Strategy

KS Asset Allocation : ทองคำพุ่งจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส

แนวโน้มเศรษฐกิจโลก
การเติบโตของ GDP ทั่วโลกในปี 2566 คาดว่าจะคงที่ในสหรัฐฯ (+2.1%) ชะลอตัวในสหภาพยุโรป (+0.7%) และสหราชอาณาจักร (+0.5%) ขณะที่คาดการเติบโตของ GDP ในจีนและญี่ปุ่นจะเติบโตดีกว่าปี 2565 ที่ 5% และ 2% ตามลำดับ ส่วนไทยถูกปรับลดลงเหลือ 2.7%
ตลาดคาดว่า Fed, ECB, BOE, BOJ และ PBOC จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม
เราประมาณการว่า GDP ปี 2566 จะเติบโตขึ้น 3% YoY ขณะที่คาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% และคาดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ-เงินบาท จะอยู่ที่ราว 33.5-34.0 บาท ในช่วงสิ้นปีนี้
อัปเดตตลาดทั่วโลก
ตั้งแต่ต้นปี ดัชนี TOPIX ของญี่ปุ่นทำผลงานได้ดีที่สุด (+17.95%) ตามมาด้วยน้ำมันและ S&P500 ขณะที่ SET Index ทำผลงานได้แย่ที่สุด (-16.81%)
หากพิจารณาจากการประเมินมูลค่าของตลาด เวียดนามน่าดึงดูดใจที่สุดจาก EPS ปี 2567 ที่เติบโตแข็งแกร่งสอดคล้องกับ PER ล่วงหน้า (Z-Score)
ทองพุ่งจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกเข้าโจมตีชายแดนอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.2566 และอิสราเอลประกาศ “สภาวะสงคราม” ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 1,832 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ 1,972 ดอลลาร์ฯ หรือ 7.6%
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสงครามอ่าวและเหตุการณ์ 11 ก.ย. ที่ราว 7-8% แต่ปรับเพิ่มมากในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงิน ตอนนี้การเพิ่มของราคาทองคำอยู่ในระดับจำกัด อ้างอิงจากผลตอบแทนในอดีตและสงครามที่จำกัดวง
ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวสวนทางกับดัชนี S&P500 เป็นส่วนใหญ่และเกือบทั้งหมดจะเคลื่อนไหวสวนทางกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ
ดัชนี S&P500 ปรับลดลงเฉลี่ยที่ 4.7% ในช่วง 19.4 วัน จากปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่หากสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบโดยตรงหรือเข้าร่วมสงคราม คาดดัชนีจะลดลงหลักสิบ (-11.6% ถึง -19.8%)

มุมมองของเรา

1) ถือเงินสดจากความไม่แน่นอนของสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสโดยเฉพาะเงินฝากอัตราดอกเบี้ยคงที่ในสกุลเงินดอลลาร์ฯ หรือกองทุนตลาดเงินของสหรัฐฯ ซึ่งมีอัตราตอบแทนระดับสูงที่ราว 5%

2) ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้เล็กน้อยจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงที่สุดในรอบ 16 ปี และใกล้แตะระดับสูงสุด ขณะที่เราคาดว่าจะได้รับผลกำไรจากส่วนต่างของราคาหลักทรัพย์ (Capital Gain) หาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

3) ให้น้ำหนักเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจากสงคราม, สภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อยหรือไม่เกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ และตลาดหุ้นเริ่มถูกลงหลังปรับลดลงที่ราว 10%

4) ปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงเล็กน้อยในสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ต ทองคำสำหรับความเสี่ยงจากภาวะถดถอย ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงหรือสงคราม แต่ราคาปรับเพิ่มขึ้นเร็วจากสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส แต่การเพิ่มขึ้นของราคามีจำกัดจากระดับสูงสุดครั้งก่อนที่ราว 2,050 ดอลลาร์ฯ กอง REIT มีอัตราตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจในช่วงที่ราคาหุ้นลดลง