KS Daily View 17.09.2025 >>> ตลาดปิดยืนเหนือ 1,300 จุด บนความคาดหวังมาตรการกระตุ้นการบริโภค/ท่องเที่ยว คาด SET วันนี้กรอบ 1,295-1,320 จุด แนะนำ KAMART และ PTTEP

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.13%, Nasdaq Composite ลดลง 0.07%, และ Dow Jones ลดลง 0.27% โดยดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของวอลล์สตรีทปิดตลาดลดลงในการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อคืนที่ผ่านมาจากนักลงทุนระมัดระวังก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps เพื่อชดเชยการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,308.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.41 จุด (+0.65%) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มขนส่ง, และอสังหา ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,295-1,320 จุด หลังจากปิดยืนเหนือระดับ 1,300 จุดที่เป็นแนวต้านเชิงจิตวิทยา บนความคาดหวังของมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศรวมไปถึงภาคอสังหา ในขณะเดียวกันอาจมีการลุ้นมาตรการเพิ่มเติมในส่วนของการท่องเที่ยง หลังมีการตอบรับได้ดีใน เที่ยวไทยคนละครึ่ง และอาจดำเนินต่อในรูปแปบทัวร์ไทยคนละครึ่ง ใช้งบเหลือจากโครงการเดิม เสนอรัฐบาลทันก่อนไตรมาสสุดท้ายปี 2025 ในส่วนของภาพต่างประเทศ คาดตลาดอาจรอดู ผลการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในคืนนี้ รวมไปถึงแนวทางของเศรษฐกิจในอนาคตจาก Fed ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อย่าง KAMARTและ PTTEP

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1)กพท.เตรียมเสนอขึ้นค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศจาก 15 บาทเป็น 25 บาทต่อผู้โดยสาร เพื่อสะท้อนต้นทุนจริง หลังปัจจุบันจัดเก็บต่ำกว่าต้นทุนจนรายได้ลดลง แม้จำนวนผู้โดยสารเพิ่ม ขณะเดียวกันยังเสนอปรับขึ้น Passenger Service Charge (PSC) ของ ทอท. โดยเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศจาก 730 เป็น 830 บาท และภายในประเทศจาก 130 เป็น 230 บาท หากบอร์ด กบร. เห็นชอบ คาดเริ่มใช้ปลายปี 2025 มองเป็นบวกกับ AOT

2)รัสเซียเผชิญแรงกดดันใหม่หลังยูเครนโจมตีท่าเรือส่งออกและโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่ง จนทำให้ Transneft ผู้ผูกขาดท่อส่งน้ำมันเตือนผู้ผลิตว่าอาจต้องลดกำลังผลิต หากโครงสร้างพื้นฐานเสียหายเพิ่ม ปัจจุบันการโจมตีทำให้กำลังการกลั่นหายไปราว 20% ขณะที่ยูเครนย้ำว่าโจมตีโครงสร้างน้ำมันคือมาตรการคว่ำบาตรที่ได้ผลเร็วที่สุด มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ TOP SPRC BSRC BCP PTTEP

3)ในขณะเดียวกัน EU เตรียมเร่งเลิกนำเข้าพลังงานฟอสซิลรัสเซียเร็วกว่ากำหนดปี 2028 พร้อมออกชุดคว่ำบาตรครั้งที่ 19 ครอบคลุมคริปโต ธนาคาร และพลังงาน หลังการหารือกับทรัมป์ที่กดดันให้อียูหยุดนำเข้าและเก็บภาษีจีน-อินเดียซึ่งซื้อน้ำมันรัสเซียมาก ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ระบุจะไม่เก็บภาษีจีนเพิ่ม หาก EU ไม่ดำเนินการก่อน

4)รัฐบาลใหม่เตรียมลดค่าไฟงวดแรกปี 2026 (ม.ค.–เม.ย.) ลงอย่างน้อย 4 สตางค์ต่อหน่วย จาก 3.94 บาท เหลือ 3.90 บาท/หน่วย เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน โดยนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่ รมว.พลังงาน อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทาง มองเป็นลบเล็กน้อยกับโรงไฟฟ้า SPP อย่าง BGRIM และ GPSC

5)สมาคมภัตตาคารไทยเสนอแพ็กเกจ Quick Win เพิ่มเติมถึงรัฐบาลใหม่ นอกจากการเพิ่มเงิน คนละครึ่ง เป็น 200 บาท/วัน โดยเสนอให้ลด VAT ร้านอาหารเหลือ 5% ชั่วคราว จัดซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำ ลดต้นทุนค่าไฟ–น้ำและวัตถุดิบ อุดหนุนค่าจ้างแรงงานพร้อมพัฒนาทักษะ จัดกิจกรรมการตลาด–ท่องเที่ยว มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ M ZEN MAGURO OKJ

KAMART: ราคาพื้นฐาน 9.29 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ KAMART จากแนวทางใหม่ของผู้บริหารบ่งชี้ถึงการเติบโตของรายได้และกำไรปกติในครึ่งหลังปี 2025 ที่ 14-39% และ 13-56% YoY เทียบกับการเติบโตของรายได้และกำไรปกติในครึ่งแรกปี 2568 ที่ 13% และ 2% YoY ตามลำดับ อีกทั้งคาดการเติบโตของกำไร 3Q25 ยังคงแข็งแกร่งที่ 190 ลบ. เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 25% QoQ จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง การขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นจากการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และส่วนแบ่งกำไรจาก 4U2 ที่ 22 ลบ.

PTTEP: ราคาพื้นฐาน 134.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP จากระดับ valuation EV/EBITDA ที่ต่ำกว่า -1SD และระดับ PBV ที่ต่ำระดับ -2SD พร้อมกับปันผลที่แข็งแกร่งระดับ 7.5% มีความน่าสนใจในการลงทุน นอกจากนี้ IMF ยังมีการ upgrade Global GDP ที่แสดงได้ถึงจุดต่ำสุดของ oil demand forecast ได้ผ่านไปแล้ว อีกทั้งเราคาดว่าการได้รับสัมปทาน MTJDA Block A-18 จะช่วยเพิ่ม reserve life ส่งผลให้มีโอกาสที่ PTTEP จะได้รับการ re-rate multiple ขึ้นไปในระยะยาวเช่นกัน พร้อมกันนี้ PTTEP ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้า US LNG อีกด้วยเนื่องจาก ก๊าซธรรมชาติจากในประเทศและในแหล่งที่พม่ายังมีไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการในประเทศ และ PTTEP เองมีสัญญา DCQ กับลูกค้าแล้วด้วย

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันพุธ ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งสุดท้าย (EU CPI) เดือน ส.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.1% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (EU Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +2.3% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าปิดท้ายด้วยผลการประชุม FOMC โดยตลาดคาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps

วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีแนวโน้มธุรกิจโดยธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.5 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.3 จุด ปิดท้ายด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.40 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.63 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.8% YoY ลดลงเดือนก่อนหน้าที่ +3.1% YoY ต่อด้วยผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
ดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมผ่านแอป KS TRADE+ โหลดเลย >> https://ksecurities.co/KSTradePlus

Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube

#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #DAILYVIEW