Daily View

Daily View

Daily View

Daily View

KS Daily View 6 พ.ค. 2025

KS Research Strategy Analysis by KS Research Strategy
May 6, 2025

KS Daily View 6 พ.ค. 2025>>> ตลาดหุ้นไทยเริ่มเผชิญแรงขายหลังขึ้นมาต่อเนื่อง ประเมินวันนี้ตลาด Sideways พักฐาน แม้บรรยากาศสงครามการค้าดีขึ้น แต่การที่ ตลท. เตรียมใช้เกณฑ์น้ำหนักรายหลักทรัพย์ไม่เกิน 10%  อาจกดดัน DELTA มองกรอบวันนี้ที่ 1,180-1,210

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,175-1,215 จุด โดยแนวโน้มหลักเริ่มกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากความเสี่ยงเชิงลบเริ่มจำกัดหลังรับรู้ข่าวลบไปมากแล้ว ขณะที่ตลาดเริ่มมองบวกจากความคาดหวังความคืบหน้าเรื่องเจรจาการค้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านนโยบายการเงินและการคลัง และเงินลงทุนจากกองทุน Thai ESGX อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นตลาดรอพิจารณาปัจจัยใหม่และผลประกอบการ 1Q68 เพื่อกำหนดทิศทางว่าจะทะลุแนวต้าน 1,200-1,215 จุดได้หรือไม่ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุม FOMC ช่วงข้ามคืนวันพุธ ที่คาดคงดอกเบี้ยที่ 4.50% แต่ต้องจับตาท่าทีของประธาน Fed ต่อทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต ทั้งนี้ ด้วยดอกเบี้ยไทยลดลงขณะที่สหรัฐฯ คงเดิม ประกอบกับการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งและเป็นช่วงจ่ายปันผล เงินบาทอาจมีแนวโน้มอ่อนค่าซึ่งเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก ELEC, FOOD และ AUTO อย่างไรก็ดี DELTA อาจถูกกดดันจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะปรับวิธีคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยจำกัดน้ำหนักไม่เกิน 10% ซึ่งอาจทำให้เงินไหลออกจาก DELTA ที่มีน้ำหนักเกิน 10% ไปยังหุ้นใหญ่อื่นที่น้ำหนักยังไม่ถึง 10% เช่น PTT ADVANC GULF AOT และ CPALL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,198.98 จุด  ตลาดเริ่มเผชิญแรงขายหลังจากปรับตัวขึ้นมาเร็ว เราประเมินวันนี้ตลาด Sideways แม้จะมีปัจจัยบวกจาก Sentiment ที่ดีในเรื่องสงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจ และ Thai ESGX แต่ก็มีปัจจัยลบจากการที่ ตลท. เตรียมใช้เกณฑ์น้ำหนักรายหลักทรัพย์ไม่เกิน 10% ในดัชนี ส่งผลต่อ DELTA ที่พาตลาดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับหน้าหุ้นในสัปดาห์นี้เราแนะนำ CPALL, GPSC, PR9, SCGP และ AMATA

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กลุ่ม OPEC+ ตกลงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนมิถุนายนอีก 411,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้การเพิ่มผลผลิตรวมในช่วงเมษายน-มิถุนายนอยู่ที่ 960,000 บาร์เรลต่อวัน โดยซาอุดีอาระเบียต้องการกดดันอิรักและคาซัคสถานที่ผลิตเกินโควตา และปฏิเสธที่จะช่วยพยุงราคาน้ำมันด้วยการลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม
  2. ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงการค้ากับบางประเทศภายในสัปดาห์นี้ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับหลายประเทศในเอเชียรวมถึงจีน รองประธานาธิบดี JD Vance ระบุว่าอินเดียน่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่จะบรรลุข้อตกลง ตามด้วยญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และยุโรป สำหรับกรณีของจีน ทรัมป์แสดงความเต็มใจที่จะลดภาษีนำเข้าจากปัจจุบันที่สูงถึง 145% เนื่องจากอัตราภาษีที่สูงเกินไปทำให้การค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกหยุดชะงัก
  3. ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 100% กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตนอกสหรัฐฯ อ้างว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์อเมริกันกำลังจะตายเพราะประเทศอื่นดึงงานผลิตไป มองว่าเป็นภัยความมั่นคง กระทรวงพาณิชย์ยืนยันกำลังดำเนินการตามนโยบายนี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดการบังคับใช้และไม่ชัดเจนว่ามุ่งเป้าที่บริษัทผู้ผลิตต่างชาติหรืออเมริกันที่ผลิตในต่างประเทศ
  4. นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติวันนี้ เพื่อพิจารณากรอบค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 68) รวมทั้งรับทราบความคืบหน้าโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และผลการตรวจสอบกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ก่อนหน้านี้ กกพ. มีมติปรับลดค่า Ft งวด พ.ค.-ส.ค. 68 จาก 36.72 เป็น 19.72 สตางค์/หน่วย โดยใช้เงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินจากการไฟฟ้า 12,200 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงจาก 4.15 เป็น 3.98 บาท/หน่วย
  5. ทอท.เผยแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยงบลงทุนรวม 1.7 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 150 ล้านคนต่อปี และรองรับเที่ยวบิน 120 เที่ยวต่อชั่วโมง โดยมุ่งเน้นการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทิศใต้และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ แบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ได้แก่ 1) กลุ่มงานเขตการบิน รวมถึงทางวิ่งเส้นที่ 4 ลานจอดอากาศยาน และทางขับด้านทิศใต้ 2) กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร และระบบ APM รถไฟฟ้าไร้คนขับเชื่อมต่อ 3) กลุ่มงานสนับสนุน ระบบสาธารณูปโภค และถนนยกระดับ โดยตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างในปี 2570 และแล้วเสร็จในปี 2574

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • GPSC: ราคาพื้นฐาน 41.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GPSC จากการคาดการณ์กำไรในไตรมาส 1/2568 ที่จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากอัตรากำไรที่ดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง 4% YoY และราคาถ่านหินลดลง 20% YoY ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 13.4% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานดีขึ้นเป็น 12.4% จาก 11.9% ในไตรมาส 4/2567 และ 11.0% ในไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปีที่อยู่ในทิศทางลงส่งผลบวกเชิง sentiment ให้กลุ่มโรงไฟฟ้า พร้อมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทจะช่วยให้อัตรากำไรของบริษัทดีขึ้นในระยะกลางเช่นกัน

  • SCGP: ราคาพื้นฐาน 15.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SCGP คาดว่าจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/2568 ต่อจากการฟื้นตัวเกินคาดในไตรมาส 1/2568 ที่ดีกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ ซึ่งได้แรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดและปริมาณการขายบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า SCGP มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จากคำสั่งซื้อเพื่อเติมสต็อกจากลูกค้าในสหรัฐฯ และกลุ่มลูกค้าที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งรวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของยอดขายรวม ฝ่ายบริหารมั่นใจว่าราคาวัตถุดิบจะทรงตัวหรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากส่วนต่างราคากระดาษที่ระดับยั่งยืนราว 200 ดอลลาร์ต่อตัน และต้นทุนพลังงานที่ลดลง ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรืออย่างน้อยคงที่ โดยเฉพาะในตลาดในประเทศ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (Caixin Service PMI) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.8 จุดชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ 51.9 จุด ต่อด้วยการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของโซนยุโรปครั้งสุดท้าย (HCOB Service PMI) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.7 ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.00% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.84% YoY และอัตราเงินเฟื้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +0.90% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.86% YoY ต่อด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของฝั่งยุโรป ดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +1.60% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.30% YoY ปิดท้ายด้วยการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ เรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า
  • วันพฤหัสฯ ติดตามการประชุมของคณะกรรมการธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรจะลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps จากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.41 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของจีนเดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.0% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +12.4% YoY และตัวเลขนำเข้าของจีน เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -5.9% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ -4.3% YoY

*ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลใหม่และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน

เปิดพอร์ตลงทุนออนไลน์กับ KS ได้แล้ววันนี้!

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account

Follow us :

LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA

 Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook

 Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram

 Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter

 YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW

Daily View

KS Daily View 06 ส.ค. 2025
Aug 6, 2025

KS Daily View 06 ส.ค. 2025

KS Daily View 5 ส.ค. 2025
Aug 5, 2025

KS Daily View 5 ส.ค. 2025

KS Daily View 04 ส.ค. 2025
Aug 4, 2025

KS Daily View 04 ส.ค. 2025

KS Daily View 1 ส.ค. 2025
Aug 1, 2025

KS Daily View 1 ส.ค. 2025

KS Daily View 31 ก.ค. 2025
Jul 31, 2025

KS Daily View 31 ก.ค. 2025

KS Daily View 30 ก.ค. 2025
Jul 30, 2025

KS Daily View 30 ก.ค. 2025