KS Daily View 25 มี.ค. 2025


KS Daily View 25.03.2025 >>> S&P 500 รีบาวด์ ทรัมป์ผ่อนคลาย Reciprocal tariffs มองกรอบ SET วันนี้ 1,180-1,200 จุด แนะนำ SAV, PTT
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงหลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจมีท่าทีที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีตอบโต้ที่จะประกาศในวันที่ 2 เมษายน โดยดัชนี Dow Jones ปิดบวกเกือบ 600 จุด หรือ 1.42%, S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.76% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และ Nasdaq Composite โดยเป็นการปรับตัวขึ้นเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในกลุ่มเติบโตสูงอย่าง Consumer Discretionary และ Technology ปัจจัยหนุนมาจากรายงานที่ระบุว่ามาตรการภาษีอาจมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และบางประเทศอาจได้รับการยกเว้น ขณะที่ทรัมป์เองได้กล่าวว่าอาจให้ "หลายประเทศได้รับการยกเว้น" และเลื่อนภาษีบางหมวดออกไปก่อน นอกจากนี้ตัวเลข Services PMI ก็ออกมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลความเสี่ยงของสงครามการค้าจะทำให้เศรษฐกิจถดถอย
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,190.06 จุด เคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเพียง 2 หมื่นล้านบาทต้น ภาพรวมนักลงทุนยังคงระมัดระวังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง และความไม่แน่นอนของมาตรการ Tariffs ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่สรุปว่าจะกระทบกับประเทศใดบ้าง เราประเมินวันนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีแรงกดดันหลังทรัมป์มุ่งเป้า Reciprocal tariffs มายังประเทศในกลุ่ม Dirty 15 ก่อน ซึ่งรวมถึงไทย แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้น่าจะหนุนกลุ่มพลังงานให้ยืนได้ วันนี้เรามองตลาด Sideway ในกรอบ 1,180 – 1,200 โดยมีหุ้นแนะนำเป็น SAV, PTT
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่าภาษีนำเข้ารถยนต์จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่ไม่ใช่ทุกมาตรการภาษีที่เขาขู่ไว้จะถูกประกาศในวันที่ 2 เมษายน และบางประเทศอาจได้รับข้อยกเว้น ซึ่งเป็นสัญญาณความยืดหยุ่น ในขณะเดียวกัน ทรัมป์เปิดแนวรบใหม่ในสงครามการค้าด้วยการประกาศเก็บภาษี 25% กับประเทศที่ซื้อน้ำมันหรือก๊าซจากเวเนซุเอลา และระบุว่าจะเก็บภาษีรถยนต์ ยา และอลูมิเนียม "ในอนาคตอันใกล้" ตามด้วยไม้และเซมิคอนดักเตอร์ "ในภายหลัง" โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทรัมป์ระบุว่าภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เมษายนจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลสูงสุด เรียกว่า "Dirty 15" หรือกลุ่มประเทศประมาณ 15% ของคู่ค้าทั้งหมดที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามากที่สุด และเป็นเป้าหมายหลักที่จะถูกเก็บภาษีตอบโต้จากรัฐบาลทรัมป์ ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป เม็กซิโก เวียดนาม ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา อินเดีย และไทย
2. ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯ พุ่ง 54.3 สูงกว่าคาดที่ 50.8 และเพิ่มขึ้นจาก 51.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการ ขณะที่ PMI ภาคการผลิตหดตัวลงสู่ระดับ 49.8 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 51.8 เนื่องจากโรงงานลดการเร่งผลิตเพื่อรับมือภาษี และคำสั่งซื้อใหม่เกือบหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม ทั้งสองภาคธุรกิจยังคงเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมภาคบริการยังช่วยประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ
3. กบน. มีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลรวม 1 บาท/ลิตร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 โดยทยอยลดครั้งละ 50 สตางค์ ในวันที่ 28 มี.ค. และ 4 เม.ย. เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ คาดใช้งบประมาณวันละ 100 ล้านบาท ซึ่งสถานะกองทุนยังรองรับได้ โดยฐานะกองทุนฯ ปรับดีขึ้น เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท และยังคงตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กก. ต่อไป
4. ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 (1 ม.ค. - 28 ก.พ.) ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 6.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.83% จากปีก่อน สร้างรายได้ 333,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.64% โดยนักท่องเที่ยวจีนยังครองอันดับ 1 ที่ 1.03 ล้านคน รองลงมาคือ มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ข้อมูลล่าสุดถึง 16 มี.ค. พบว่ามีนักท่องเที่ยวสะสม 8.29 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 405,946 ล้านบาท
5. อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี เข้าซื้อหุ้นบางจากเพิ่มอีก 62.9 ล้านหุ้น ในราคาสูงสุดรอบ 90 วันที่ 38.5 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ถือหุ้นรวม 98.34 ล้านหุ้น หรือ 7.14% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด
Daily pick
SAV: ราคาพื้นฐาน 24.17 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ SAV แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงตาม sentiment ของกลุ่มท่องเที่ยวในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเรามองว่าปัจจัยพื้นฐานของ SAV ยังคงแข็งแกร่ง จากจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวันช่วงต้นไตรมาสที่ระดับ 238.52 เที่ยวบิน/วัน เติบโต 6.39% จากไตรมาส 4 ปี 2567 ทั้งนี้ เราคาดว่า SAV จะมีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งรายงานกำไรปกติออกมาเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์ถึงโอกาสเติบโตจากการที่บริษัทเข้าร่วมประมูลโครงการปรับปรุงระบบตรวจจับวัตถุแปลกปลอมบนรันเวย์ (FOD) มูลค่าโครงการรวม 1,280 ล้านบาท และการจำหน่ายระบบเรดาร์ Thales ให้กับวิทยุการบินด้วยมูลค่างานประมาณ 1,200 ล้านบาท
PTT: ราคาพื้นฐานที่ 35.80 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTT จากการเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 16,000 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 470 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 1.65 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 23 กันยายน 2568 เรามองเป็นบวกจากการซื้อหุ้นคืนที่จะช่วยเพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเป็นการบริหารเงินทุนส่วนเกินด้วย โดยปัจจุบัน PTT มีการซื้อขายที่ระดับ P/E ปี 2025 ประมาณ 9 เท่า และมีอัตราเงินปันผลประมาณ 6.8%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New home sale) เดือน ก.พ. ตลาดคาดที่ 6.80 แสนหลังเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.57 แสนหลัง ต่อด้วยรายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐริชมอนด์ (Richmond Manufacturing Index) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6 จุด
วันพุธ ติดตามคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.70% MoM ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -3.20% MoM
วันพฤหัสฯ ติดตาม GDP ของสหรัฐใน 4Q24 ครั้งสุดท้ายตลาดคาดการณ์ที่ 2.4% QoQ เทียบกับก่อนหน้าที่ 2.3% QoQ และตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.22 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขของสหรัฐที่รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วย ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal income) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.9% MoM และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal spending) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.6% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% MoM

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #Ksecurities #การลงทุน #หุ้นไทย #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #KSTODAY