ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจะช่วยกำลังซื้อเกษตรกร

รายได้ภาคเกษตรเดือน ธ.ค.2565 (-47% MoM) ถูกฉุดโดยผลผลิต (-46%) ราคา (-1%) ราคาข้าวเปลือก (-87%) เป็นปัจจัยฉุดหลักจากสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวในฤดู

คาดรายได้ภาคเกษตรของไทยปี 2566 จะทรงตัว
เราคาดว่ารายได้ภาคเกษตรไทยปี 2566 จะลดลง 0.8% YoY ประเด็นสำคัญอยู่ที่ค่าครองชีพ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ดัชนีราคาผู้บริโภคของภาคเกษตรของไทย

ในมุมมองของเรา ปัจจัยฉุดที่สำคัญในปี 2566 คือ ราคาภาคเกษตรไทย (-1% YoY) ตามวัฏจักรของสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงในปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณสินค้าภาคเกษตรไทยจะคงที่ (+0.2%) ตามสภาพแวดล้อมการเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างดี

สินค้าเกษตรที่ท้าทายที่สุดในปี 2566
น่าจะเป็นยางพารา (ส่งออกไปยังจีน 37% โดยปลายทาง) ทุเรียน (90% ส่งออกไปยังจีน) จาก 1) การที่ต้องพึ่งพาด้านการค้ากับจีนเป็นอย่างมาก 2) แนวโน้มอุตสาหกรรม ทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เช่น ยานยนต์และการสิ้นสุดมาตรการโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน เช่น ถุงมือยาง

สินค้าเกษตรที่กระทบระดับกลางในปี 2566
น่าจะเป็นปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด อ้อย โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ในตลาดภายในประเทศ ไม่ใช่สำหรับส่งออก

สินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยในปี 2566
ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง โดยเราเชื่อว่าทั้งราคาข้าวและมันสำปะหลังปี 2566 น่าคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากอุปสงค์ทั้งในประเทศและทั่วโลกยังคงฟื้นตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

มุมมอง KS
มองเป็นบวกจากรายได้สูงขึ้น เช่น รายได้ภาคเกษตร
กลุ่มต่อเติมบ้านในต่างจังหวัด (GLOBAL และ DOHOME)
กลุ่มวัสดุการก่อสร้าง (DCC และ TOA)
กลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (MTC SAWAD และ SAK)

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://bit.ly/3eC98sz
Follow us :
LINE : http://bit.ly/KSLINEOA
Facebook: http://bit.ly/2XwGoaa
Instagram: http://bit.ly/332OqIT
Twitter: http://bit.ly/344OVng
YouTube: http://bit.ly/2QAdiFp

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #หุ้น #หุ้นไทย #ข่าวหุ้น #ลงทุน #FARM #INCOME