกลุ่ม Semiconductor (ทาง CFRA มองว่าเป็นปัญหาชั่วคราวที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ)
• ภาพในระยะยาวคาดว่ากลุ่มอุตสาหกรรม Semiconductor จะมีการเติบโตต่อเนื่องไปอีก 10 ปีโดยเฉลี่ย 6-7% (ซึ่งมากกว่าการเติบโตของ GDP โลก) โดย Semiconductor เป็นชิ้นส่วนสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชื่อมต่อสัญญาณ Internet, เครื่องเล่น VDO Game (จะมี Specification ที่สูงมาก), Smart Phone, ปัญญาประดิษฐ์ แม้กระทั่งในอุตสาหกรรมรถยต์ไฟฟ้า

2 ETF แนะนำ
VanEck Vectors Semiconductor ETF (SMH) – ออกโดย VanEck จดทะเบียนซื้อขายที่ตลาด NASDAQ (ในประเทศสหรัฐอเมริกา) โดยมุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี MVIS US Listed Semiconductor 25 Index ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “SMH US” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)

นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุนผ่านกองทุนรวม SCBSEMI(A) จากSCB Asset Management

iShares Semiconductor ETF (SOXX) – ออกโดย BlackRock จดทะเบียนซื้อขายที่ตลาด NASDAQ (ในประเทศสหรัฐอเมริกา) โดยมุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี ICE Semiconductor Index ซึ่งใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “SOXX US” โดยนักลงทุนต้องแลกเงินเป็นสกุล USD เพื่อทำการซื้อขาย โดยมีขั้นต่ำในการซื้อขายเป็นจำนวน 1 หุ้น (Trade Lot = 1)

นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุนผ่านกองทุนรวมLHSEMICON-A หรือ LHSEMICON-D ที่กำลังจะ IPO วันที่ 22-28 มิถุนายน 2564 นี้ จาก LH Fund

Source: KS Offshore, CFRA Research, Bloomberg

เปิดพอร์ตลงทุนหุ้นต่างประเทศ > https://bit.ly/3c3oDs2

KSecurities #KS #OffshoreInvestment #หุ้นต่างประเทศ #Semiconductor

Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp