BCPG พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออุดช่องว่างจาก adder


BCPG พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออุดช่องว่างจาก adder
แผนลงทุน ภายหลังการลงทุนเชิงรุกด้วยการซื้อโครงการใหม่ 5 แห่ง และมีโครงการที่พัฒนาขึ้นใหม่อีกหลายโครงการ งบลงทุน (CAPEX) รวมปี 2023 จะอยู่ที่ประมาณ 3.2 หมื่นลบ. ขณะที่ในปี 2024 BCPG มีแผนลงทุนจำนวน 1.4 หมื่นลบ. โดย 6 พันลบ.จะถูกใช้สำหรับโครงการใหม่ และอีก 8 พันลบ.สำหรับโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ โดยเฉพาะมุ่งเน้นไปที่โครงการไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon Wind Farm ใน สปป.ลาว และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน
การเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ BCPG แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าได้ลงนามในสัญญาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 แห่งในประเทศไทย กำลังการผลิตรวม 12.95 เมกะวัตต์ ในราคา 477 ลบ. (36.8 ลบ./เมกะวัตต์) ด้วยอัตรา FiT ที่ 4.12 บาทต่อกิโลวัตต์/ชั่วโมง BCPG ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงการและทำการรีไฟแนนซ์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากโครงการให้ได้สูงสุด โดยดีลคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1Q24
ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการ BCPG อัพเดทความคืบหน้าโครงการสำคัญๆ ที่กำลังพัฒนา ได้แก่
1) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน (469 เมกะวัตต์) คาดว่าจะทยอยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ระหว่างปี 2567-69 ซึ่งล่าช้าจากแผนเดิมเล็กน้อยที่คาดว่าจะ COD ในปี 2023-25 (แต่เป็นไปตามสมมติฐานของเรา)
2) โรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon Wind Farm ใน สปป.ลาว (290 เมกะวัตต์) ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามกำหนดเวลาแล้ว โดยกังหันเครื่องแรกได้รับการติดตั้งเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าตามแผน COD ที่คาดการณ์ไว้ในปี 2025
3) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Chiba2 ในญี่ปุ่น (10 เมกะวัตต์) การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ล่าช้าเล็กน้อยจากงานโยธาที่มีความท้าทาย โดยมีเป้าหมายที่จะ COD ในครึ่งหลังของปี 2024
โรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ หลังจากที่เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ขนาด 857 เมกะวัตต์แล้ว BCPG คาดว่าจะพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โครงการ wind repowering (การดัดแปลงและเพิ่มประสิทธิภาพของกังหันลมเก่า) โครงการโรงไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ และโครงการดักจับคาร์บอน
มุมมองของเรา โทนของการประชุมนักวิเคราะห์ประจำ 3Q23 ค่อนข้างเป็นกลาง โดยเน้นที่การให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับโครงการเป็นหลัก และมีการเปิดเผยรายละเอียดโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 13 เมกะวัตต์ ข้อมูลที่ส่วนใหญ่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเรา โดยอาจมี upside เล็กน้อยจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ ซึ่งประมาณการเบื้องต้นของเราคาดว่าโครงการเหล่านี้สามารถสร้างกำไรเพิ่มเติมได้ปีละ 20-25 ลบ. หรือคิดเป็น 0.09 บาท/หุ้น ต่อราคาเป้าหมายของเรา
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 12.70 บาท แม้ว่า adder ที่กำลังจะหมดอายุจะส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น แต่เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพในระยะยาว

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads