KS Strategy : คาด GDP ไทย อ่อนแอต่อเนื่องไปจนถึง 1H69 📊
✍️การเติบโตของ GDP อ่อนแอกว่าที่คาด สศช. รายงานว่า GDP ไทยในไตรมาส 3/2568 หดตัว –0.6% QoQ และขยายตัวเพียง 1.2% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 1.6% YoY ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 อย่างไรก็ตาม GDP ไทยยังสามารถขยายตัวได้ 2.6% YTD ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เนื่องจาก GDP ไทยในช่วง 1H25 ขยายตัวได้ดี
✍️แรงกดดันหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐ ตัวฉุดภาพรวมเศรษฐกิจหลักมาจากทั้งภาคการท่องเที่ยว ซึ่งลดลง 10.7% YoY ท่ามกลางการฟื้นตัวที่เชื่องช้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในไทย และจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่ลดลง 3.9% YoY จากฐานสูงในปีก่อน รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ลดลง 5.3% YoY เนื่องจากการเปลี่ยนของฝ่ายบริหารรัฐบาลทำให้ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่าย
✍️สศช. คงประมาณการ GDP ปี 2568 ไว้ที่ 2.0% แม้ GDP ไทยในไตรมาส 3 จะอ่อนแอ แต่สศช. ยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 2568 ไว้ที่ 2.0% โดยปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกเป็นเติบโต 11.2% จากเดิม 5.5% หลังภาคการส่งออกยังเติบโตได้สูงแม้เผชิญแรงกดดันเชิงลบจากมาตรการกัดกันทางการค้า ขณะที่มีการปรับลดตัวเลขประมาณการการบริโภคภาครัฐลงเหลือ 0.3% จากเดิมมองโต 1.2%
✍️แนวโน้มอ่อนแอจากผลของภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมือง เมื่อมองไปข้างหน้า สศช. คาดว่า GDP จะเติบโตเพียง 0.6% YoY ในไตรมาส 4/2568 และคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงใน 2569 โดยคาดว่า GDP จะเติบโตในกรอบ 1.2–2.2% (ค่ากลางที่ 1.7%) ทั้งนี้ประเมินการส่งออกจะหดตัว 0.3% จากแรงกดดันของมาตรการกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ขณะที่การบริโภคและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนคาดว่าจะเติบโตต่ำในกรอบ 1–3% เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการเลือกตั้งในปีหน้า กอปรกับอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.0–1.0% (ค่ากลางที่ 0.5%)
Implications and Recommendation
📉 แนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของ 2569 เรามอง GDP ไตรมาส 3/2568 ออกมากอ่อนแออย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและบรรยากาศการลงทุนโดยรวม นอกจากนี้ภาพการเติบโตของ GDP ไทยคาดว่าจะยังอ่อนแอไม่เพียงในไตรมาส 4/2568 แต่จะต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 เนื่องจากจะเผชิญฐานในการคำนวนเปรียบเทียบที่สูงหลังการเร่งส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 และอีกทั้งมีความไม่แน่นอนทางการเมืองที่รออยู่ข้างหน้าจากการเลือกตั้งที่มีกำหนดในช่วงต้นปีหน้า
มุมมอง KS
🎯กลยุทธ์การลงทุนแนะนำใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
เราแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากปัจจัยด้านลบใหม่ๆ ยังคงกดดันตลาด โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอและการขาดปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญเข้ามาช่วยหนุน เราประเมินแนวรับด้านจิตวิทยาที่สำคัญของดัชนี SET อยู่ที่ 1,270, 1,230 จุด และโดยเฉพาะที่ระดับ 1,145 จุด ซึ่งเทียบเท่ากับ PE 13 เท่า (–1 SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว) และอิง market EPS ที่ 88 บาท ซึ่งเรามองว่าไม่น่าหลุดระดับนี้ลงไป เว้นแต่ไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นเรามองควรจัดพอร์ตเชิงตั้งรับ เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากปัจจัยลบ โดยเน้นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำ (โรงพยาบาล), กลุ่มที่มีเงินปันผลสูง (ธนาคารและ ICT), และกลุ่มที่อยู่ในระยะฟื้นตัวและผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว (ท่องเที่ยวและขนส่ง)




เปิดพอร์ตลงทุน >> https://ksecurities.co/open-account
Follow us :
LINE : https://ksecurities.co/KS-LineOA
Facebook: https://ksecurities.co/KS-Facebook
Instagram: https://ksecurities.co/KS-Instagram
Twitter: https://ksecurities.co/KS-Twitter
YouTube: https://ksecurities.co/KS-Youtube
Threads: https://ksecurities.co/KS-Threads
#KS #หลักทรัพย์กสิกรไทย #KSecurities #การลงทุน #การลงทุนหลักทรัพย์ #โรงพยาบาล #ธนาคาร #ICT #ท่องเที่ยว #ขนส่ง #เศรษฐกิจ #การเงิน #GDP #กลยุทธ์
ภาษาไทย
English