Daily View

Daily View

Daily View

Daily View

KS Daily View 3 มี.ค. 2025

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
March 3, 2025

KS Daily View 03.03.2025 >>> ติดตาม Thai ESG X รับเม็ดเงิน LTF เข้าครม. วันนี้ มองกรอบ SET วันนี้1,180 – 1,220 จุด หุ้นแนะนำ CPALL, TIDLOR

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,160-1,210 จุด โดยเทรนด์หลักยังเป็นขาลง ปัจจัยสำคัญจากต่างประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้มีหลายประเด็น วันจันทร์มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงเฟส 2 ระหว่างอิสราเอลและฮามาสหลังครบกำหนด 42 วันของเฟส 1 และความคืบหน้าการเจรจายุติสงครามระหว่างสหรัฐฯ-ยูเครน-รัสเซีย ซึ่งทรัมป์และเซเลนสกีมีมุมมองที่แตกต่างกันมาก ส่วนวันอังคารครบกำหนด 1 เดือนที่สหรัฐฯเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา หากเริ่มจัดเก็บจริงจะกระทบบรรยากาศการลงทุนจากความกังวลเรื่องสงครามภาษีที่จะฉุดการค้าและเศรษฐกิจโลก ด้านปัจจัยในประเทศ ติดตามการประชุม ครม. ที่คาดจะพิจารณามาตรการเสริมความมั่นใจให้ตลาดทุนไทย โดยเฉพาะโครงการแปลงกองทุน LTF เป็น Thai ESG X (TESGX) ซึ่งแม้ไม่ได้เพิ่มเม็ดเงินใหม่ แต่จะช่วยชะลอแรงขาย ทั้งนี้ต้องติดตามเงื่อนไขผลประโยชน์ทางภาษีว่าจะดึงดูดให้นักลงทุนถือครองต่อได้มากน้อยเพียงใด สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ มีดัชนีภาคการผลิต ISM สหรัฐฯ วันจันทร์ และตัวเลขตลาดแรงงานวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะทรงตัวหรือดีขึ้นจากการเร่งซื้อและผลิตสินค้าก่อนที่ต้นทุนจะเพิ่มจากนโยบายของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขออกมาอ่อนแอมากอาจกระตุ้นความกังวลเรื่อง Stagflation ในสหรัฐฯ ได้ แนะนำลงทุนใน TIDLOR CPALL OR BDMS CPN

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,203.72 จุด Gap down ช่วงเช้าจากที่สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจีนอีก 10% แต่รีบาวด์กลับขึ้นมาลดช่วงลบปิดเหนือ 1,200 จุด ประเมินวันนี้อาจได้รับ Sentiment เชิงบวกหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อวันศุกร์ชะลอตัวลง และติดตามการประชุม ครม. ที่เลื่อนมาเป็นวันนี้ โดยเฉพาะการเสนอ Thai ESG X ที่อาจลดแรงขายของ LTF ที่ครบกำหนดได้ ประเมินกรอบวันนี้ 1,180 – 1,220 จุด แนะนำ CPALL, TIDLOR

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. การพบปะระหว่างประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำเนียบขาวจบลงด้วยความวุ่นวาย หลังจากทั้งคู่มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด โดยทรัมป์บอกกับเซเลนสกีว่า กลับมาเมื่อพร้อมที่จะสันติภาพ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า หากเขาต้องการสู้ต่อไป มันจะไม่สวยงามแน่ เพราะหากไม่มีเรา เขาไม่มีทางชนะ เหตุการณ์นี้ทำให้ยูเครนต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตในความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญที่สุด ขณะที่ผู้นำยุโรปต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากระหว่างการสนับสนุนยูเครนต่อไปด้วยตนเอง หรือการทำข้อตกลงกับทรัมป์ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของเซเลนสกี

2. สหรัฐฯ รายงานมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญที่เฟดใช้ติดตาม Core PCE ที่ 2.65% YoY และ 0.28% MoM เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยเป็นการชะลอตัวลงจาก 2.86% YoY ในเดือนที่แล้ว ด้าน Personal Income เพิ่มขึ้น 0.88% MoM แข็งแกร่งกว่าคาด แต่ Personal Spending ลดลง 0.15% MoM ต่ำกว่าคาด ซึ่งลดลงมากในส่วนของสินค้าคงทน สะท้อนความระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะนี้ตลาดได้คาดการณ์เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 นี้ราว 3 ครั้ง

3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ได้เปิดเผยว่าเม็กซิโกเสนอที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนให้เท่ากับสหรัฐฯ และเรียกร้องให้แคนาดาทำเช่นเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าจากประเทศของตน โดยเม็กซิโกวางแผนที่จะเสนอมาตรการนี้ในการเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สินค้าประเภทรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่แคนาดาได้เริ่มเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เหล็ก และอลูมิเนียมจากจีนไปแล้วในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ

4. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติการแปลงกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นกองทุน Thai ESG X (TESGX) เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนแห่ขายจนกระทบตลาดหุ้นไทย โดยผู้ถือหน่วยลงทุนที่แจ้งความประสงค์ถือครองต่อเป็นเวลา 5 ปี จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ กองทุนใหม่จะรองรับเฉพาะผู้ถือหน่วย LTF เดิมเท่านั้น ไม่เปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนใหม่

5. TikTok ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เพื่อประกาศแผนการลงทุนในประเทศไทยมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี โดยเฟสแรกได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากBOI ในกิจการ Data Hosting มูลค่ากว่า 1.26 แสนล้านบาท ซึ่งจะลงทุนติดตั้ง Server และอุปกรณ์ใน Data Center ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่บุคลากรไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ไทยผ่านแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs และ Content Creator ไทยเข้าถึงตลาดโลก

Daily pick

CPALL : ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPALL จากการประชุมที่ผ่านมา โดยผู้บริหารให้แนวทาง SSSG ปี 2568 สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจบวกอัตราเงินเฟ้อ หรือประมาณ 3-5% และคาดการขยายอัตรากำไรขั้นต้น 10-20 bps ขณะที่ตั้งเป้าขยาย 700 ร้านเท่าปีที่แล้วแต่มีขนาดใหญ่กว่า ปัจจุบัน SSSG ช่วงต้นไตรมาส (QTD) เป็นบวก 3-4% โดยร้านในพื้นที่ท่องเที่ยวมีผลงานดีกว่า ส่วนร้านใกล้โรงงานเติบโตต่ำสุด สินค้ากลุ่ม RTE และ RTD ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขายและอัตรากำไร นอกจากนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยลดลงเป็นผลดี ลดแรงกดดันในการเร่งลดหนี้ และคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2568 เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบรวม CPAXT

TIDLOR : ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่คาดว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียน เนื่องจากต้นทุนด้านเครดิตลดลงมาอยู่ที่ 3.3% จาก 3.9% ในไตรมาส 3 และ 4.2% ในไตรมาส 4 ปี 2566 ประกอบกับการกลับมาเติบโตของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน เราคาดว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งการดำเนินกลยุทธ์แบบเลือกสรรและระมัดระวัง โดยปัจจัยการเติบโตในปี 2568 จะมาจากการลดลงของอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่เกิดจากราคารถมือสองที่หยุดปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งแรกของปี 2568 อีกทั้งต้นทุนด้านเครดิตมีโอกาสลดลงจากการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อและสินเชื่อใหม่ที่ปล่อยในปี 2567 ที่มีคุณภาพดีขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1 จุด ต่อด้วย ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.9 จุด และปิดท้ายด้วย เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานในฝั่งยุโรป (EU Core CPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.6% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.7% YoY

วันอังคาร ติดตามดัชนีรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 35.2 จุด และการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรป (EU unemployment rate) เดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.3%

วันพุธ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.0 จุด ต่อด้วยตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.32% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.83% YoY ปิดท้ายด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.8 จุด

วันพฤหัสฯ ติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB Main Refinancing Rate) ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.42 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.55 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.43 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.0% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #KSTODAY

Daily View

KS Daily View 30 มิ.ย. 2025
Jun 30, 2025

KS Daily View 30 มิ.ย. 2025

KS Daily View 27 มิ.ย. 2025
Jun 27, 2025

KS Daily View 27 มิ.ย. 2025

KS Daily View 26 มิ.ย. 2025
Jun 26, 2025

KS Daily View 26 มิ.ย. 2025

KS Daily View 25 มิ.ย. 2025
Jun 25, 2025

KS Daily View 25 มิ.ย. 2025

KS Daily View 24 มิ.ย. 2025
Jun 24, 2025

KS Daily View 24 มิ.ย. 2025

KS Daily View 23 มิ.ย. 2025
Jun 23, 2025

KS Daily View 23 มิ.ย. 2025