Company Analysis

BAM : เป้าการเก็บเงินสดที่ท้าทายในปี 2567

BAM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 460 ลบ. ลดลง 47% YoY แต่เพิ่มขึ้น 20% QoQ ดีกว่าที่เราคาดไว้ 14% จากรายได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด
เป้าหมายการจัดเก็บเงินสดปี 2567 ที่ท้าทาย BAM ตั้งเป้าการจัดเก็บเงินสดปี 2567 ที่ 2 หมื่นลบ. เทียบกับ 1.5 หมื่นลบ. ในปี 2566 บริษัทฯ คาดว่าการจัดเก็บเงินสดไตรมาส 1/2567 จะเป็นต่ำที่สุดในทุกไตรมาสของปีนี้ที่ประมาณ 4 พันลบ. และการจัดเก็บเงินสดในไตรมาส 2-3/2567 จะปรับดีขึ้น และในไตรมาส 4/2567 จะเป็นไตรมาสที่การจัดเก็บเงินสดสูงที่สุดของปี 2567 โดย 50% ของเป้าการจัดเก็บเงินสดทั้งหมดจะมาจากพอร์ตหนี้เสีย (NPL) และส่วนที่เหลือจากการขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ยิ่งไปกว่านั้น BAM ระบุว่า มี backlog ของ NPL ขนาดใหญ่ในไตรมาส 1/2567 ที่ 694 ลบ. และ backlog ของ NPA ขนาดใหญ่เช่นกันที่ 322 ลบ. เราเชื่อว่าเป้าการจัดเก็บเงินสดของ BAM มีความท้าทายภายใต้ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ เราคงประมาณการการจัดเก็บเงินสดปี 2567 ไว้ที่ 1.8 หมื่นลบ.
มาตรการการจัดเก็บเงินสดเชิงรุกมากขึ้น ด้วยเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทายในปี 2567 ผู้บริหารมีแผนที่จะดำเนินการติดตามหนี้และโซลูชั่นเชิงรุกจากลูกค้ามากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการติดตามหนี้ ผู้บริหารมองว่าพอร์ต NPL ใหม่มีแนวโน้มการจัดเก็บเงินสดที่ดีขึ้น และจะเน้นไปที่การเก็บเงินสดจากพอร์ต NPL ใหม่ที่จะได้มาในปี 2566-67 มากขึ้น บริษัทฯ จะเพิ่มความเร็วในการขายผ่านกรมบังคับคดีในปี 2567 เพื่อเพิ่มการจัดเก็บเงินสดจากกระบวนการดังกล่าว สำหรับ NPL ที่ไม่มีหลักประกันภายใต้การบริหารของ BAM บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้ผู้ติดตามหนี้จากภายนอกเพื่อเก็บเงินสดจากลูกค้า โดยจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 ขณะเดียวกัน BAM ยังมีแผนที่จะจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านช่องทาง B2B ในปี 2567 เช่นกัน เราเห็นด้วยกับ BAM ที่จะดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นในปี 2567 เพื่อกระตุ้นการจัดเก็บเงินสด เนื่องจากเราเชื่อว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะสร้างการจัดเก็บเงินสดได้ยากขึ้นในช่วงที่มีหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และระยะฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าและไม่สม่ำเสมอในปี 2567
คงประมาณการกำไรปี 2567 เราคงประมาณการกำไรปี 2567-68 ไว้ที่ 2.08 พันลบ. และ 2.3 พันลบ. แม้เราจะคาดว่ากำไรจะเติบโตแข็งแกร่งในปี 2567 แต่สาเหตุหลักมาจากฐานที่ต่ำในปี 2566 เราคาดว่ากำไรปี 2567 ที่ 2.08 พันลบ. จะยังคงต่ำกว่ากำไรปี 2564-65 ที่ 2.6-2.7 พันลบ. อยู่มาก ปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรที่สำคัญในปี 2567 จะเป็นการปรับปรุงการจัดเก็บเงินสดที่จะเพิ่มทั้งรายได้ดอกเบี้ยและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่ลดลง เราคาดว่า backlog ของ NPL และ NPA ก้อนใหญ่จำนวน 800 ลบ. ซึ่งถูกเลื่อนการโอนจากปี 2566 ไปเป็น 2567 จะส่งผลบวกต่อกำไรปี 2567 เช่นกัน
แนะนำ “ซื้อ” TP ที่ 9.20 บาท เราเชื่อว่าการดำเนินงานของ BAM จะปรับดีขึ้นในปี 2567 จากกลยุทธ์การจัดเก็บเงินสดเชิงรุกมากขึ้น