SAPPE : คาดการเติบโตอาจจะไม่สดใสเหมือนก่อน


SAPPE : คาดการเติบโตอาจจะไม่สดใสเหมือนก่อน
- ประเด็นสำคัญ เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ของ SAPPE โดยโทนของการประชุมคละกันระหว่างปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) อุปสงค์ทั่วโลกของน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว Mogu Mogu ยังคงแข็งแกร่งกับประเทศกลุ่มดาวรุ่งดวงใหม่ที่ SAPPE ได้ให้คำนิยามเอาไว้อย่าง อินเดีย และสหราชอาณาจักร 2) ตั้งเป้ายอดขายปี 2567 ให้เติบโต 20%-25% หนุนโดยตลาดทั้งในและต่างประเทศ 3) แม้ว่าการประท้วงในฝรั่งเศสจะทำให้เกิดการสะสมของสต๊อกสินค้าที่ผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่น แต่อัตราการซื้อของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 3/2566 4) ราคาน้ำตาลและเม็ดพลาสติก PET ของ SAPPE จะเพิ่มขึ้น 20%-25% และ 5%-10% ในปี 2567 5) SAPPE ตั้งเป้าในการใช้จ่ายด้านกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้นในปี 2567 6) เครื่องจักรใหม่ในปี 2567 และ 2568 จะเพิ่มกำลังการผลิตรวม 25% ต่อปี 7) ผู้บริหารคาดว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเครื่องจักรระดับล้ำสมัยจะทำให้การประหยัดต่อขนาดและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเพื่อชดเชยผลกระทบจากวัตถุดิบที่มีราคาแพง โดยหวังว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไว้ที่ 45% ในปี 2567
- มุมมองของเรา เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SAPPE ด้วยเหตุผล 2 ประการแรก อุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะได้รับการตอบสนองจากการขยายกำลังการผลิตและพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของประเทศผู้ส่งออก แม้ว่าจะมีการหยุดงานประท้วงอย่างต่อเนื่องในฝรั่งเศส ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายในฝรั่งเศสไตรมาส 3/2566 แต่ผลกระทบดังกล่าวถูกหักล้างไปโดยสิ้นเชิงด้วยประสิทธิภาพการขายที่แข็งแกร่งในสหราชอาณาจักรและส่วนที่เหลือของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงยอดขายที่หลากหลายของ SAPPE จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่ในทางกลับกัน เราคาดกำไรสุทธิปีหน้าจะไม่เติบโตแข็งแกร่งเหมือนในปีนี้จากราคาวัตถุดิบ ได้แก่ ราคาน้ำตาล (แผนภาพ 9) และเม็ดพลาสติก PET (แผนภาพ 8) เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการที่ GPM ของ SAPPE ค่อนข้างสูง ผลกระทบต่อกำไรจะมีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ชัดเจนมากนัก หากไม่มีแผนบรรเทาผลกระทบใดๆ GPM จะลดลงเหลือ 43% ขณะที่ประมาณการ GPM ปี 2567 ของเรา อยู่ที่ 43.9% โดยอิงจากความเชื่อมั่นของผู้บริหารในการรักษา GPM ไว้ในระดับสูงกว่าที่ 45% โดยรวมแล้ว ด้วย downside ที่จำกัดจากต้นทุนที่สูงขึ้นและยอดขายที่สะดุดชั่วคราวในฝรั่งเศส แนวโน้มการเติบโตของ SAPPE จะยังคงแข็งแกร่ง
- ปรับประมาณการกำไร เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566-68 ขึ้น 1.9%/3.3%/8.1% เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ประมาณ 250 ลบ. (+90.4% YoY และ -23.1% QoQ) เราปรับสมมติฐานยอดขายรวมปี 2567 ขึ้น 3.3% โดยคาดว่ายอดขายในไทย เอเชีย สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ และตะวันออกกลาง จะเติบโต 10% 20% 35% และ 10% ส่งผลให้ยอดขายรวมปี 2567 เติบโต 17.2% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหาร ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมของเราต่อตลาดในประเทศและตะวันออกกลาง ขณะที่สมมติฐาน GPM ปี 2567 ของเราที่ 43.9% ยังคงเป็นไปได้ เมื่อพิจารณาจากต้นทุนที่แพงขึ้นแล้ว ขณะเดียวกัน ในปี 2568 เราปรับประมาณการยอดขายรวมขึ้น 6.8% เพื่อรวมยอดขายที่สูงขึ้นจากตลาดต่างประเทศที่อาจเติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง อินเดียและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐาน GPM ปี 2568 ขึ้น 30 bps เพื่อสะท้อนราคาขายที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศและประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้นของเครื่องจักรใหม่ เราคาดว่าผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจเกิดขึ้นในปี 2567-68 จะมีเพียงเล็กน้อย เนื่องจาก SAPPE จ่ายค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ที่ระดับเหนือกว่า 360 บาทต่อวัน
- แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 95.90 บาท SAPPE เป็นหุ้นมีคุณภาพดีที่สุดในบรรดาบริษัทคู่แข่ง โดยมี PER ล่วงหน้าที่ต่ำกว่า ROE ที่สูงกว่า และ NPM ที่สูงกว่าบริษัทคู่แข่ง

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #หุ้น #หุ้นไทย #ข่าวหุ้น #ลงทุน #SAPPE