KCE : แนวโน้มครึ่งแรกของปี 2567 ไม่ค่อยสดใส


KCE : แนวโน้มครึ่งแรกของปี 2567 ไม่ค่อยสดใส
- KCE รายงานกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 464 ลบ. ลดลง 8.4% YoY และ 1.3% QoQ ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 9% และ 18% จากรายได้หลักที่อ่อนแอ
- เหตุการณ์สำคัญ เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 4/2566 ใจความสำคัญเป็นไปในเชิงลบ โดยรวมแล้วความต้องการแผ่นวงจรรวม (PCB) ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะจากยุโรป ซึ่งลูกค้ามีสต๊อกสินค้าอยู่ในระดับสูง ซึ่งนำไปสู่การระบายสต็อกและลดคำสั่งซื้อกับบริษัท KCE ปิดโรงงาน 15 วันในไตรมาส 4/2566 เพื่อลดต้นทุนให้สูงสุดและลดสต๊อกสินค้า ส่งผลให้มี backlog จำนวน 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ HDI ซึ่งจะส่งผ่านไปสู่รายได้ในครึ่งแรกของปี 2567 โดยรวมแล้วผู้บริหารคาดว่ารายได้ไตรมาส 1/2567 จะเพิ่มขึ้น 10% QoQ จากการกลับมาเริ่มกิจกรรมการผลิตอีกครั้งและคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะยังคงทรงตัว QoQ ที่ประมาณ 22.4%
- เลื่อนการลงทุนที่โรงงานในนิคมฯ โรจนะ จากความต้องการ PCB ที่ลดลง KCE จึงเลื่อนแผนการลงทุนจากช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เป็นช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าจะเลื่อนการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จากครึ่งแรกของปี 2568 เป็นครึ่งแรกของปี 2569
- แนวทางธุรกิจที่ระมัดระวัง ลดเป้ารายได้และ GPM จากเติบโตที่ 10% ในปี 2567 โดยมี GPM ที่ 26-27% เป็นการเติบโตที่ 4-7% และ GPM ที่ 24% จากแนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอลง บริษัทฯ มองเห็นสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยสูงอย่างต่อเนื่องจะฉุดยอดขายรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารคาดว่าการเติบโตจะกลับมาในครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทฯ คาดว่า GPM จะค่อยๆ ปรับดีขึ้นตลอดทั้งปีจาก 1) การลดต้นทุนวัตถุดิบในไตรมาส 1/2567 2) การปรับปรุงกระบวนการผลิตจะช่วยลดการใช้แรงงานและไฟฟ้าลง 10% 3) การปรับปรุงกระบวนการทางเคมีจะลดต้นทุนด้านเคมีภัณฑ์ 4) อัตราการเกิดของเสีย (defect rate) ที่ลดลงหลังการนำเครื่องจักรใหม่มาใช้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2566
- มุมมองของเรา โดยรวมแล้ว แนวทางธุรกิจใหม่ออกมาในเชิงลบมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากเราคาดว่าจะบริษัทฯ จะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้อาจต้องเลื่อนไปอีกหนึ่งไตรมาส เราคาดว่ากำไรไตรมาส 1/2567 น่าจะปรับดีขึ้น YoY จาก GPM ที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการขายที่ปรับดีขึ้น QoQ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่เป็นเวลานานขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มยานยนต์โดยรวมและยอดขาย PB แต่เราเชื่อว่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะส่งผลให้ GPM และกำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 2567 ปรับดีขึ้น
- ลดประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลง 7% เราปรับลดประมาณการกำไรปกติลงเป็น 2.1 พันลบ. เพื่อสะท้อนยอดขายและสมมติฐาน GPM ที่ลดลงในปี 2567
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายย 50.00 บาท
เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างมากสะท้อนถึงแนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2567 เราแนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสมที่ราคาต่ำกว่า 40.00 บาทสำหรับการลงทุนในระยะยาว

เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #ข่าวหุ้น #หุ้นไทย #KCE